เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ (สกสส.) เปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้ (15พฤษภาคม)ตนจะเดินทางไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นหนังสือต่อ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ให้เร่งนำตัวผู้ต้องหา กลุ่ม กปปส.ที่ยังเหลือไม่ได้ฟ้อง ดำเนินการฟ้องต่อศาลอาญา เนื่องจากบัดนี้หลังจากมีการฟ้องผู้ต้องหาบางส่วน ไปเเล้ว ยังมีผู้ต้องหาคนสำคัญอีกหลายคน ที่อัยการคดีพิเศษยังไม่ได้ฟ้องซึ่งรวมทั้งทายาทตระกูลดังอีกด้วย
“การยังไม่ฟ้องผู้ต้องหาดังกล่าว อาจถือเป็นการดำเนินการที่ล่าช้า ไม่เร่งรีบ หรืออาจมีการกระทำในการเอื้อประโยชน์แก่ผู้ต้องหารายหนึ่งรายใดหรือทั้งหมดเป็นกรณีพิเศษ ที่จะไม่นำตัวมาฟ้องคดีต่อศาลหรือดำเนินการเพื่อให้ได้ตัวมาฟ้อง อันส่อไปในทางเพื่อการประวิงคดี จะให้งดการดำเนินคดี หรือชะลอการฟ้องคดีแก่ผู้ต้องหารายหนึ่งรายใดหรือทั้งหมด ซึ่งหากพนักงานอัยการไม่ดำเนินการโดยเร็ว จะกล่าวโทษอัยการและฟ้องดำเนินคดีต่อศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไป”นายวิญญัติกล่าว
นายวิญญัติ เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบรายชื่อในชั้นสอบสวน ในส่วนผู้ต้องหาคดีกบฏที่ยังมิได้นำตัวมาฟ้องต่อศาลอาญาอีก 18 คนประกอบด้วย นายนิติธร ล้ำเหลือ ผู้ต้องหาที่ 11 ,นายอุทัย ยอดมณี ผู้ต้องหาที่ 12 นายสุภวัฒน์ สุปิยะพาณิชย์ ผู้ต้องหาที่ 17 ,นางสาวจิตรภัสร์ กฤดากร ผู้ต้องหาที่ 19 ,นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ผู้ต้องหาที่ 25, นายกิตติศักดิ์ ปรกติ ผู้ต้องหาที่ 27 ,พลเอกปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ผู้ต้องหาที่ 31 ,นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ต้องหาที่ 32, นายพิภพ ธงไชย ผู้ต้องหาที่ 33 ,นายอมร อมรรัตนานนท์ (รัชต์ชยุตม์ ศิรโยธินภักดี) ผู้ต้องหาที่ 37 นายกิตติชัย ใสสะอาด ผู้ต้องหาที่ 43 ,นายคมสัน ทองศิริ ผู้ต้องหาที่ 44 ,นายพิเชษฐ พัฒนโชติ ผู้ต้องหาที่ 46,นายประกอบกิจ อินทร์ทอง ผู้ต้องหาที่ 48 , นายนัสเซอร์ ยีหมะ ผู้ต้องหาที่ 49 นายพานสุวรรณ ณ แก้ว ผู้ต้องหาที่ 50 นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ผู้ต้องหาที่ 51 และ นางทยา ทีปสุวรรณ ผู้ต้องหาที่ 55
