มทภ.4 เผยออกหมายจับ บึ้มบิ๊กซีปัตตานี11คน ขู่ ถ้าไม่ต้องการสงบก็จะไม่สงบเหมือนกัน

แม่ทัพภาคที่ 4 “เผย” ออกหมายจับคนร้าย ระเบิดห้างบิ๊กซีปัตตานี 11 ราย เตรียมนำผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ “ขู่” ไล่ล่าผู้ก่อเหตุไม่มีแผนดินอยู่ “ฟันธง” กลุ่มผู้ก่อเหตุกลุ่มเดิม กำชับจับกุมภัยแทรกซ้อนทั่ว 14 จังหวัดใต้

วันที่17 พ.ค. พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 เปิดเผยความคืบหน้าคนร้ายลอบวางระเบิด ห้างบิ๊กซีปัตตานี ว่า “จากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดห้างบิ๊กซีปัตตานีนั้น วันแรกได้ออกหมายจับไปแล้ว 1 คน และเมื่อวันที่ 16 พ.ค.60 ได้ออกหมายจับเพิ่มเติม 8 คน รวมเป็นหมายจับ 9 คน และออกหมาย พ.ร.ก.อีก 2 คน เป็น 11 คน

พล.ท.ปิยวัฒน์เปิดเผยว่า ส่วนความคืบหน้ากำลังประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำไปสู่การทำแผน ประกอบคำรับสารภาพการก่อเหตุ โดยจะเริ่มตั้งแต่การไปเอาโทรศัพท์เจ้าของรถมา และลวงออกไปทำร้ายจนเสียชีวิต จนกระทั่งนำรถไปประกอบระเบิด เพื่อนำไประเบิดห้างบิ๊กซี ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำไปประกอบแผนว่ามีขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบอย่างไร

“เชื่อว่าคนที่ลงมือก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิมทั้งหมดที่พยายามก่อเหตุรุนแรงมาโดยตลอด และตนเองได้พูดไปแล้วตั้งแต่ต้นปีว่า ตราบใดที่ยังทำร้ายประชาชน หรือเจ้าหน้าที่ จะจับทุกกรณี ในเมื่อไม่ต้องการให้บ้านเมืองสงบ เราก็จะไม่สงบเหมือนกัน ภัยแทรกซ้อนก็จะจับทุกอย่างทั้งในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้”

Advertisement

พล.ท.ปิยวัฒน์เปิดเผยว่าส่วนในทางด้านยุทธการ ทหาร ตำรวจ และภาคประชาชนทุกคน ก็รู้หน้าที่ในการปฏิบัติเพราะทุกคนเป็นทหารอาชีพ และอยู่กับประชาชนโดยตลอด เพราะฉะนั้นในด้านยุทธการ เราตามบุคคลทั้ง 8-9 คนแน่นอน ซึ่งอาจรวมคนอื่น 15 คน ทั้ง 15 คน เราเรียกเป็น กลุ่มไม่มีพื้นที่ในแผ่นดินไทยให้เขาได้อาศัยอยู่แล้ว เพราะกฎหมายมีอีกหลายปี 10 – 20 ปี หากเขาหลบๆซ่อนๆ ได้ก็หลบไป เจ้าหน้าที่จะทำหน้าที่ติดตามหาตลอดเวลาและทุกทิศทุกทาง

พล.ท.ปิยวัฒน์เปิดเผยว่าภาคประชาชนและชาวบ้านก็ช่วยและร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งชาวบ้านก็ให้ข่าวสารมาบ้างแล้ว ว่าทั้ง 8 คน ได้หลบหนีไปส่วนไหนบ้าง เราก็จะเข้าไปติดตามและสืบหาตัวไปเรื่อยๆ ก็คิดว่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้ ซึ่งทั้ง 8 คน ยังอยู่ในพื้นที่และอาศัยอยู่ตามเชิงเขา ในเมื่อเขาทำกับประชาชน ประชาชนซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงก็เสมือนเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ เราก็จะเดินหน้าเชิงรุกตลอดแนว ทั้งทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และกำลังภาคประชาชน ก็ได้บูรณาการให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่

