มะขามป้อมเสริมราก เทคนิคทำให้ ต้นเตี้ย ทนแล้ง ออกลูกดกทั้งปี

ใกล้ถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตอนนี้หลายคนเริ่มมองหาขนมนมเนย เสื้อผ้า เครื่องประดับ เพื่อเป็นของขวัญของฝากพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ที่บ้านในต่างจังหวัดกันบ้างแล้ว หากบ้านไหนยังมีที่ดินว่างเปล่า ขอแนะนำให้ซื้อกิ่งพันธุ์ต้นมะขามป้อม ไปปลูกเป็นพืชสมุนไพรใกล้ตัว สำหรับดูแลสุขภาพคนในครอบครัวที่คุณรัก สัก 1-2 ต้น

ที่ผ่านมา กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้แนะนำให้คนไทยหันมาปลูก “มะขามป้อม” เป็นพืชสมุนไพรประจำบ้านมากขึ้น เพราะมะขามป้อมมีสรรพคุณทางยาสูง ในตำราแพทย์แผนไทยใช้มะขามป้อมเป็นส่วนผสมสำคัญในตำรับยามากกว่า 100 ตำรับ เช่น ตำรับยา “สมุนไพรตรีผลา” ซึ่งเป็นกลุ่มยาอายุวัฒนะ

นอกจากนี้ ยังมีผลงานวิจัยทางการแพทย์ในสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศยืนยันตรงกันว่า มะขามป้อม จัดเป็นผลไม้ที่มีปริมาณของสารแทนนินสูง เป็นชนิดที่มีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระต้านสารก่อมะเร็ง เพิ่มภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง กำจัดสารพิษจากโลหะหนักออกจากร่างกายและในผลของมะขามป้อมมีปริมาณวิตามินซีสูงมากกว่าส้มถึง 20 เท่า

 

Advertisement

หากขับรถออกจากตัวเมืองกาญจน์ โดยใช้เส้นทางหลวง หมายเลข 323 (ถนนสายกาญจนบุรี-ไทรโยค-ทองผาภูมิ) ช่วงกิโลเมตรที่ 46 จะเจอน้ำตกไทรโยคน้อย (น้ำตกเขาพัง) อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค นับเป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี บริเวณน้ำตกมีสภาพธรรมชาติที่สวยงาม ร่มรื่น โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ประมาณเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคมจะมีน้ำมาก

จากน้ำตกไทรโยคน้อย ขับรถเลยออกไปเพียงสิบกว่ากิโลเมตร สังเกตด้านขวามือ จะเจอ “ไร่ครูลออ” แหล่งรวบรวมมะขามป้อมพันธุ์ดีที่หลายคนรู้จัก ครูลออ ดอกเรียง รับราชการครูที่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี และอาศัยเวลาว่างหลังเลิกงานมาทำไร่เป็นอาชีพเสริม โดยปลูกมะขามป้อมเป็นพืชหลัก เพื่อขายผลสดและจำหน่ายกิ่งพันธุ์มะขามป้อมแก่ผู้สนใจ

สาเหตุที่ครูลออตัดสินใจปลูกมะขามป้อมเป็นพืชหลัก เนื่องจากประทับใจในคุณประโยชน์ของมะขามป้อมยักษ์ที่มีวิตามินซีสูง ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และใช้บำรุงผิวพรรณ กำลังเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมอาหาร ยา และเครื่องสำอาง ก่อนหน้านี้ ครูลออ มีโอกาสไปเยี่ยมชมแหล่งปลูกมะขามป้อมยักษ์ เนื้อที่ 20 ไร่ ของเกษตรกรรายหนึ่ง แค่เก็บผลออกขายอย่างเดียว สร้างรายได้สูงถึง 4 ล้านบาท ยังไม่นับรวมการขายกิ่งพันธุ์แก่ผู้สนใจ ทำให้ครูลออเล็งเห็นศักยภาพทางการตลาดของมะขามป้อม ว่าเป็นพืชสมุนไพรที่มีโอกาสเติบโตสดใสในระยะยาว

Advertisement

ครูลออ ได้รวบรวมกิ่งพันธุ์มะขามป้อมยักษ์หลากหลายสายพันธุ์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่น และตอบโจทย์ตลาด ในเรื่อง ลูกดก ต้นเตี้ย ทนแล้ง ออกลูกทั้งปี มาปลูกบนเนื้อที่ 4 ไร่ ได้แก่

  1. พันธุ์ท้อพวงองุ่น (พันธุ์ท้อยักษ์จัมโบ้, ท้อมหากาฬ) ลำต้นสูงปานกลาง ลักษณะผลเหมือนลูกท้อ ผิวสวยใส ลูกมีขนาดใหญ่ เนื้อฉ่ำ ให้ผลดกคล้ายพวงองุ่น
  2. พันธุ์แม่ลูกดก เป็นไม้กึ่งเตี้ยกึ่งสูง ที่ให้ผลดกมาก ขนาดผลใหญ่ ประมาณเหรียญ 10 บาท
  3. พันธุ์แป้นพัชชา (พันธุ์แป้นเตี้ย) เป็นมะขามป้อมสายพันธุ์ไทย กิ่งใหญ่แข็งแรง ต้นเตี้ย ลำต้นสูงไม่เกิน 1.5-2 เมตร แผ่ขยายไปในแนวกว้าง หากปลูกในระยะห่าง 5×5 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ 64 ต้น พันธุ์แป้นพัชชา จะเริ่มให้ผลผลิตในปีที่ 2-3 โดยปีที่ 3 จะให้ผลผลิต ประมาณ 50-100 กิโลกรัม หากดูแลจัดการแปลงที่ดีจะได้ผลใหญ่ ขนาดเท่าฝาแบรนด์เลยทีเดียว
  4. พันธุ์ท้อยักษ์ไทรโยค ลักษณะผลก้นมีจะงอย คล้ายผลลูกท้อ ผิวสวยใส ลำต้นสูง 2-3 เมตร ขนาดผลใหญ่เท่ากับมะขามป้อมสายพันธุ์อินเดีย เฉลี่ยประมาณ 25-30 ผล ต่อกิโลกรัม ออกลูกดกทั้งปี ปลูกดูแลง่าย ทนอากาศแล้งได้ดี ใช้เวลาปลูก 2-3 ปี เก็บผลผลิตออกขายได้แล้ว มะขามป้อมสามารถปลูกได้ทุกสภาพดินทั่วประเทศ แต่ดินที่ให้ผลผลิตได้ดีคือ ดินร่วนปนทราย ดินลูกรัง

อ่านวิธีการดูแลและเทคนิคปลูกเสริมรากคลิกที่นี่

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image