ไม่เหนือความคาดหมาย สำหรับโผโยกย้ายนายทหารประจำปี 2560 ที่เพิ่งประกาศลงเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา สดๆ เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา
เริ่มที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ย้ายข้ามห้วย “บิ๊กเข้” พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ (ตท.18) ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม แทน “บิ๊กช้าง” พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม เกษียณอายุราชการ “บิ๊กเข้” เป็นหนึ่งในทหารสายบูรพาพยัคฆ์และทหารเสือราชินี โดยมี “บิ๊กณัฐ” พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ (ตท.20) หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม น้องเลิฟ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ขึ้นเป็นรองปลัดฯ เพื่อจ่อเก้าอี้ปลัดฯในปีหน้า
สำหรับเส้นทางราชการของ “บิ๊กณัฐ” เป็นน้องรัก (มาก) ของ “พี่ป้อม” ที่ติดสอยห้อยตามกันมานาน จัดว่าเป็นนายทหารคู่ใจ เห็น “บิ๊กป้อม” ที่ไหน ต้องเห็น “บิ๊กณัฐ” ด้วยเสมอ เพราะ “บิ๊กณัฐ” เคยเป็นทหารฝ่าย เสธ.ช่วยที่ “บิ๊กป้อม” เป็นรัฐมนตรี พ.ศ.2552 สมัยรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากนั้น พี่ป้อมได้ส่ง “น้องณัฐ” ไปเป็นผู้บังคับการจังหวัดทหารบกกาญจนบุรี พ.ศ.2553 และเป็นผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 พ.ศ.2556 จนกระทั่งขึ้นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 พ.ศ.2557 ทั้งยังเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อีกด้วย
จากนั้น ก็ขยับเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 และขึ้นเป็นรอง เสธ.ทบ. ควบตำแหน่ง ผอ.ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ศปป. แห่ง คสช. เพียง 6 เดือน บารมี “พี่ป้อม” ดันน้องชายขึ้นเป็น พล.อ. ย้ายข้ามห้วยมาเป็นหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม และเปิดทางให้เป็นรองปลัดฯ เพื่อเข้าคิวในปีหน้า อย่างปราศจากคู่แข่ง เพราะ “พี่ป้อม” ได้โยก พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ ผอ.สำนักนโยบายและแผน ไปเป็นเลขาฯ สมช. แทน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นไปตามคาด “บิ๊กต๊อก” พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ (ตท.17) เสนาธิการทหารขึ้นเป็น ผบ.ทสส. แทน “บิ๊กปุย” พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผบ.ทสส. เกษียณอายุราชการ พร้อมกับปูทางให้ “บิ๊กกบ” พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญจศรี (ตท.18) รองเสนาธิการทหาร ขึ้นเป็นเสนาธิการทหาร เพื่อต่อคิวเป็น ผบ.ทสส. ในอนาคต สำหรับกองทัพเรือไม่ผิดคาดที่เก็งกันไว้ เพราะระบบการปรับย้ายยึดหลักอาวุโส และคุณธรรม ของ “บิ๊กณะ” พล.ร.อ.ณะ อารีนิช ผบ.ทร. ที่ยึดถือ ก็ได้เสนอ “บิ๊กนุ้ย” พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ (ตท.16) ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ (ผช.ผบ.ทร.) ขึ้นเป็น ผบ.ทร.คนใหม่ แทน ขยับคู่แคนดิเดต “บิ๊กลือ” พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ (ตท.18) เสธ.ทร. ไปเป็น รอง ผบ.ทร.เพื่อชิงเก้าอี้ ผบ.ทร.ในอนาคต
ปิดท้ายที่ไฮไลต์อย่างกองบัญชาการกองทัพบก แม้ว่าปีนี้ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ยังเป็น ผบ.ทบ. อีก 1 ปี จนเกษียณในปีหน้า แต่ก็มีดาวรุ่งอย่าง “บิ๊กแดง” พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ (ตท.20) แม่ทัพภาคที่ 1 น้องรักของ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ขยับเป็น ผช.ผบ.ทบ. เพื่อจ่อชิง ผบ.ทบ.ในปีหน้า
สำหรับ “บิ๊กแดง” พล.ท.อภิรัชต์นั้น เป็นที่รู้จักมักคุ้นกันดีอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นลูกชายของ “บิ๊กจ๊อด” พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ผบ.ทสส. และหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.)
โดยบิ๊กแดง เป็นนายทหารที่เติบโตในสายวงศ์เทวัญ เคยเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) เคยนำกำลังทหารปฏิบัติการยึดคืนสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมไทยคมที่จังหวัดปทุมธานี จากการยึดครองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จนเป็นปฏิปักษ์กับคนเสื้อแดง
และเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนรัฐบาลเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศ ชะตากรรมของเขาก็ต้องหลีกเลี่ยงอุณหภูมิการเมือง ย้ายไปเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 จ.ฉะเชิงเทรา และเป็นผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 จ.เพชรบุรี จนกระทั่งขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) ในช่วงวิกฤตการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองของ กปปส.
