“วีระ”เหน็บรัฐบาลเน้นปราบโกงเฉพาะฝ่ายตรงข้าม
วันที่ 4 มิถุนายน นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) เปิดเผยว่า ปัญหาด้านเศรษฐกิจของประเทศที่ฝืดเคืองอยู่ในขณะนี้ ไม่เกี่ยวกับกรณีที่รัฐบาลมีการปราบคอร์รัปชั่นอย่างหนัก แต่เนื่องจากประเทศไทยมีรัฐบาลเผด็จการทหาร แย่งยึดอำนาจไปจากประชาชน นักธุรกิจต่างชาติจึงไม่ค้าขายด้วย เมื่อภาคธุรกิจส่งออกสินค้าไปจำหน่ายได้น้อย เม็ดเงินเข้าประเทศก็ลดน้อยลง บรรดานักธุรกิจส่งออกทราบปัญหาเป็นอย่างดี ส่วนนักวิชาการด้านเศรษฐกิจก็ไม่มีใครกล้าแนะนำ ไม่มีใครออกมาวิจารณ์จากการย้ายฐานการลงทุนไปประเทศเพื่อนบ้าน เพราะมีเสถียรภาพทางการเมืองมากกว่า
นายวีระ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์พูดออกมาอย่างไม่อายปาก ว่ารัฐบาล คสช. ปราบคอร์รัปชั่นอย่างหนักแต่ประสบความยากลำบากในการปราบปราม คงจะเชื่อได้ครึ่งเดียวว่าปราบอย่างหนักเฉพาะนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม ที่ทหาร คสช.ไปแย่งยึดอำนาจมาแต่กรณีผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นคนในรัฐบาลเองหรือเป็นคนใกล้ชิดกับนายกฯประยุทธ์ แม้ว่ามีหลักฐานชัดเจน แต่การตรวจสอบทำกันอย่างลูบหน้าปะจมูกขาดความจริงจังและขาดความจริงใจ และ หากมีการปราบคอร์รัปชันอย่างหนักจริงๆ ทำไมนิตยสารฟอร์สเปิดเผยว่าไทยยังมีการคอร์รัปชั่นสูงเป็นอันดับที่ 3 ในทวีปเอเซีย
“ดังนั้นจึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าปัญหาการทุจริตในวันนี้ หลังการยึดอำนาจเมื่อปี 2557 นักการเมืองถูกเว้นวรรค เพราะยังไม่สามารถประชุมเพื่อทำกิจกรรมกับพรรคการเมืองได้ เพราะฉะนั้นประชาชนต้องให้ความสนใจว่า 3 ปีที่ผ่านมามีพวกไหนเข้าไปโกงบ้านโกงเมืองมากที่สุด แต่อ้างว่าจะมาปราบโกง แล้วล่าสุดยังมาตั้งถามกับประชาชนเพื่อแสวงหาธรรมาภิบาลกับรัฐบาลหน้า สำหรับการแถลงผลงาน 3 ปี ผมขอเรียกร้องให้ คสช.ใช้โอกาสนี้ออกมาแถลงผลงานปราบโกงให้ชัดเจน โดยเฉพาะการเปิดพื้นทีทับซ้อนที่ด่านช่องสายตะกูให้มีการเปิดบ่อนกาสิโน และ การรับเหมางานภาครัฐขององค์การทหารผ่านศึก ” นายวีระกล่าว
