ดีเอสไอเตรียมธูปเทียนแพ กราบสมเด็จช่วง สอบปากคำปมครอบครองรถโบราณพรุ่งนี้

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่จะนำคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เดินทางไปสอบปากคำสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เจ้าของรถโบราณ เมอร์เซเดสเบนซ์ ทะเบียน ขม 99 ในวันที่ 16 มี.ค.นี้ เวลา 20.00 น. ตามที่ทางวัดปากน้ำ ได้เป็นผู้นัดหมาย ว่า สำนักคดีภาษีอากร ซึ่งเป็นผู้รับชอบในคดีการตรวจสอบรถยนต์หรู 7,123 คัน และเป็นพนักงานสอบสวนที่จะเดินทางไปสอบปากคำสมเด็จช่วงในวันที่ 16 มี.ค.นี้ เวลา 20.00 น.ได้ร่วมกันประชุมเพื่อกำหนดประเด็นที่จะเข้าสอบปากคำสมเด็จช่วงในวันดังกล่าว โดยมอบหมายให้พนักงานสอบสวนไปเตรียมประเด็น ซึ่งเราคงสอบในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการที่สมเด็จช่วงมีชื่อเป็นผู้ครอบครองรถโบราณคันดังกล่าว รวมถึงที่มาที่ไปของรถโบราณว่าได้รับรถมาอย่างไร ครั้งนี้เป็นเพียงปากคำในฐานะพยานไม่ใช่ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นการสบถามข้อมูลจาก สมเด็จช่วงโดยตรง

พ.ต.ท.สมบูรณ์กล่าวอีกว่า การเดินทางเข้าสอบปากคำในครั้งนี้ ตนในฐานะรองอธิบดีดีเอสไอ ที่กำกับดูแลสำนักคดีภาษีอากร และได้รับมอบหมายจาก พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ให้เป็นตัวแทนในการนำพนักงานสอบสวนเข้าพบสมเด็จช่วงเท่านั้น เพื่อไปกราบนมัสการ และบอกถึงวัตถุประสงค์ เพื่อให้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการต่อในขั้นตอนสอบปากคำต่อไป ส่วนจะใช้เวลาสอบปากคำนานเท่าไรนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ ทั้งนี้ ตนจะนำคณะพนักงานสอบสวนเดินทางออกจากดีเอสไอในเวลา 16.00 น. เพื่อเข้าพบสมเด็จช่วงตามเวลาที่ได้นัดหมายกันไว้เวลา 20.00 น.

“ดีเอสไอจัดชุดเข้าสอบปากคำ 7 คน ประกอบด้วยอัยการ 2 คน พนักงานสอบสวนดีเอสไอ 5 คน และได้เตรียมดอกไม้ ธูปเทียนแพ เข้ากราบคารวะตามประเพณีด้วย ระหว่างการสอบปากคำ ไม่จำเป็นต้องมีทนายร่วมก็ได้ เพราะหลักการสอบสวน พยานไม่จำเป็นต้องมีทนายความ แต่สมเด็จช่วง มีอายุค่อนข้างเยอะ อาจจะมีคนสนิทร่วมนั่ง รับฟังได้ ยืนยันว่าจะไม่มีการสอบท่านตามลำพังอย่างแน่นอน ดีเอสไอให้เกียรติ เพราะท่านเป็นเพราะชั้นผู้ใหญ่”พ.ต.ท.สมบูรณ์กล่าว

พ.ต.ท.สมบูรณ์กล่าวต่อว่า นอกจากประเด็นการเข้าสอบปากคำสมเด็จช่วงแล้ว ทางพนักงานสอบสวนยังได้พูดคุยถึงการดำเนินการตรวจสอบรถยนต์หรู 7,123 คันด้วยว่าเราจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งในที่ประชุมได้สรุปว่าจะให้สำนักคดีพิเศษภาค ดีเอสไอ เข้ามาร่วมตรวจสอบ เนื่องจากก่อนหน้านี้ สำนักคดีพิเศษภาคได้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวมาแล้ว และมีข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์หรูในจำนวนดังกล่าว ซึ่งตนจะหารือกับ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีดีเอสไอ ที่กำกับดูแลสำนักคดีพิเศษภาคอีกครั้ง ก่อนรายงานให้อธิบดีดีเอสไอทราบ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image