พีค-พีพี-มีน-สิงโต เล่าความยากและท้าทายในเรื่อง ‘แสนรัก’ ละครน้ำดีที่สะท้อนประเด็นครอบครัว
เป็นละครน้ำดีที่เหมาะกับการนั่งดูพร้อมหน้าพร้อมตากับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก สำหรับละคร แสนรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลวันแม่แห่งชาติ ซึ่งจะพาผู้ชมไปสัมผัสเรื่องราวความรักของแม่ที่มีต่อลูก โดยออกอากศทุกวันจันทร์ – อังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 ที่สำคัญละครเรื่องนี้ยังสะท้อนถึงประเด็นครอบครัว ความรัก และการให้อภัย ที่แฟน ๆ ยก ขึ้นแท่นละครครอบครัวไปเป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งยังรวมตัวนักแสดงทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ที่จะมาฟาดกันแบบไม่ยั้ง ไม่ว่าจะเป็น กองทัพ พีค รับบท รวี, พีพี ปุญญ์ปรีดี รับบท ราณี, มีน พีรวิชญ์ รับบท รัก, สิงโต สกลรัฐ รับบท เฉิน, ตี๋ ธนพล รับบท รณกร และ ต่าย เพ็ญพักตร์ รับบท คุณนายเหมย
โดย 4 นักแสดงนำของเรื่องอย่าง กองทัพ พีค , พีพี ปุญญ์ปรีดี , มีน พีรวิชญ์ และ สิงโต สกลรัฐ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความสนุกและความท้าทายของละครแสนรักให้ฟังว่า

มีน : ในเรื่องรับบทเป็นลูกรักของแม่ แม่จะสปอยล์ประคบประหงม รวมถึงคาดหวังและกดดันด้วย ซึ่งในพาร์ตแรกๆ ของละครก็จะเห็นว่าแม่บังคับเรา อยากให้เราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หรือถ้าเราไม่ฟังสุดท้ายจะไปตกที่รวีคนกลาง เราก็จะลอยตัวเอาเฉพาะความสุขเข้าตัวเรา แต่นี่คือพาร์ตช่วงเด็ก ในเรื่องนี้เราจะได้การเติบโตของทุกตัวละครตั้งแต่ชุดนักเรียนถึงทำงาน แต่งงาน มีครอบครัว
พีค : ถามว่าเรียกว่าได้รับความรักบ้างรึเปล่าไม่รู้เลย เอาจริงตัวละครพีคเป็นลูกคนกลาง ไม่ได้มีความคาดหวังทั้งม๊าและเตี่ย คือไม่มีใครสนใจเลย เพราะเขามีเหตุผลว่ารวีเป็นคนเก่ง สามารถเอาตัวรอดได้ เรียนเก่ง แต่ว่าจะมีความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจตลอดว่าทำไมไม่ใครสนใจเราเลย ส่วนน้องคนเล็ก พี่ตี๋ ก็จะเป็นลูกรักของคุณพ่อหรือเตี่ยที่มีอะไร เตี่ยก็ประคบประหงมอย่างดี
สิงโต : ผมคิดว่าผมคือตัวที่มาทำให้บ้านเขาวุ่นวาย แต่ถ้าถามความรักของครอบครัวผมรู้สึกว่า ผมไม่มั่นใจว่าเตี่ยเขารักเราหรือเขารู้สึกผิดกับการที่เขาไม่ได้ดูแลเรา ความต้องการของเฉินมันเยอะมาก เขาแค่หาวิธีจัดการในการไปจุดๆ นั้นได้โดยผิดที่ผิดทาง
แสดงว่าสตอรี่เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวเลย การรักลูกไม่เท่ากัน การเลี้ยงดูอะไรต่างๆ ?
