ในความยกย่องที่ประสานเสียงต่อการเข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ก่อให้เกิด “คำถาม”
ไม่ว่าจะดังมาจาก นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ไม่ว่าจะดังมาจาก นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค
ยิ่งจาก นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ยิ่งมากด้วยปรัศนี
ไม่ว่า 1 จะทำให้พรรคมีความสมัครสมานสามัคคีกันมากขึ้น ไม่ว่า 1 สามารถไกล่เกลี่ยปัญหาต่างๆ ภายในพรรคได้
สะท้อนว่าปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐคือ เอกภาพ
เท่ากับยืนยันว่าหัวหน้าพรรคอย่าง นายอุตตม สาวนายน เท่ากับยืนยันว่าเลขาธิการพรรคอย่าง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ไม่สามารถบริหารจัดการได้
จึงต้องเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ถามว่าภาพของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อพรรคพลังประชารัฐดำเนินมาอย่างไร
ตอบได้เลยว่า เป็น “ตัวจริง” นานมาแล้ว
เหมือนกับการเดินเข้าเดินออกทำเนียบรัฐบาลของคนอย่าง นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หรือคนอย่าง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
จะมีสถานีอยู่ที่ ส.เสืออีก ส.
รูปธรรมก็คือ การตบเท้าออกมาของ 4 ยอดกุมาร ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค โฆษกพรรค
สังคมเชื่ออย่างนั้นจริงหรือ
แม้กระทั่งการดีลระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคภูมิใจไทยก่อนขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เด่นชัดจรัสแจ้ง
มีคนที่ “ใหญ่” กว่าคอยบงการ กำหนด
ความดีใจอันปรากฏจากภายในพรรคพลังประชารัฐ 1 เท่ากับเป็นการถอนหายใจด้วยความโล่งอกเนื่องจาก 1 ตัวจริง เสียงจริงได้สำแดงตัวออกมา
เท่ากับภาระได้ตกบนบ่า
ปัญหาอันเนื่องแต่เอกภาพของแต่ละ “มุ้ง” ที่ดำรงอยู่ภายในพรรคพลังประชารัฐก็จะอยู่ในความรับผิดชอบของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยบริบูรณ์
ความดีใจของ นายอุตตม สาวนายน จึงเข้าใจได้
ความดีใจของ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ความดีใจของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จึงเป็นสิ่งที่รู้ๆ กันอยู่
ถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดีใจหรือไม่
ถามว่าหากแม้กระทั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เอาไม่อยู่มิหมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกโรงอีกหรือ
นี่คือรูปธรรมที่จะตามมา
เหตุใดสังคมจึงมากด้วยคำถามทั้งๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ทั้งๆ ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น รองนายกรัฐมนตรี
นั่นก็เพราะหลังการเลือกตั้งเดือนมีนาคม หลังการขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังการแถลงนโยบาย
ที่ทุกคนรอคอย คือ การลงมือทำ
