อาวุธลับ!? โดย จำลอง ดอกปิก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (แฟ้มภาพ)

ไพ่ต่อสู้การเซตซีโร่ในมือประธาน กกต. มีใบเดียว ยื่นศาลรัฐธรรมนูญขอให้มีคำวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

เพราะเป็นทางเดียวที่จะชี้ว่า ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และผูกพันให้ต้องแก้ไขต่อไป

ที่จริงมันไม่ใช่อาวุธลับอะไรหรอก แต่เป็นกติกาที่มองเห็น

แปรเปลี่ยนต่อสู้อย่างอื่นไม่ได้ ยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญได้อย่างเดียว

Advertisement

“บิ๊กตู่” เองก็ไม่ต่างกัน ไม่มีอาวุธลับ ไพ่เด็ดอะไร ชนิดที่ว่าหงายออกมากินทั้งวง

หากจะนั่งเก้าอี้นายกฯต่อ ก็ต้องรอเป็นแขกรับเชิญคนนอก ตามช่องทางรัฐธรรมนูญที่เปิดกว้าง ช่องทางเปิดเผย

เพียงแต่การเมืองมันมีระดับความยากมากกว่า

Advertisement

เพราะไม่เพียงแต่มีความชอบธรรมตามระบบเท่านั้น หากยังต้องมีความชอบธรรมทางการเมืองด้วย บางครั้งความชอบธรรมตามระบบอย่างเดียวไม่พอที่จะทำให้เกิดการยอมรับ ทั้งในระดับภายในประเทศ และนานาอารยประเทศ

เมื่อไม่พอ ก็ต้องขวนขยาย เพื่อดำรงคงสถานะเอาไว้ต่อไปทั้งในวันนี้ และการแผ้วถางปูทางเผื่อไว้ในอนาคตวันข้างหน้า

หากวันนี้ไม่ชอบธรรม ไม่ได้รับการยอมรับ ถึงจะเข้ามาด้วยวิธีใหม่ คราบไคลรอยด่าง ก็มิได้จางหายไป ลบง่ายแค่อาศัยการเปลี่ยนผ่านฟอกย้อมเท่านั้น

รัฐบาล คสช.บริหารประเทศมา 3 ปีกว่า

มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดค้ำจุน

อยู่ได้ มีความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว และรัฐธรรมนูญ 2560 ที่มือร่างมาจากการแต่งตั้งโดย คสช.ทั้งสิ้น

ไม่มีใครสามารถโค่นล้มได้

แต่การได้รับการยอมรับในระดับหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นการทั่วไป คือได้รับการยอมรับในทางการเมืองด้วยนั้น

ในทางการเมืองไม่มีใครบ่อนเซาะ ทำอะไรได้ก็จริง

แต่การจะอยู่ต่อไป การปูทางเพื่อก้าวเดินต่อไปในฐานะแขกรับเชิญ

จำเป็นต้องขยายการยอมรับออกไปกว้างขวางมากกว่านี้

อย่างน้อยที่สุด หากไม่ยอมรับ ก็ต้องไม่ปฏิเสธ

จุดอ่อนที่ต้องแก้ไข 2 เรื่องเดิม คือการบริหารจัดการแก้ไขเศรษฐกิจและการต่างประเทศ ที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับการเมืองอย่างลึกซึ้ง ยังเป็นโจทย์ใหญ่ ขวากหนามสำคัญ

ปมปัญหาเศรษฐกิจ หน่วยงานรัฐขยับขานรับกันเป็นทอดๆ ว่า เศรษฐกิจฟื้นแล้ว อวดอ้างตัวเลขต่างๆ แต่หากพลิกดูการสัมภาษณ์ คำการันตีเก่าๆ ไม่ว่าปี 2558, 2559 และปีนี้ 2560 ก็จะพบว่าเป็นหนังม้วนเก่าฉายซ้ำซาก โฆษณาชวนเชื่อ ที่มีคนเชื่อ-มีคนไม่เชื่อ เพราะสวนทางกับสิ่งที่จับต้อง มองเห็นได้ในชีวิตประจำวัน

และถึงนักธุรกิจ ผู้ประกอบการจะออกมาพูดเสียงเดียวกัน เศรษฐกิจฟื้น

แต่คำพูดนักธุรกิจ ผู้ประกอบการที่ต้องเซฟตัวเองตลอด เชื่อได้หรือไม่ ก็ยังเป็นคำถามอยู่

ดูเรื่อง พ.ร.ก.คุมแรงงานต่างด้าวก็ได้ ตอนให้สัมภาษณ์-หลังไมค์โอดครวญ ชี้ว่าใช้ไม่ได้ ออกกฎหมายไม่คิด แต่พอกลับไปยืนเวที สนช. พิจารณาเรื่องเดียวกัน กลับอวยรัฐบาล มีความจำเป็นอย่างนั้น อย่างนี้

นี่เป็นตัวอย่าง

เชื่อได้หรือไม่ ส่วนหน่วยงานราชการไม่ต้องพูดถึง มันพูดอย่างอื่นไม่ได้อยู่แล้ว

อีกเรื่องการต่างประเทศ การจัดอันดับสถานะไทย การอ้าแขนต้อนรับการเยือน ล้วนแต่สะท้อนปฏิกิริยาที่มีต่อรัฐบาลทั้งสิ้น นับแต่ 2557 กระทั่งวันนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น หรือย่ำเท้าอยู่ในจุดเดิม คงพอมองออก

เรื่องจะนั่งเก้าอี้ต่อไม่ยาก

แต่ที่ไม่ง่าย คือการปูทางตั้งแต่วันนี้

ให้ได้รับการยอมรับฝีมือบริหารจัดการเศรษฐกิจ ได้รับการยอมรับจากต่างชาติ

ขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใด ถึงนั่งต่อได้ แต่อาจไปต่อไม่ได้

ขึ้นชื่อว่าแขกรับเชิญ ก็ต้องเหนือกว่า พิเศษกว่า ธรรมดาสอบได้คะแนนปริ่มน้ำมันผิดคอนเซ็ปต์

…………..

 

จำลอง ดอกปิก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image