พีค : ใช่ครับ แต่ก็จะได้เห็นความรักทั้งสองครอบครัวที่ต่างกัน คือจะมีความรักของบ้านตรงพานิชย์ และความรักของบ้านราณี
พีพี : เรียกว่าอย่างของบ้านรวีมีทั้งป๊ามีทั้งม๊าครบองค์ครอบครัว ในขณะตัวราณีไม่มีพ่อไม่มีแม่ แต่มีเพียงป้าพิสมัย (ท็อป ดารณีนุช) คนเดียวกับคุณยาย ถึงแม้เราจะมีคุณป้ากับคุณยายแต่ความรักความอบอุ่นที่เราได้รับมันสมบูรณ์มันเต็มไปหมด เราแทบไม่รู้สึกขาดอะไรเลย เรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของสองครอบครัวเหมือนกัน รวมถึงวัฒนธรรมไทยกับจีนด้วยที่แตกต่างกัน

ในทีเซอร์มีความพีเรียด มันในยุคไหน ?
พีค : เริ่มต้นตั้งแต่ 2499
มันยากแค่ไหนต้องเล่นย้อนกลับไป ด้วยภาษาแตกต่างจากปัจจุบันแค่ไหน
พีค : ฝั่งเราจะมีอั๊วกับลื้อ บางทีก็เป็นลั๊วกับอื้อ พีคมีปัญหาสุดเลย เพราะบางทีก็ลั๊วลื้อบอกแล้ว จะสลับกันบ่อยสำหรับตัวพีคเอง
พีพี : แต่ฝั่งบ้านพีพีเป็นคนไทย 100% ไม่ค่อยแตกต่างปัจจุบันมาก วิธีพูดหรืออะไรก็แล้วแต่
พีค : แต่จะฟีลมีเรื่องการแต่งตัว
พีพีเป็นไงบ้างทำงานล้อมรอบไปด้วยชายหนุ่มที่แต่ละคนร้อยคาแรกเตอร์?
พีพี : หนูต้องมีสติให้ดีมากๆ เพราะพี่ทุกคนคือเอเนอร์จี้เยอะมาก ว่องไว คุยเรื่องนี้ไปโผล่อีกเรื่องนึงได้ยังไง หนูก็ไม่รู้เขาเชื่อมเรื่องกันยังไง (ใครรับมือยากสุด ?) ทุกคนเลย แตกต่างกันไปในคาแรกเตอร์

เรื่องนี้อะไรยากสุดของแต่ละคน ?
พีค : เอาจริง ๆ เราเล่นละครมา เป็นคาแรกเตอร์ที่คนไม่ได้เห็นมุมนี้ของเราในพาร์ตนักแสดงเลย
สิงโต: ผมมองว่านี่เป็นตัวละครและคาแรกเตอร์ยากที่สุดที่ผมเคยได้เล่นเลยตั้งแต่อ่านบทมันรู้สึกว่าผมไม่น่าเล่นได้ เราไม่เห็นภาพตัวเองจะทำในแต่ละซีนของตัวละครตัวนี้ได้ อาปิ่น (ณัฏฐนันท์) เขาเห็นว่าเราน่าจะทำได้ เขาเชื่อมั่นในตัวเรา พอผมได้ไปลองเปิดกล้องลองเล่น เราก็รู้สึกเราไม่เข้ากับตัวละครเลย แต่คนที่กองก็ยังเชื่อว่าเราน่าจะทำออกมาได้ดี ไปเวิร์กช็อปเพิ่ม ไปเริ่มเรียนตั้งแต่เขาเป็นทารก ค่อยๆ โตจนมาถึงอายุเท่าเฉินในปัจจุบัน ให้เราเป็นตัวละครตัวนี้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งพอทำแบบนี้เราก็เกิดมาเป็นเฉินเลย
อะไรที่ทำให้สิงโตไม่เชื่อว่าจะเล่นได้ ?
สิงโต : รู้สึกว่ามันยาก เรารู้อินเนอร์ของเขาจะเป็นแบบไหน คือเราเป็นคนดู พอเราดูคนนี้เล่นดี ทำไมซีนนี้ยากแน่เลย แล้วเราไม่เห็นเราจะทำแบบนี้ได้ ผมคิดว่าไม่น่าเล่นได้แต่คนบอกว่าผมจะทำได้
อันนี้อย่างเฉินที่ยากที่สุดมันคืออะไร ก่อนที่จะเรียนการแสดงเพิ่ม ?
