ที่มา | คอลัมน์ ฟิสิกส์ธรรมดาสาระมันส์ มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | อาจวรงค์ จันทมาศ www.facebook.com/ardwarong |
เผยแพร่ |
ธรรมชาติอีกประการหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับสุริยุปราคาคือ วัฏจักรซารอส (Saros Cycle)
เนื่องจาก Line of Nodes จะหมุนมาครบรอบภายในเวลา 18.61 ปี ดังนั้น เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี Line of Nodes จะหมุนไป 19.34 องศา ทำให้ eclipse seasons ไม่ได้เกิดที่ตำแหน่งเดิมในวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์
แล้วต้องรอนานเท่าใดกว่าสุริยุปราคาจะกลับมาเกิดซ้ำที่ตำแหน่งเดิมในวงโคจรรอบโลกรอบดวงอาทิตย์?
คำตอบคือ 6,585.32 วัน(18 ปี 11 วัน 8 ชั่วโมง)
กล่าวคือ เมื่อเกิดสุริยุปราคาขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว รอจนเวลาผ่านไป ราวๆ 6,585 วัน สุริยุปราคาลักษณะใกล้เคียงกับเดิมมากๆ จะกลับมาเกิดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้เกิดที่ตำแหน่งเดิมอย่างสมบูรณ์เนื่องจาก Line of Nodes ไม่ได้วางตัวในแนวเดิมเทียบกับดาวฤกษ์พื้นหลังเป๊ะ แต่ก็มีการเปลี่ยนตำแหน่งไปน้อยมากๆ
นักดาราศาสตร์เรียกสุริยุปราคาที่เกิดขึ้นห่างกัน 6,585.32 วันซึ่งเกิดในตำแหน่งใกล้เคียงกันมากๆเมื่อเทียบกับดาวฤกษ์พื้นหลังว่าอยู่ในซารอสเดียวกัน
สุริยุปราคาที่อยู่ในซารอสเดียวกันเปรียบได้กับการเกิดในตระกูล (Family) เดียวกัน เนื่องจากสุริยุปราคาในซารอสเดียวกันไม่ได้เหมือนกันอย่างสมบูรณ์ แต่มันจะเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย ดังนั้นสุริยุปราคาในแต่ละซารอสจึงมีการเกิด, เติบโต และจบลงที่การหายไป
คำว่า ซารอส ถูกเรียกครั้งแรกในปี ค.ศ.1619 โดย เอ็ดมัน ฮัลเลย์ (Edmond Halley) นักดาราศาสตร์และนักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ
หนึ่งในซารอสที่สำคัญและน่าจดจำที่สุดคือ ซารอส 136 (Saros 136)
ในปี ค.ศ.1360 สงครามร้อยปี (Hundred Years’War) ได้ดำเนินมาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนในประเทศจีนจักรพรรดิหย่งเล่อ (Yongle Emperor) ได้ถือกำเนิดขึ้นและได้กลายเป็นฮ่องเต้องค์ที่ 3 ของราชวงศ์หมิง
ในวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ.1360 สุริยุปราคาแรกในซารอส 136 เกิดขึ้นที่ทวีปแอนตาร์กติกาและมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ สุริยุปราคาในขณะนั้นเป็นสุริยุปราคาบางส่วนซึ่งดวงจันทร์ได้บังดวงอาทิตย์ไปน้อยมากจนไม่สามารถสังเกตเห็นการบังได้ด้วยตาเปล่า และที่สำคัญคือในขณะนั้นไม่มีใครได้เห็นสุริยุปราคานี้
สุริยุปราคาแรกๆ ของแต่ละซารอสจะเป็นสุริยุปราคาบางส่วนที่การสัดส่วนการบังน้อยมากและเกิดที่ขั้วโลกเสมอ
สุริยุปราคาในซารอส 136 เกิดขึ้นอีกครั้งในปี ค.ศ.1378 จนกระทั่งถึงปี ค.ศ.1486 ล้วนแล้วแต่เป็นสุริยุปราคาแบบบางส่วนซึ่งในแต่ละครั้งคราสเกิดการกินพื้นที่มากขึ้นๆ และตำแหน่งที่เกิดบนโลกค่อยๆ ขยับขึ้นทางขั้วโลกทีละเหนือ
ในปี ค.ศ.1504 เกิดสุริยุปราคาวงแหวนขึ้นที่ชายฝั่งแอนตาร์กติก และสุริยุปราคาครั้งต่อมาที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1522 จนถึงปี ค.ศ.1594 ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสุริยุปราคาวงแหวน ทว่าในครั้งต่อๆ มา ดวงจันทร์ค่อยๆ เคลื่อนเข้าก็โลกทีละนิดๆ
ต่อมาในปี ค.ศ.1612 สุริยุปราคาเกิดขึ้นแบบผสม กล่าวคือ ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกเฉียงใต้เกิดสุริยุปราคาแบบวงแหวนขึ้น แต่ความโค้งของโลกทำให้ผิวโลกเข้าใกล้ดวงจันทร์มากขึ้นทำให้บางส่วนบนโลกเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ต่อมาสุริยุปราคาในปี ค.ศ.1630 จนถึงปี ค.ศ.1685 ก็เป็นสุริยุปราคาแบบผสมทั้งสิ้น
ในที่สุด ปี ค.ศ.1703 เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงขึ้นเป็นครั้งแรกของซารอส 136
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่าทำไมซารอส 136 จึงสำคัญ ครั้งหน้าจะเล่าให้ฟังถึงความสำคัญของสุริยุปราคาครั้งนี้นะครับ