ถ้าพูดถึงเอปสัน เราก็จะนึกถึงพรินเตอร์ โปรเจ็กเตอร์ สำหรับบุคคลทั่วไป แต่จากนี้ไปเอปสันประกาศว่า จะเดินหน้ารุกตลาดองค์กรธุรกิจทุกระดับ พร้อมกับเปิดตัวแคมเปญใหม่ “เพราะเราใส่ใจรายละเอียด” (It’s in the Detail) เพื่อขับเคลื่อนแบรนด์สู่การเป็นแบรนด์นวัตกรรมเพื่อธุรกิจบีทูบี (B2B) ของประเทศไทย
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เมื่อปี 2559 เอปสันได้ประกาศวิสัยทัศน์ “เอปสัน 25” ซึ่งกำหนดเป้าหมายสำหรับปี ค.ศ.2025 เอาไว้ว่า เอปสันจะสร้าง Connected Age ยุคใหม่ที่จะเชื่อมโยงผู้คน สิ่งของ และข้อมูลเข้าด้วยกัน ผ่านเทคโนโลยีอันทรงประสิทธิภาพและแม่นยำ ที่มีขนาดกะทัดรัดของเอปสัน ที่แบ่งออกเป็น 4 สายผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ พรินเตอร์ อุปกรณ์สื่อสารด้วยภาพ อุปกรณ์สวมใส่ติดตัวหรือพกพาได้ และหุ่นยนต์
ซึ่งวิสัยทัศน์ดังกล่าวได้กำหนดตั้งแต่แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงกลุ่มเป้าหมายการทำตลาดของบริษัทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่เอปสันเริ่มรุกตลาดองค์กรธุรกิจ หรือ บีทูบีอย่างเต็มตัวตั้งแต่ปี 2558 ธุรกิจของเอปสันทั่วภูมิภาคก็เติบโตขึ้นเฉลี่ยปีละ 11.3 เปอร์เซ็นต์
นายยรรยงกล่าวว่า พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีของธุรกิจต่างๆในกลุ่มองค์กรธุรกิจ เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้โอกาสทางธุรกิจของเอปสันเปิดกว้างยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความนิยมใช้อิงค์แท็งค์พรินเตอร์ แทนเลเซอร์พรินเตอร์ และเครื่องถ่ายเอกสารในออฟฟิศที่เพิ่มมากขึ้น หรือจะเป็นการใช้โปรเจ็กเตอร์ความสว่างสูงเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อการขายและการตลาด หรือการที่วงการแฟชั่นและอุตสาหกรรมสิ่งทอเริ่มนำพรินเตอร์สำหรับมืออาชีพเข้ามาช่วยในขั้นตอนการออกแบบและผลิตชิ้นงาน ไปจนถึงการนำหุ่นยนต์แขนกลมาใช้ในไลน์การผลิตภายในโรงงานอุตสาหกรรมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม นายยรรยงกล่าวว่า การรุกตลาดองค์กรธุรกิจมากขึ้น ไม่ได้แปลว่าจะทิ้งตลาดคอนซูเมอร์ เพียงแต่หมายถึงการที่จะเข้าไปทำตลาดในองค์กรธุรกิจให้มากขึ้น โดยแคมเปญสื่อสารการตลาด It’s in the Detail นี้ มีขึ้นเพื่อสื่อสารกับธุรกิจทั่วประเทศไทยว่า ทุกนวัตกรรมของเอปสันนั้น ผ่านการใส่ใจในทุกรายละเอียด จึงสามารถตอบโจทย์ของทุกธุรกิจได้อย่างสมบูรณ์แบบ เอปสันจึงเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งเพื่อธุรกิจบีทูบีอย่างแท้จริง
นายยรรยงยังได้กล่าวถึง 4 ผลิตภัณฑ์หลักของเอปสันที่จะช่วยส่งเสริมองค์กรธุรกิจว่า ในส่วนของพรินเตอร์นั้น เป็นที่รู้กันดีว่า เอปสันมีเทคโนโลยีหัวพิมพ์ไมโครปิเอโซ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี PrecisionCore Line Head ที่ช่วยทำให้พิมพ์งานได้เร็วขึ้น ได้คุณภาพที่ดีขึ้น และรองรับการพิมพ์งานได้มากขึ้น ช่วยให้ประหยัดต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่น คุ้มค่ากว่าเลเซอร์พรินเตอร์และเครื่องถ่ายเอกสาร
ส่วนของผลิตภัณฑ์อุปกรณ์สื่อสารด้วยภาพ อย่างโปรเจ็กเตอร์ เอปสันมุ่งนำเสนอความแตกต่างและข้อได้เปรียบของโปรเจ็กเตอร์เอปสันเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ด้วยการสร้างประสบการณ์การใช้งานโปรเจ็กเตอร์จริง ในสภาพแวดล้อมของธุรกิจประเภทต่างๆ รวมถึงในชีวิตประจำวันของลูกค้า และล่าสุด เอปสันก็ยังมีเลเซอร์ โปรเจ็กเตอร์ความสว่างสูง เพื่อรองรับความต้องการจากองค์กรขนาดใหญ่ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ธุรกิจบริการให้เช่าเครื่องโปรเจ็กเตอร์ ธุรกิจพัฒนาคอนเทนต์ และออร์แกไนเซอร์
สำหรับผลิตภัณฑ์แว่นตาอัจฉริยะ มูฟเวอริโอ (Moverio) ทางเอปสันได้เตรียมที่จะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายและทำกิจกรรมการตลาดมากขึ้น และร่วมกับพาร์ตเนอร์เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับเพิ่มศักยภาพการใช้งานมูฟเวอริโอในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น
ส่วนอุปกรณ์สวมใส่ติดตัวหรือพกพาได้นั้น ก็จะมีผลิตภัณฑ์แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ สปอร์ตแอนด์เฮลธ์แคร์ กลุ่มแฟชั่น และกลุ่มที่เป็นนาฬิกา และสุดท้าย สำหรับผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์ ตอนนี้ ของเอปสันยังคงเป็นแขนกลหุ่นยนต์อยู่ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่เรื่องความแม่นยำ และมีการนำเรื่องของปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ ใส่เข้าไป เพื่อช่วยกำหนดความคิดของหุ่นยนต์ได้ ซึ่งส่วนใหญ่ แขนกลหุ่นยนต์ของเอปสัน จะยังคงมีใช้งานอยู่ในโรงงาน แต่ในอนาคตจะมีการพัฒนาเพื่อกลุ่มอื่นๆ ต่อไป เนื่องจากมีการคาดการณ์กันว่า ตลาดหุ่นยนต์จะมีการเติบโตที่ดีในอนาคตอย่างแน่นอน เนื่องจากจะมีหุ่นยนต์เข้าไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม รวมไปถึงกลุ่มดูแลผู้สูงอายุ
ท้ายที่สุด นายยรรยงกล่าวว่า เชื่อมั่นว่า ปีหน้าน่าจะเป็นปีที่สดใส เพราะจะมีความเชื่อมั่นจากภาคธุรกิจ รวมไปถึงนโยบายต่างๆ จากภาครัฐที่จะออกมาเพื่อช่วยกระตุ้นธุรกิจต่างๆ มากขึ้น
เอปสันประเทศไทยมั่นใจว่า กลยุทธ์ในการรุกธุรกิจบีทูบี จะทำให้ธุรกิจของเอปสันเติบโตได้ตามเป้าหมายที่กำหนดในวิสัยทัศน์ เอปสัน25 ในอัตราไม่ต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2568