สิงโต : คือผมว่าอารมณ์มันตีกันข้างใน การแสดงออกมามันคืออีกแบบจากข้างใน ข้างในมันก็สับสนแล้ว ข้างในไม่ได้เล่น แค่ข้างในจะเศร้าแล้วเล่นออกมาเศร้า ข้างในทั้งโกรธ ทั้งเศร้า ทั้งเครียดแค้นทุกอย่างอยู่ข้างใน แต่เล่นออกมาผมไม่รู้สึกอะไรเลย หรือว่าขอแบบหน้านิ่งๆ แต่ตารู้สึก หรือให้จินตนาการไปไกล มันดูเข้าถึงยากจังเลยกับตัวละครตัวนี้ หรือเล่นเป็นทูเฟส ตัวละครเฉินทำแบบนี้ได้
พอเรามีปัญหา ไปเล่าให้ครูฟัง มันเกิดจากอะไร ?
สิงโต : แค่เราไม่เป็นเฉิน เพราะถ้าเราเป็นเฉินเราสามารถทำได้ เราเอาสิงโตไปเล่นเป็นเฉิน มันก็เลยตีกันอยู่ มันยังไม่เป็นเฉิน 100%
สิงโตเอาเฉินออกยังไง ?
สิงโต : ผมออกง่ายมาก เพราะตัวผมมันคนละเรื่องกับเฉินเลย คือมันต้องใช้สมาธิแแรงใจแรงกายมากในการเป็นอีกคนคนนึงที่มันแตกต่างจากตัวเรามากๆ พอจะกลับมาเป็นตัวเองง่ายมาก แต่การที่จะคงอยู่เฉินไว้ยากกว่าการจะออกมาอีก
แล้วเรื่องอื่นมีปัญหาอย่างนี้ไหม ?
สิงโต : เรื่องอื่นก็มีบ้าง แต่มันไม่หนักหนาสาหัสเท่าตัวนี้ เพราะตัวนี้แบ็กกราวนด์ของตัวเขาที่ไม่ได้เล่าออกมามันเยอะมากกว่าที่ออกมาในซีนที่เห็น มันถูกหล่อหลอมที่เรื่องตัวนี้ไม่ได้เล่าออกมา ซึ่งตรงนี้ผมต้องรับมาใส่ตัวเองทั้งหมด เพื่อที่จะเป็ตัวนี้ได้ เพื่อจะเริ่มซีนหนึ่ง ฉากหนึ่ง สิ่งนี้มันทำมาเยอะมากกว่าที่ได้ตรงนี้เกิดขึ้นมา

พีคเป็นอย่างไรต้องเล่นเป็น คนไม่รักเรา ?
พีค : ของพีคมันมีหลายความรู้สึกตรงที่เราเล่นมาตั้งแต่พาร์ตเด็ก ตั้งแต่ความรักเริ่มหนุ่มขึ้น เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ สักพักเป็นความรักเกี่ยวกับครอบครัว มันไม่ใช่ความรักแค่คนสองคนแล้ว เป็นความรักที่มีทั้งภาระ มีความรักที่ครอบครัวใหญ่จะมีสะใภ้ของพี่ สะใภ้ของน้องเข้ามารวมกัน การใช้ชีวิตไม่เหมือนเดิมแล้ว พีครู้สึกว่าการจะถ่ายทอดความรักตรงนี้ออกมาได้ มันยากพอสมควร แล้วก็ต้องลึกพอสมควร เพราะบางทีรวีเป็นคนที่ฟังแต่ว่าไม่ได้ทำตาม ดื้อเงียบ เพราะเขามีตัวตนที่ชัดเจนมากๆ การที่พีคจะดึงตรงนี้ออกมาได้ มันก็เลยรู้สึกว่ามันต้องหาตัวรวีให้มันแตะรวีให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แล้วก็จะมีเรื่องภาษา อั๊วกับลื้อ พีคจำสลับกัน มากสุดน่าจะ 10 เทค เป็นช่วงแรกที่ทุกคนสับสนกันหมด ต่างคนต่างงงในช่วงแรก ซึ่งสำหรับพีคมองว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าต้องปรับจูนเรื่องภาษาด้วย
