สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มกราคม ดีโบลด์ นิกซ์ดอร์ฟ อิงค์ และเอ็นซีอาร์ คอร์ป. 2 ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตตู้เอทีเอ็มใช้กันทั่วโลกยอมรับว่า ได้ออกคำเตือนไปยังลูกค้าที่ใช้ตู้เอทีเอ็มของบริษัทให้เร่งดำเนินการเพื่อป้องกันวิธีการเจาะระบบตู้เอทีเอ็ม ปรับแต่งคอมพิวเตอร์คุมระบบเพื่อให้ปล่อยเงินออกมาจนหมดตู้ ที่เรียกกันว่า วิธี “แจ็คพอทติง” กลับมาระบาดในหลายจุดในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ทั้งดีโบลด์ และเอ็นซีอาร์ ไม่ได้ระบุว่าใครตกเป็นเหยื่อ และไม่ได้เปิดเผยจำนวนเงินรวมที่สูญเสียไปจากกรณีนี้แต่อย่างใด
เหตุเจาะระบบดังกล่าวถูกเปิดเผยเป็นครั้งแรกในวันเดียวกันโดยเว็บไซต์ “เคร็บส์ ออน ซีเคียวริตี” เว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเจาะระบบต่างๆ ซึ่งระบุเอาไว้ว่าวิธีนี้เริ่มพบเป็นครั้งแรกในเม็กซิโก เมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม “กรุ๊ป ไอบี” บริษัทให้บริการความปลอดภัยทางไซเบอร์ของรัสเซีย รายงานว่า อาชญากรไซเบอร์เคยใช้วิธีการเดียวกันนี้จัดการกับตู้เอทีเอ็มในกว่า 12 ประเทศทั่วยุโรปในปี 2559 และมีรายงานพบเหตุทำนองเดียวกันในไทยและไต้หวัน ด้วยในปีเดียวกัน
เอ็นซีอาร์ยืนยันการออกคำเตือนดังกล่าวกับรอยเตอร์เมื่อวันที่ 28 มกราคมนี้ โดยระบุว่า ในคำเตือนที่ส่งไปยังลูกค้าของบริษัท ระบุเอาไว้ว่า ได้เกิดเหตุหลายกรณีขึ้นในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 27 มกราคมซึ่งถือเป็นเหตุการณ์การเจาะระบบด้วยวิธีนี้เป็นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา โดยในการโจมตีครั้งนี้เครื่องเอทีเอ็มของบริษัทไม่ได้ตกเป็นเป้าแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าเหตุครั้งนี้ต้องถือเป็นเหตุน่าวิตกสำหรับอุตสาหกรรมเอทีเอ็มทั้งระบบ ดังนั้นผู้ที่ติดตั้งเครื่องเอทีเอ็มทั้งหมด จึงถูกร้องขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ที่เหมาะสมเพื่อปกป้องเครื่องจากการถูกโจมตีด้วยวิธีการแบบนี้