เมื่อสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น บทบาทเขาก็เปลี่ยนเช่นกัน เมื่อ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ที่นั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ. ขณะนั้น ตัดสินใจกระทำรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 บิ๊กแดงกลายเป็นนายทหารคู่ใจ โดยเป็น ผบ.พล.1 รอ. 6 เดือน ก็ขยับขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 และเป็น สนช.อีกด้วย
จากนั้น เส้นทางชีวิตราชการของเขาก็ถือว่าไม่ธรรมดา เป็น “พล.ท.” มีตำแหน่งเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 เป็นประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือประธานบอร์ดกองสลาก ขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 เมื่อปี 2559 กระทั่งปี 2560 “บิ๊กแดง” ก็เข้าไลน์ 5 เสือ ทบ. ขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทบ. ยศ “พล.อ.” เพื่อเป็น ผบ.ทบ.ในอนาคต
ขณะเดียวกัน ยังมีม้ามืดอย่าง “บิ๊กอ้อม” พล.ท.วีรชัย อินทุโสภณ (ตท.18) จาก ผบ.หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) น้องรักของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร ส่งเข้าประกวดขึ้นมาเป็น ผช.ผบ.ทบ. เข้าไลน์ ชิง ผบ.ทบ.ด้วยเช่นกัน
บิ๊กอ้อมถือเป็นหนึ่งในทหารสายบูรพาพยัคฆ์ เติบโตในพื้นที่กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) และเริ่มรับราชการในกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) ก่อนจะไปอยู่กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 รอ.) ทำงานใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร และ “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช องคมนตรี แต่ไม่ได้ขึ้นคุมกำลังเป็นผู้การกรม เพราะต้องข้ามห้วยไปอยู่สำนักปลัดกระทรวงกลาโหมนับตั้งแต่นั้นมา
เป็นทหารสายวิชาการ เป็นผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร และเป็นรองเจ้ากรมสรรพกำลังทหาร และก้าวขึ้นมาเป็นเจ้ากรมวิทยาศาสตร์ทหารบก จากนั้น ขยับขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน จนกระทั่งปี 2558 สมัย “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช เป็นผู้บัญชาการทหารบก ขณะนั้น ก็ดัน “บิ๊กอ้อม” ขึ้น ผบ.นรด.ในที่สุด
บทบาทของเขาเมื่อเป็น ผบ.นรด. ได้สนองนโยบายรัฐบาล และ คสช. ได้ดีเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะช่วงการทำประชามติ และเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ “บิ๊กอ้อม” คนนี้แหละได้คิดค้นโครงการ “รด.จิตอาสา” โดยเอาเยาวชนทั้ง ชายและหญิง ที่เรียนนักศึกษาวิชาทหาร มาอบรมความรู้ และสร้างความเข้าใจถึงสาระ และแก่นแท้ของร่างรัฐธรรมนูญ จากนั้น ก็ลงพื้นที่ไปสร้างการรับรู้ และความเข้าใจกับประชาชนทุกพื้นที่ ผลงานนี้ มีส่วนให้ “บิ๊กป้อม” ดัน “บิ๊กอ้อม” ขึ้นมาเป็น “ผช.ผบ.ทบ.” ครองยศ “พล.อ.” ในที่สุด
นอกจากนี้ ในส่วนของคุมกำลังได้ขยับ “บิ๊กตู่เล็ก” พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา (ตท.20) แม่ทัพน้อยที่ 1 ในสายบูรพาพยัคฆ์น้องรัก “บิ๊กป้อม” ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ขณะที่ “บิ๊กหนุ่ย” พล.ต.ธรรมนูญ วิถี (ตท.22) รองแม่ทัพภาคที่ 1 น้องรัก พล.อ.ธีรชัย นาควานิช องคมนตรี ขยับเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 “บิ๊กนัย” พล.ต.สุนัย ประภูชะเนย์ รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) เป็น ผบ.นสศ. พล.ต.ธรากร ธรรมวินทร รองแม่ทัพภาคที่ 2 ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 “บิ๊กหนุ่ม” พล.ต.สนิธชนก สังขจันทร์ ผบ.มทบ. 11 น้องรัก “บิ๊กป้อม” ย้ายข้ามไปเป็น ผบ.พล.ร.9 คุมกำลังฝั่งตะวันตก, พ.อ.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง เป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. พ.อ.สุวิทย์ เกตุศรี รอง ผบ.พล.ม.2 รอ.เป็น ผบ.พล.ม. 2 รอ.
มีภารกิจสำคัญเพื่อดูแลความมั่นคง ในวาระที่ประเทศไทยย่างเท้าเข้าสู่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี’61 ตามโรดแมปของ “คสช.”