พีพี : ความยากของพี คือด้วยความเป็นคาแรกเตอร์ที่พีพีไม่เคยเล่นเเบบนี้มาก่อนเลย เหมือนมีอะไรหนักอกอยู่ในใจเยอะมาก แต่ว่าเราไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด เราต้องเก็บเอาไว้ แบกเอาไว้ รวมถึงพอบทตัวละครมันเริ่มโตขึ้น ตัวรวีเขารับอะไรมาเยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเขาถูกกระทำ แต่เราในฐานะคู่ชีวิตเขามันเหมือนเราต้องรักเขามากๆ จนเราสงสารเขา เข้าใจความรู้สึกเขา อยากจะช่วยเหลือเขา ในบทหลายๆ ฉากแทบไม่มีบทพูดเลย มีแค่สายตาแววตาเท่านั้นที่จะถ่ายทอดความรู้สึกต่างๆ ออกมาได้ ซึ่งพีรู้สึกว่าฉากพวกนี้เป็นอะไรที่ยากที่สุด เหมือนเราแบกอะไรข้างในตัวเยอะมากทั้งความรู้สึก ความคิด แต่ทำได้แค่มองหน้ากัน สื่อสารกันผ่านแววตาแค่นั้นเอง เพราะว่าในฉากมีคนในครอบครัวที่บางอย่างเราไม่ได้อยากบอกให้เขารับทราบทุกคน มีแค่อยากรู้กันแค่สองคน ให้กำลังใจสองคน มันเลยเป็นอะไรที่มันต้องใช้พลังงานเยอะมากๆ ในการที่เราจะถ่ายทอดหรือสื่อถึงกันและกัน นี่คือเป็นอะไรที่ยากมากที่สุดในชีวิตพีแล้วตั้งแต่เล่นมาเรื่องนี้ เหมือนกับว่าเรารู้สึกอะไรก็แสดงออกมา ทั้งแววตา ท่าทาง คำพูด แต่อันนี้รู้สึกอะไรมันเหมือนต้องเล่นสองชั้น เป็นแบบรู้สึกนะแต่พูดไม่ได้ แสดงออกไม่ได้ แต่ต้องทำให้คนดูรู้ว่าเราก็รู้สึกสิ่งนี้เหมือนกัน หนูก็เลยรู้สึกว่ายากมาก ตอนอ่านบทเหมือนดูไม่ยากเลย คำพูดดูสบายๆ แต่พอเราได้เข้าฉากจริงแล้ว เนื้อเรื่องจริงแล้ว มันคือถ่ายทอดชีวิตของมนุษย์แต่ละคนจริงๆ ว่าทุกคนล้วนมีเรื่องราวอุปสรรคหรือว่าปมด้อย หรือว่าอะไรต่างๆ ที่ต้องแบกรับเอาไว้ แต่พูดออกมาไม่ได้ทั้งหมด มันเลยแบบยากมาก
มีน : ไม่ง่ายครับ แต่ค่อนข้างต่างจากคนอื่น คือคนอื่นเล่นซับซ้อน แต่ของผมเล่นชั้นเดียว อยากได้ก็ขอ อยากได้ก็บอก ไม่อยากได้ก็ไม่เอา อันไหนทุกข์ใจก็ไม่รับ รับแต่เรื่องดีๆอย่างเดียว อันนี้คือตัวละครรักในวัยเด็ก แต่สำหรับผมก็ยากนะเพราะตัวตนผมใช้ความคิดเยอะ แต่ตัวละครนี้ใช้ใจนำทางเยอะ อยากได้ก็บอกพูดเลย ถ้าแม่โกรธก็้ง้อขอโทษ แต่ผมคิดว่าความยากคือเราต้องใช้เวลาเกือบ 20 ปีในเรื่อง ตั้งแต่อีพีแรกถึงอีพีสุดท้าย แล้วเวลาเราถ่าย เราไม่ได้ถ่ายไล่จากเด็กแล้วไปโต เราถ่ายกระโดดไปกระโดดมา ทำให้นักแสดงทุกคน ผมคิดว่าความยากมันคือการตอนนี้เรายังเป็นเด็กนักเรียนอยู่ เดี๋ยวอีกซีนนึงเราต้องไปถ่ายตอนกลายเป็นเจ้าของธุรกิจ อีกซีนนึงต้องแบบครอบครัวรักกัน อีกซีนครอบครัวทะเลาะกัน มันต้อง continue เยอะมาก กระโดดไปกระโดดมาพอสมควร แต่คิดว่าคนดูน่าจะสนุก เพราะว่าจะได้เห็นตัวละครที่รัก ตัวละครที่ไม่ชอบ ตัวละครที่หมั่นไส้ เติบโตดูพัฒนาการไป ตอนแรกอาจจะชอบคนนี้สักพักอาจจะเห็นใจคนนี้ สักพักอาจจะเกลียดคนที่เราชอบก็ได้ อาจจะได้เห็นมุมมองพวกนี้ในเรื่อง

