“บิ๊กอสังหาฯ”มั่นใจปีหน้าอสังหาฯ โตกว่า 6% ดันยอดสินเชื่อทะลุ6แสนล้าน-ศูนย์ข้อมูลยันไม่โอเวอร์ซัพพลาย

เมื่อเวลา 14.00 น. หนังสือพิมพ์ประชาชาติ ร่วมกับบริษัท แกรนด์โฮม มาร์ท จำกัด จัดงานสัมมนา “ส่องอสังหาฯ 2018” ที่ แกรนด์โฮม บางนา กม.10 โดย

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้ที่ออกมาขยายตัวดีขึ้นและคาดโตต่อเนื่องในปี 2561 เชื่อว่าอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) จะขยายตัวได้มากกว่า 4% แต่ต้องมาลุ้นตัวเลขจริงว่าจะเติบโตได้เท่าไร สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ตัวเลขที่สะท้อนภาวะเศรษฐกิจ คือ ตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งช่วงปลายปี 2559 ต่อต้นปี 2560 ยังชะลอตัวจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ทำให้ดึงความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยส่วนหนึ่งไปก่อนหน้านี้ แต่ช่วงปลายปีดีขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าขณะที่ปี 2561 การโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศจะขยายตัว 6.1% โดยกรุงเทพฯ และปริมณฑลขยายตัวกว่า 8.6% ส่วนภูมิภาคขยายตัวประมาณ 2% ผลจากจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนทั่วประเทศที่ขยายตัวถึง 17% ด้านมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มสูงขึ้นตามราคาที่อยู่อาศัยที่ 12.6% ทำให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ขยายตัว 3.9% หรือ 6.1 แสนล้านบาท

“สิ้นปี 2560 นี้มี คาดมียูนิตเหลือขาย 2.6 แสนยูนิต ส่วนสิ้นปี 2561 คาดมีจำนวนเหลือขาย 2.7 แสนยูนิต โดยกรุงเทพฯและปริมณฑล เพิ่มขึ้นจากจำนวนอาคารชุดและแนวราบเท่าๆกัน แต่ในภูมิภาคจำนวนแนวราบเพิ่มขึ้นเป็นหลัก มีอาคารชุดมีบ้างใน จ.ภูเก็ต จ.เชียงใหม่ ซึ่งการระบายซัพพลายอยู่ในระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยปีที่ผ่านๆ มา จึงมั่นใจซัพพลายระดับนี้ ไม่เกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลายและจำนวนซัพพลายเพียงพอต่อความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่เติบโตต่อเนื่อง” นายวิชัย กล่าว

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปและสะท้อนทิศทางในอนาคต เช่น นักลงทุนต่างชาติเข้ามาร่วมทุนกับผู้ประกอบการไทย ผู้ประกอบการรายใหญ่มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น การพัฒนาโครงการใหม่ขยายพื้นที่ไปยังทำเลต่างจังหวัดมากขึ้น ตามการลงทุนภาครัฐและการขยายตัวของเมืองจากหัวเมืองหลักไปสู่เมืองรอง ขนาดของยูนิตที่อยู่อาศัยเล็กลง ต้นทุนในการพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละรายต้องปรับตัวเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ให้ได้ และต้องสร้างจุดแข็งของตนเอง

Advertisement

นายแสนผิน สุขี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทพัฒนาเฉพาะโครงการแนวราบเป็นพื้นฐานอสังหาริมทรัพย์ ส่วนคอนโดมิเนียมเป็นส่วน นอกจากการพัฒนาในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้ว ในอนาคตจะขยายตลาดไปต่างจังหวัดหลัก เพราะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ เขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นต้น ทั้งนี้ เรื่องทำเลยังเป็นเรื่องสำคัญ และต้องมีการนำนวัตกรรมใหม่มาใช้กับการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า ทั้งนี้ ยังมีความร่วมมือกับสถาบันการเงินเพื่อลดอัตราการปฏิเสธสินเชื่อด้วย

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก เพราะปัจจุบันลูกค้ามีกำลังซื้อและพร้อมที่จะจ่ายในสิ่งที่เหมาะสม ดังนั้น การพัฒนาอสังหาริใทรัพย์ โดยเฉพาะในตลาดซูเปอร์ลักซัวรี่ ต้องคำนึงถึงฟังก์ชั่น นำเทคโนโลยีมาใช้ และการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ลูกค้า รวมทั้ง ต้องอธิบายที่มาที่ไปได้ และในอนาคตการพัฒนาที่อยู่อาศัยต้องเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย และให้สอดคล้องกับเทรนด์ต่าง ๆ เพราะเมื่อโลกเปลี่ยนเราก็ต้องเปลี่ยนอย่าฝืน เช่น แชร์ริ่งอีโคโนมี โคเวิร์คกิ้งสเปซ สุขภาพ นอกจากตลาดในประเทศแล้ว การขยายตลาดต่างประเทศสามารถช่วยผลักดันยอดขายของบริษัทในอนาคตได้

เศรษฐา ทวีสิน

นางสาวจามรี เกษตระกูล รองผู้จัดการใหญ่ผู้บริหารสูงสุดสินเชื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารต้องมีการทรานฟอร์มส์ให้ทันกับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งปัจจุบันลูกค้านิยมสื่อสารข้อมูลผ่านช่องทางดิจิทัล รวมทั้งพฤติกรรมการที่อยู่อาศัยที่อยู่มีการคอนโดมิเนียมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่การขยายตัวตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่หวือหวา ธนาคารได้นำแพลตฟอร์มบิ๊กดาต้ามาวิเคราะห์เพื่อให้บริการที่ดีที่สุดกับลูกค้า แทนที่จะมีการแข่งขันดอกเบี้ย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image