“ผู้ว่าราชการจังหวัดก็เร่งร่วมมือช่วยกัน ผู้ที่ก่อเหตุขึ้นมาเพื่อมาทำร้ายประชาชนมาทำลายพื้นที่ เราก็จะจับทุกกรณี ของเถื่อนทุกชนิด เราจะจับให้หมด ในส่วนของนายก อบต.ทำการปล่อยตัวไปแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ ซึ่งต้องขอให้นายก อบต.เข้ามาช่วยบอกหลักฐาน”

Advertisement

เมื่อถามถึงขั้นตอนดำเนินการ พล.ท.ปิยวัฒน์เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่ดำเนินการอะไร เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ได้มีการบูรณาการประสานงานกันอย่างเต็มที่ จนสามารถควบคุมตัวบุคคลได้แล้ว และได้มีการพูดคุยในเรื่องการทำแผน จะมีการเชิญผู้นำศาสนามาพูดคุยในวันที่ 20 พ.ค.60 เพื่อมาพูดคุยถึงสถานการณ์ รวมถึงสถานที่ที่เป็นมัสยิดทำไมถึงให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงมาก่อความไม่สงบในสถานที่ได้ มีอาวุธ และการทำร้ายร่างกายในมัสยิดได้ ซึ่งจะขอความร่วมมือจากผู้นำศาสนาว่าไม่ให้ใช้มัสยิด ตาดีกา ปอเนาะ ให้ผู้ก่อเหตุได้นำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งก็จะมาพูดคุยกันในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้

“การฝึกอบรม ได้เชิญ รปภ. ทั้งชายและหญิง ทั้งในส่วนของห้างร้าน บริษัท มา เพื่อมารับฟังว่า การรักษาความปลอดภัยคน การรักษาความปลอดภัยสถานที่ เเละการเดินรถ ควรจะทำอย่างไร แล้วสิ่งบอกเหตุ ที่จะเกิด หรือสิ่งบอกเหตุของพื้นที่ หรือรัศมีของระเบิดจะมีอนุภาพขนาดไหน จะทำให้เหมือนหลักสากล เช่น เหตุการณ์สึนามิ หากเกิดแผ่นดินไหวประชาชนควรต้องทำอย่างไร หากเกิดไฟไหม้ประชาชนต้องทำอย่างไร”

พล.ท.ปิยวัฒน์เปิดเผยว่าจะมีการบันทึกเกี่ยวกับเรื่องเหตุระเบิด เพื่อบอกให้ประชาชนได้รู้ว่า หากเกิดขึ้นจะต้องหลบในระยะเท่าไหร่ จะมีวิธีปฏิบัติตนอย่างไร และให้ รปภ. ทั้งชายและหญิง ได้กลับไปบอกต่อ หรือกระจายข่าวความรู้ที่ได้รับไปยังบุคคลอื่นใกล้ตัวได้เรียนรู้ ซึ่งบุคคลที่ว่าอาจจะเป็นลูกหรือบุตรหลาน ซึ่งเมื่อเขาเติบโต เขาก็จะมีความรู้ในการป้องกันเหตุ ได้อย่างถูกต้อง เหมือนกับต่างประเทศที่สอนให้เด็กได้รู้วิธีการป้องกันตนเองในขั้นต้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ” แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าว

พล.ท.ปิยวัฒน์เปิดเผยว่าเรื่องของธงสีแดง สีเขียว สีเหลือง คงไม่มีอะไรมาก ซึ่งมีข้อเท็จจริงอยู่ว่า ถ้าห้างร้านไหนปฏิบัติตามที่ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดหรือเจ้าหน้าที่ทหารบอก ในเรื่องการติดกล้อง CCTV เราก็จะปักธงสีเขียวให้ หากห้างร้านใด ไม่ยอมติดตั้งกล้อง CCTV ซึ่งเราไปบังคับเขาไม่ได้ เราก็จะทำการปักธงสีเหลืองหรือสีแดง เพื่อให้ประชาชนได้รู้ว่า ห้างนี้ยังมีความปลอดภัยในพื้นที่ไม่เต็ม 100% เรื่องการติดตั้งธงจึงเป็นแค่การแสดงให้ประชาชนได้รู้ว่า พื้นที่ใดปลอดภัย หรือพื้นที่ใดไม่ปลอดภัย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image