สิงโต: ผมคิดว่าความยาก คือ เล่นให้คนเข้าใจมากกว่า คือคนชอบถามว่า เมื่อกี้ผมเข้ามาถามว่าตัวนี้ร้ายไหม ผมไม่เคยมองว่าตัวละครผมเล่นมันร้ายไง แต่ผมมองว่าตัวละครนี้อาจจะถูกกระทำอะไรมา หรือว่าอยากทำอะไรโดยที่ลืมอะไรไปหรือพัฒนามาแบบไหน ฉะนั้นไม่ว่าตัวละครเราจะแย่แค่ไหน แต่ผมเชื่อว่าในแง่มุมนึง ถ้าคนดูได้ดูเต็มๆ ก็อาจไม่ได้รักเขาหรอกแต่ว่าเข้าใจเขาทำไมถึงเป็นคนแบบนี้ เรื่องนี้มันกลมมากสำหรับผม เพราะว่าในตอนพาร์ตหลังๆ อยากให้ดูไปเต็มๆ จะได้เห็นว่าทุกคนมีเหตุผลว่าทำไมต้องทำตัวแบบนี้ รวมถึงแม้แต่กระทั่งแม่เองที่สอนเรา อยากให้เราอย่างนั้นอย่างนี้เพราะอะไร ทำไมถึงรักผมมากกว่ารักคนอื่น อยากให้ไปดู
จะนิยามความเข้าใจของละครเรื่องนี้ให้คนดูเข้าใจง่ายๆ อย่างไร นำเสนออะไรนอกจากความรักลูกไม่เท่ากัน ว่าเป็นแนวอะไร ?
พีค : ถ้าเป็นประเภทของละครเลย สั้นๆ ง่ายๆ ก็จะเป็นแฟมิลี่ ดราม่า มีคอมเมดี้สอดแทรกเข้าไปด้วย ที่มันจะมีไม่ใช่ความเครียด จะเป็นทุกคนจะได้เห็นพาร์ตชีวิตของคน มันจะมีทั้งการเติบโตมี ทั้งความที่ได้ตกหลุมรัก ลองผิดลองถูก จะมีหมดเลย
แล้วคำว่า แสนรัก มันคืออะไร ?
พีค : แสนรัก เริ่มต้นมาจากความรักหลายรูปแบบ เพราะคำว่า แสนรัก ใช้คำว่าแสนเป็นจำนวนมาก คำว่ารักเป็นคำว่ารักจำนวนมาก พอรักจำนวนมาก มันมีรักสองแบบ คือรักแบบไม่ควบคุม แต่พอแสนรักอาจจะเป็นอีกมุมหนึ่งคือรักแบบควบคุม เพราะว่าเรารักเขามาก ก็เลยเป็นที่มาของแสนรัก
แล้วรู้สึกยังไงกับการแสดงละครที่เล่นตั้งแต่เด็กยันโตจนอายุเยอะ มันดีต่อเรายังไง
พีค : คือได้ใส่ชุดนักเรียน อีกอย่างหนึ่งได้ทำความรู้จักกับตัวละครตั้งแต่แรก เอาจริงๆ ตั้งแต่เขาอยู่มัธยม จนเห็นเขาทำผิดนะ ซึ่งตัวละครทุกตัวมีพาร์ตทำผิดหมดเลย แต่ว่าเขามีเหตุผลของเขา นี่แหละคือความรู้สึกที่เราได้เติบโตกับตัวละคร ได้ทำความรู้จักเขาจริงๆ ไม่ใช่แค่พระเอกนางเอกรักกันแต่งงานกัน อันนี้มีชีวิตหลังแต่งงานด้วยที่เขาไม่ได้ใช้ชีวิตแค่สองคน เขาเข้ามาบ้านใหญ่ต้องมาเจอพี่ๆ น้องๆ ซึ่งไม่ได้มีความสบายใจที่อยู่ด้วยกัน
ในคาแรกเตอร์แต่ละคนมีคิดขัดแย้งกับคาแรกเตอร์เราไหม ?
