อดีตรมว.สธ. ชี้ รัฐพยายามทำบัตรทองเป็นการสงเคราะห์คนจน แถมยังมองเป็นภาระการเงิน

อดีตรมว.สธ. ชี้ รัฐพยายามทำบัตรทอง เป็นการสงเคราะห์คนจน มองเป็นภาระการเงินของประเทศ ขณะที่ ภาคปชช. จี้รัฐควบคุมค่ารักษารพ.เอกชน

เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุมชั้น 2 สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถ.สามเสน โครงการสร้างคนดี มองการณ์ไกล ไทยรุ่งเรือง มูลนิธิหมอเสม พริ้งพวงแก้ว จัดเสวนาสาธารณะ ในหัวข้อ ‘จากก้าวคนละก้าว สู่ข้อเสนอปฎิรูประบบสาธารณสุขไทย’ โดยนพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า อนาคตหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทองนั้น หลายฝ่ายมีความกังวลเป็นอย่างมาก และคิดว่าในอนาคตไม่สามารถวางใจไม่ได้เนื่องจากยังถูกถูกซอนไซอยู่เรื่อยๆ จากผู้บริหารที่ไม่เข้าใจถึงหลักการ ทั้งนี้หลักการประกันสุขภาพฯ ใช้งบประมาณไม่เกิน 17 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ซึ่งสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้จึงไม่กระทบกับงบประมาณของประเทศ นอกจากนี้ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ไม่กล้ายกเลิกบัตรทอง แต่จะพยายามทำให้เป็นโครงการเพื่อสงเคราะห์คนจน ผู้ยากไร้ การสนับสนุนดูแลให้ดีขึ้นจะเป็นเรื่องยากลำบาก เพราะคิดว่าเป็นภาระของการเงินการคลังของประเทศ และยังไม่มีรัฐบาลใดจะมองว่าเป็นการลงทุนเพื่อการพัฒนาประเทศ พัฒนาพลเมือง นอกจากนี้ระบบสาธารณสุขของไทยยังไม่ถูกปฏิรูปอย่างจริงจัง ในขณะที่ประเทศมีการเปลี่ยนในหลายด้าน เช่น ประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือไม่มีการมองระบบสาผธารณสุขให้รอบด้าน ไม่แก้ไขในสิ่งที่สามารถทำได้ และนำส่วนที่มีประโยชน์มาเสริมการสร้างระบบสุขภาพที่แข็งแรง

ด้านนางสารี อ๋องสมหวัง เลขามูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ตนขอเสนอแนวปฏิรูประบบสาธารณสุข คือ ให้ระบบการบริการสาธารณสุขของข้าราชการ บัตรทอง ประกันสังคม ใกล้เคียงกันมากที่สุด ซึ่งผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น ทั้งนี้การปฏิรูปจะเกิดขึ้นได้ต้องปรับเปลี่ยนความคิดคนในสังคมและผู้บริหารต้องมองว่าเป็นสวัสดิการของแผ่นดินที่ประชาชนทุกคนต้องได้รับ นอกจากนี้รัฐบาลจะต้องกำกับระบบ และการตรวจสอบโรงพยาบาลเอกชนเรื่องค่ารักษาพยาบาล ที่จะต้องไม่สูงเกินไปให้ได้ รวมถึงต้องมีกฎหมายหรือกลไกการลดฟ้องคดีกับแพทย์ โดยการให้มีกฎหมายเยียวยาคนไข้หรือแพทย์ที่ได้รับผลกระทบจากการรักษา ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ยังไม่มีรัฐบาลใดกล้าหยิบขึ้นมาพิจารณา

ขณะที่ นางสุนทรี เซ่งกิ่ง คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ดสปสช.) กล่าวว่า กรณีของนายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้สแลม วิ่งหาเงินเพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลในประเทศนั้น ตนนั้นเคารพในน้ำใจ แต่คิดว่าการทำเช่นนี้ ยังไม่สามารถแก้ปัญหาระบบสาธารณสุขได้ ต่อให้ระดมคนมีน้ำใจมาวิ่งอีกหลายรอบ แต่ไม่แก้ระบบโครงสร้างก็ไม่มีประโยชน์ และสิทธิประโยชน์ของหลักประกันสุขภาพเป็นเสื้อโหล ที่แจกให้คนทุกคนใส่ โดยไม่เคยคำนึงว่าประชากรที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพนั้นมีความแตกต่าง มีความต้องการสุขภาพที่ต่างกันหรือไม่ และระบบสาธารณสุขไม่เอื้อให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วม เช่น การส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ที่ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังหมอพยาบาลเพียงอย่างเดียว แต่สามารถระดมความร่วมมือจากภาคปะชาชนได้ แต่ภาครัฐกลับไม่ยอมดำเนินการ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image