แผนรุก การเมือง กรณี ธนาธร อนาคตใหม่ จากรุก เป็น ‘รับ’

ไม่ว่าการเรียกตัวทูตจาก 12 สถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำกรุงเทพมหานครเข้าพบ ไม่ว่าการมอบบันทึกช่วยจำให้กับตัวแทนจาก 12 สถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำกรุงเทพมหานคร

ถือได้ว่าเป็น “มาตรการ” อันเฉียบขาด

เป็นการแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า กระทรวงการต่างประเทศจะไม่ยินยอมให้มีพฤติการณ์อย่างที่เห็นกัน ณ สน.ปทุมวัน เมื่อวันที่ 6 เมษายน อีก

เท่ากับว่าเป็นมาตรการ “รุก” ในทางการเมือง

Advertisement

ไม่เพียงแต่จะรุกไปยังสถานเอกอัครราชทูต 12 ชาติซึ่งประจำอยู่ในกรุงเทพมหานคร หากที่สำคัญยังเป็นการรุกไปยังพรรคอนาคตใหม่

เป็นการเตือนไปยัง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ด้วยในขณะเดียวกัน

กระนั้น คำถามที่เสนอเข้ามาอย่างแหลมคมยิ่งในทางการเมืองก็คือ มาตรการเฉียบขาด มาตรการรุกในทางการเมืองเช่นนี้ประสบผลสำเร็จหรือไม่

ถือว่าเป็นการรุกในลักษณะ “รุกฆาต” กินเรียบหรือไม่

ในทางกายภาพมาตรการเข้มของกระทรวงการต่างประเทศอาจสร้างความพึงพอใจเป็นอย่างสูงให้กับกองเชียร์ที่หงุดหงิดกับภาพ ณ สน.ปทุมวัน เมื่อวันที่ 6 มกราคม

และสามารถ “สยบ” การเคลื่อนไหวของทูตานุทูตได้ในระดับหนึ่ง

กระนั้น หากประเมินในทางความคิด หากประเมินในทางการเมือง ก็ไม่สามารถตอบได้ว่าจะยุติปัญหาและความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ได้อย่างแท้จริงหรือไม่

ยิ่งหากศึกษาอย่างเห็น “พัฒนาการ” ของความไม่พอใจจะยิ่งเข้าใจ

ต้องยอมรับว่ากลยุทธ์เบื้องต้นจากความหงุดหงิดในกรณี สน.ปทุมวันนี้เริ่มจากการตั้งข้อสังเกตว่าที่เรียกว่าเป็น “ทูต” อาจมิใช่

อาจเป็น “ฝรั่งขี้นก” จาก “ถนนข้าวสาร”

เหมือนกับจะเป็นลีลาประชดประเทียด เหมือนกับจะสบประมาทว่าน้ำหน้าของพรรคอนาคตใหม่ไม่สามารถสร้างปรากฏการณ์ได้ในระดับนี้

ขณะที่ “มาตรการ” ของกระทรวงการต่างประเทศกลับเป็น “คำตอบ”

คำตอบในที่นี้ไม่เพียงแต่ฉายชี้ให้เห็นว่าคณะทูตจาก 12 ชาติและองค์กรระหว่างประเทศเป็นของจริงและไปปรากฏตัว ณ สน.ปทุมวันอย่างเปี่ยมด้วยสติสัมปชัญญะ

หากอ่านแถลงจากโฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ

หากอ่านแถลงการณ์จากสหภาพยุโรปหรือ EU จะเห็นท่วงทำนองการตอบโต้ในแบบการเมืองระหว่างประเทศอันเปี่ยมด้วยวุฒิภาวะ

ยืนยันว่าเป็นเรื่องปกติ ยืนยันว่ามิได้เป็นเรื่อง “อ-ปกติ”

เท่ากับแสดงให้เห็นว่า ลักษณะอันเป็น “อ-ปกติ” น่าจะอยู่ที่การดำเนินคดีต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อย่างมากด้วยข้อน่าสงสัยมากกว่า

มิใช่อยู่ที่บทบาทของ “คณะทูต”

ผลก็คือ กรณีการดำเนินคดีต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงได้รับการยกระดับจากเรื่องการเล่นงานทางการเมืองภายในกลายเป็นเรื่องในทางสากล

ที่คิดว่า “รุก” ก็อาจกลายเป็น “รับ”

ถามว่าเหตุปัจจัยอันใดต้องมีการรื้อคดีเก่าเก็บตั้งแต่เมื่อปี 2558 มาเล่นงาน ถามว่าเหตุปัจจัยอันใดต้องมีการใช้มาตรการเข้มต่อ 12 ทูตานุทูต

คำตอบคือ ต้องการ “จบ”

ความหมายก็หมายความว่าต้องการจบชีวิตการเมือง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ความหมายก็หมายความว่าต้องการจบการเคลื่อนไหวของเหล่าทูตานุทูต

คำถามที่ต่อเนื่องก็คือ แล้ว “จบ” ตามความต้องการหรือไม่  

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image