มีน : เยอะครับ เรื่องนี้ห่างตัวผมมาก ทุกอย่างที่รักตัดสินใจ เป็นสิ่งตรงข้ามผมหมดเลย เช่น การตัดสินใจเลือกเชื่อคนผิด ตัดสินใจเลือกลองทางผิด
พีพี : ราณีเป็นคนพูดตรง พูดชัด ด้วยรูปประโยคแรงมาก แต่ด้วยอินเนอร์ของเขา หรือคาแรกเตอร์แค่ต้องการเพื่อแค่อยากจะบอก เขาแค่อยากสื่อสาร เขาไม่ได้อยากทำร้ายใคร หรือเขาแค่อยากแสดงจุดยืนสิ่งที่ควรจะเป็น มันน่าจะเป็นเเบบนี้ แต่ถ้าเป็นพีพีอาจจะไม่กล้าพูดมา 100% พีอาจจะประนีประนอมมากกว่านี้ หรืออาจจะไม่ฟันไปเลย ไม่เชือดเฉือนขนาดนั้น แต่ราณีเขาเป็นแบบหัวสมัยใหม่ เขามีความกล้า เขาอายุเป็นเหมือนตัวเลขว่าจะอายุเยอะกว่า ไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าการเป็นผู้ใหญ่จะถูกเสมอ แต่ว่าเขามองหลักความถูกต้องและความยุติธรรมมากกว่า แต่เป็นหนูก็เบาหน่อย ไม่กล้าฟันเท่ากับราณี
พีค : มีหลายอย่างที่เรามองว่าทำไมรวีใจเย็นอะไรขนาดนี้ แต่ถ้าเป็นพีคจริงๆ อย่างเช่นมีคนนู้นคนนี้ทำปัญหาแบบนี้ แล้วไม่เอาไหนแบบนี้ รวีไม่เป็นไร เราก็ปล่อย เขาเป็นพี่น้องอะไรอย่างนี้ แต่ถ้าเป็นพีคไม่ใช่ พีคเรียกมาคุยเลย นี่รู้สึกว่าการพูดคุยไม่ได้คุยด้วยอารมณ์ แต่คุยด้วยเหตุผล แต่รวีเขาเเบกมา 20 ปี ตั้งแต่เขามัธยมจนปลายๆ เรื่อง เขาก็ยังเก็บไว้อยู่ เขาไม่พูดเขาไม่บอกใคร มีคนเดียวที่เขาบอกคือราณี เขาเก็บไว้อย่างนั้นจนสุดท้ายเขาระเบิดตู้มออกมาทีเดียว พีครู้สึกว่าพอมองรวีแล้ว จริงๆ ถ้ารวีค่อยจัดการทีละนิด สุดท้ายแล้วมันคือความรู้สึกในใจข้างในมาตลอด มันจะพัง
สิงโต : ขัดแย้งแทบจะทุกอย่าง ตัวเราไม่เข้าใจเขาด้วยซ้ำว่าทำไมถึงมีคนทำแบบนี้ ซึ่งมันมีจริงๆ มันมีคนหลากหลาย เขาตัดสินใจโลกหล่อหลอมให้เขาเป็นเป็นแบบนี้ เหมือนสังคมทำให้เขาเป็นคนอย่างนี้ แล้วเขาโทษสังคม แต่ลืมโทษตัวเอง หรือโทษตัวเองมากเกินไปจนเขาคิดว่าหนหาทางที่ดีไม่มีอีกแล้ว หรือไม่เห็นหนทางอื่นนอกจากทางนี้เท่านั้น ซึ่งตัวละครนี้มันดีตรงที่ว่าจะมีทางหลายทางทุกช่วงอายุ เพราะปัญหาของคนในแต่ละวัยไม่เหมือนกัน ตอนเด็กคิดว่าปัญหานี้ใหญ่โลกแตกสลาย เช่น การเลิกกับแฟน แต่พอโตมารู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว ไม่ได้อยู่กับคนนี้เพื่อเราจะได้ไปเจอคนที่ดีกว่ารึเปล่า ทุกปัญหาของทุกวัยแตกต่างกันซึ่งเรื่องนี้จะได้เห็น เริ่มตั้งแต่มัธยม เพราะปัญหาของเด็กมัธยมก็มี ปัญหาคนทำงานก็มี ปัญหาถึงวัยเริ่มมีอายุเยอะแล้วก็มีแตกต่างกันไป ทำให้คนได้ข้อคิดจากสิ่งๆ นี้เหมือนกัน
ในพาร์ตคู่รักที่ต้องเผชิญกับอุปสรรค แล้วก็เป็นลูกสะใภ้ที่ต้องฟาดฟันกับม๊า เป็นอย่างไรบ้างความสัมพันธ์ทั้งคู่ ?
