“ราชาคอร์ตดิน” ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสมือ 1 ของโลกชาวสเปน ผ่านเข้าไปลุ้นแชมป์ชายเดี่ยว แกรนด์สแลม “เฟร้นช์ โอเพ่น” ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นสมัยที่ 11 หลังจากคว้าชัยเหนือฮวน มาร์ติน เดล โปโตร นักหวดมืออันดับ 6 ของโลกชาวอาร์เจนไตน์ไปขาดลอย 6-4, 6-1, 6-2 ในรอบตัดเชือก เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน
นับเป็นการเข้าชิงชนะเลิศรายการระดับแกรนด์สแลมหนที่ 24 ของนักหวดสเปน และเพื่อลุ้นแชมป์สแลมที่ 17 ขยับเข้าใกล้สถิติสูงสุดตลอดกาล 20 ครั้ง ของโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยอดนักหวดชาวสวิส มือ 2 ของโลก รวมทั้งลุ้นทาบสถิติคว้าแชมป์แกรนด์สแลมรายการเดียวสูงที่สุด 11 สมัย ที่มาร์กาเร็ต คอร์ต ตำนานสักหลาดชาวออสซี่ทำไว้ในการแข่งขันหญิงเดี่ยว “ออสเตรเลียน โอเพ่น” ด้วย
นาดาลกล่าวภายหลังการแข่งขันว่า มีความมุ่งมั่นที่จะลงแข่งขันรายการนี้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะรู้ดีว่าตัวเองโชคดีที่ได้รับโอกาสแข่งรายการนี้หลายต่อหลายครั้งทั้งที่ประสบปัญหาบาดเจ็บอยู่เป็นระยะๆ และคงเหลือโอกาสอีกไม่ถึง 10 ครั้งแล้ว
ขณะที่เดล โปโตร เชื่อว่ายากที่ใครจะเอาชนะนาดาลในศึกเฟร้นช์ โอเพ่น ปีนี้ได้ อย่างมากก็คงเก็บเซตได้ แต่ไม่ถึงขั้นปิดแมตช์แน่นอน เนื่องจากราชาคอร์ตดินชาวสเปนแข็งแกร่งมาก พัฒนาแบ๊กแฮนด์ขึ้นกว่าที่เคยเล่นสมัยก่อน แถมยังฟิตสมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่เขาเอาชนะคู่แข่งมากมายขึ้นไปเป็นมือ 1 ของโลกในเวลานี้
สำหรับคู่ชิงของนาดาลคือ โดมินิค ธีม มืออันดับ 8 ของโลกชาวออสเตรีย ที่ปราบมาร์โก้ เช็คคินาโต้ ม้ามืดจากอิตาลี 7-5, 7-6(10), 6-1 ซึ่งจากการพบกัน 9 ครั้ง ธีมเคยเอาชนะนาดาลบนคอร์ตดินได้ 3 ครั้ง ซึ่งรวมถึงศึกมาสเตอร์ส 1000 ที่โรมเมื่อปีที่แล้ว และที่มาดริดในปีนี้ แต่จากประวัติการเจอกันในศึกเฟร้นช์ โอเพ่น ปี 2014 และ 2017 นาดาลเป็นฝ่ายชนะทั้ง 2 ครั้ง
