สธ.เฝ้าระวัง ‘โรต้า-โนโร’ หวั่นอุจจาระร่วงระบาด

เมื่อวันที่ 10 มกราคม นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีพบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน และอาหารเป็นพิษ ซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสโนโร (Norovirus,NoV) และไวรัสโรต้า (Rotavirus) ว่า พบได้ในคนทุกกลุ่มอายุและทั่วโลก และเป็นโรคที่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ห้องปฏิบัติการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เฝ้าระวังโรคอุจจาระร่วงจากไวรัสทั้ง 2 ชนิด

“จากการเฝ้าระวังทางห้องปฏิบัติการตั้งแต่ปี 2557–เดือนตุลาคม 2560 ได้รับตัวอย่างทั้งจากผู้ป่วยและน้ำดื่มน้ำใช้ ที่คาดว่าเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอุจจาระร่วง จํานวนทั้งสิ้น 990 ตัวอย่าง พบตัวอย่างที่ให้ผลบวก (พบไวรัส) จำนวน 273 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 27.6 เมื่อนำตัวอย่างที่ให้ผลบวกมาจำแนกชนิดของไวรัส พบว่า ไวรัสโนโร เป็นไวรัสที่พบมากคิดเป็นร้อยละ 76.2 ของจำนวนตัวอย่างที่ให้ผลบวก และจีโนกรุ๊ป 2 (GII) เป็นกรุ๊ปที่พบมากที่สุด โดยพบสายพันธุ์ย่อยเป็น GII.2 และ GII.4 เป็นส่วนใหญ่ ที่เหลือเป็นไวรัสโรต้า คิดเป็นร้อยละ 19.8 ของจำนวนตัวอย่างที่ให้ผลบวก” นพ.สุขุม กล่าวและว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้อัตราการพบไวรัสโรต้าในกลุ่มอาการอุจจาระร่วงลดลง มีผลมาจากการใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคอุจจาระร่วง ประชาชนควรดื่มน้ำที่สะอาดหรือน้ำต้มสุก รับประทานอาหารที่สะอาด และปรุงสุกใหม่ๆ ไม่ควรรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ หรืออาหารที่มีแมลงวันตอม หากจะเก็บอาหารที่ค้างมื้อควรเก็บไว้ในตู้เย็น และก่อนรับประทานต้องอุ่นให้ร้อนทุกครั้ง และควรล้างมือด้วยสบู่ ให้สะอาดทุกครั้งก่อนปรุงหรือรับประทานอาหาร และภายหลังจากการเข้าห้องน้ำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image