พีค : จริงๆ ยากตั้งแต่ตอนถ่ายทำ เป็นพาร์ตที่ตั้งแต่เด็กยาวจนถึงตอนโต เรามานั่งคุยเรื่องบทกันตลอดตรงกลางอยู่ตรงไหน เพราะว่าในการที่เราส่งฟีลลิ่งออกไปมากเกินไปก็ไม่ได้ เพราะมีอีกหลายคนในครอบครัวที่เราอยากพูดคุยแค่สองคน เหมือนเป็นพาร์ตที่ต้องคอนโทรลจริงๆ ว่าอย่าพูดอย่างนี้กับคนอื่น เก็บไว้แค่เราสองคน มันเหมือนจะไปสุดก็ไปสุดก็ไม่ได้ จะน้อยเกินไปก็ไม่ได้ พาร์ตตอนเด็กสนุกจะมีความเป็นเด็ก ไร้เดียงสา ความรวีชอบคนนี้ก็มีการไปตามจีบเขาที่โรงเรียน
พีพี : เหมือนช่วงวัยเด็กเราทำทุกอย่างไปด้วยความรัก ความไร้เดียงสา ความรักแบบบริสุทธิ์ เราไม่รู้ว่ามันจะมากน้อยแค่ไหน แต่พอเราเริ่มโตขึ้น มันมีเรื่องหลายอย่างให้ต้องคิด ไม่ใช่แค่เรื่องความรักอย่างเดียว มันมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามามากขึ้นทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรวีกับราณี มันต้องคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คอยเป็นเหมือนสองมือสองขาที่คอยประคับประคองให้กับความสัมพันธ์ของเรา ให้ไปรอด รวมถึงไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ แต่ชีวิตของเราทั้งสองคนว่าเราจะทำยังไงให้เราผ่านอุปสรรคทุกอย่างไปได้ โดยใช้ความรักเป็นตัวนำทางเป็นตัวยึดเหนี่ยวความรู้สึกของความสัมพันธ์นี้ไว้ แล้วจะเอาชนะกับอุปสรรคทุกอย่างให้ได้

ให้แต่ละคนพูดถึงคุณแม่ เป็นอย่างไรบ้างกับพี่ต่าย เพ็ญพักตร์ ?
พีค : พี่ต่ายน่ารัก จริงๆ ในพาร์ตละครกับในชีวิตจริงไม่เหมือนกัน เพราะพี่ต่ายเอนเนอร์จี้สูงมากในตอนอยู่ในเซ็ต จะเป็นคนที่ทำให้ทุกคนกลัวได้ ด้วยในตัวบทด้วยมันทำให้เราเชื่อเลยว่าเขาเป็นม๊าเราจริงๆ
สิงโต : ผมปะทะกับเขาทั้งเรื่อง อารมณ์เขามาแค่ไหนผมจะต้องไม่แพ้เขา เพราะงั้นคือการอินเนอร์ปะทะใส่กัน ตัวละครไม่ชอบขี้หน้ากัน
พีพี : ด้วยอินเนอร์สายตาพี่ต่าย เขาทำให้เราเชื่อ 100% จริงๆ ว่านี่คือคุณนายเหมย แต่ด้วยตัวราณีเขาก็รับรู้ที่คุณนายเหมยเป็นแบบนี้ คือจริงๆ ไม่มีอะไรหรอก เขาทำอย่างไปเพราะว่าเขารักลูกทั้งสามคนมากๆ ราณีก็เลยเข้าใจได้ ก็รับมือได้ว่ามันเป็นเพราะอะไร แต่เราก็ขอสู้กลับไปนิดนึง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเกลียดหรือไม่ชอบอะไร เพราะเราเข้าใจเขาได้ เข้าใจหัวอกของความเป็นแม่ที่รักลูกเกิน
มีน : ผมในฐานะเป็นลูกรัก (ในเรื่อง) ของแม่ต่าย ผมก็จะพยายามเอาตัวเองเข้าไปสนิทสนมกับแม่ต่ายมากที่สุดในชีวิตจริงด้วยแหละ ทุกคนก็จะเห็นแม่ต่ายมีมุมประจำของเขา เวลาถ่ายเสร็จ พักเบรก เขาก็จะไปนั่งอยู่มุมนึง เราก็จะเข้าไปชวนคุยกับแม่ต่ายค่อนข้างเยอะ ชีวิตจริงเขาเป็นผู้หญิงแมนๆ ชอบเล่าเรื่องวีรกรรมสมัยวัยรุ่น ก็ได้คุยได้แชร์กันเยอะ เวลาเข้าฉากกันสำหรับผมก็เลยได้รับส่งความรักกันได้ดี

ฝากละครเรื่องนี้ ?
มีน : เรื่องนี้ได้ออนแอร์ช่วงเทศกาลวันแม่พอดี เราคิดว่าเรื่องนี้หลักๆ คนดูน่าจะได้เห็นมุมมองความรักของทั้งความรักที่ลูกมีต่อแม่และลูกปฏิบัติต่อแม่ ทั้งปฏิบัติดีไม่ดีมันไม่ได้แปลว่าเราไม่รักแม่ รวมถึงการที่แม่บังคับเราหรืออยากให้เราเป็นอย่างนู้นอย่างนี้ เขาก็ไม่ได้ทำ เพราะเขาไม่ชอบเรา ไม่รักเรา เขาก็มีมุมที่เขารักเราและอยากปกป้องเราในรูปแบบหนึ่ง ฉะนั้นเรื่องนี้ดูกันได้ทั้งครอบครัว นั่งดูกันนั่งเมาธ์กันน่าจะสนุกดี
พีพี : พีว่าเป็นจังหวะที่ดีมากๆ ของเดือนสิงหาคม แล้วแสนรักฉายพอดี เพระว่าเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนได้เห็นถึงความรักของแม่ที่มีต่อลูก เด็กๆ หรือน้องๆ บางทีอาจไม่เข้าใจอะไรหลายอย่างกับการกระทำว่าแม่ทำแบบนั้นแบบนี้ รักเราหรือไม่รักเรา แต่พีมองว่าเรื่องนี้เมื่อดูจนจบ เราจะได้คำตอบว่าทุกอย่างมีเหตุผลว่าเพราะอะไรแม่ถึงทำแบบนี้ ทำไมแม่ถึงไม่พูด แม่ถึงไม่บอก แต่ลึกๆ แล้วเขาทำไปด้วยความรักทั้งนั้น ความปกป้อง ความห่วงใย ในฐานะลูก พีก็ไม่แตกต่างกัน ถ้าสมมติได้ดูเรื่องนี้ก็จะได้เห็นคาแรกเตอร์ของลูกๆ ที่แตกต่างกันไป แล้วก็ผลกระทบที่ตามมาจากการกระทำแต่ละการกระทำ จะนำชื่อเสียงมาให้ครอบครัว หรือนำชื่อเสียมาให้ หรือจะทำให้พ่อแม่เสียใจมากน้อยแค่ไหน หรือจะให้พ่อแม่มีความสุข พีว่าเรื่องนี้อีกหนึ่งเรื่องที่จะเป็นตัวอย่างสะท้อนสังคมหลายๆ อย่างให้คนดูได้กลับมาตระหนักคิด คิดได้ว่าความรักความสัมพันธ์ของครอบครัวมันสำคัญแค่ไหน
