ผู้เขียน | สุชาติ ศรีสุวรรณ |
---|
การระบาดของ “โควิด-19” เชื้อไวรัสที่ทำให้ “คนภูมิคุ้มกันตัวเองอ่อน” เสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง ทำให้คำว่า “NEW NORMAL” ถูกหยิบขึ้นมาเผยแพร่สู่การทำความเข้าใจของผู้คน
“วิถีชีวิตปกติแบบใหม่” คือความหมายของ “NEW NORMAL” ที่ใช้เพื่อให้เข้าใจร่วมกัน
เราจะใช้ชีวิตแบบเก่าไม่ได้อีกแล้ว เพราะโควิด-19 แม้ไม่แสดงอาการกับคนหนุ่มสาวที่แข็งแรง แต่คนแข็งแรงแพร่เชื้อที่ติดมาไปทำลายชีวิตของคนที่มีโรคเรื้อรังรุมเร้า หรือแข็งแรงไม่พอด้วยวัย หรือเหตุอื่นได้
การอยู่ร่วมกันจึงต้องสร้างวิถีชีวิตใหม่ ที่พร้อมจะป้องกันการระบาด
เป้าหมายนี้ไม่มีใครปฏิเสธ
แต่ที่เห็นต่างคือวิธีการสร้าง “NEW NORMAL”
เนื่องจาก “วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป” ย่อมส่งผลกระทบต่อด้านอื่นๆ ที่สำคัญที่สุดคือ “การทำมาหากิน” อันเป็นมิติในภาคประชาชน
ขณะที่ในมิติของประเทศคือผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ
ไม่มีทางที่จะทำให้ระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนไปอย่างปกติได้ หากเน้นที่ทำให้การดำเนินชีวิตของผู้คนไม่เป็นปกติ
เช่นเดียวกันหากเน้นที่ทำให้การดำเนินชีวิตของผู้คนเป็นปกติ ก็ไม่สามารถควบคุมการระบาดของเชื้อโควิดที่เกิดจากการสัมผัสใกล้ชิดได้
การบริหารให้ผู้คนยังทำมาหากินได้ ในวิถีชีวิตที่มีศักยภาพในการป้องกันการระบาด จึงต้องอาศัยความสามารถอย่างสูงยิ่งของผู้นำประเทศ ต้องมีทั้งศาสตร์อันหมายถึงความรู้ความเข้าใจ และศิลป์อันหมายถึงจินตนาการหรือวิชั่น และความสามารถที่จะคิดวิธีจัดการให้เกิดความกลมกลืนลื่นไหลประคับประคองการดำเนินชีวิตของประชาชนให้ราบรื่น ให้ประเทศชาติไม่เสียหาย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหลังการเลือกตั้ง สืบทอดการเป็น “ผู้นำประเทศ” มายาวนาน
นั่นหมายถึงควรที่จะพัฒนาศาสตร์และศิลป์ในการบริหารจัดการประเทศให้เกิดความราบรื่น ประชาชนไม่เดือดร้อนจากการบริหารจัดการของราชการ
ในสถานการณ์โควิด หนทางจัดการมี 3 ทาง
หนึ่ง บังคับประชาชนให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยกลไกรัฐยังคงเหมือนเดิม หากินด้วยส่วนแบบไหน ใช้อำนาจหาผลประโยชน์อย่างไรก็ปล่อยไปอย่างนั้น “NEW NORMAL” เป็นเรื่องการบังคับให้ประชาชนเปลี่ยน ด้วยประกาศสารพัด
สอง เปิดให้ประชาชนดำเนินชีวิตไปอย่างปกติ เพื่อให้แต่ละคนรักษาการทำมาหากินไว้ และนั่นหมายถึงระบบเศรษฐกิจของประเทศจะขับเคลื่อนไปได้ด้วยวิถีชีวิตที่ปกติของประชาชน โดยให้กลไกราชการรับภาระที่รับมือเพื่อควบคุมการระบาดของโรค เตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ จัดหาเทคโนโลยี ระดมกำลังข้าราชการ จัดแผนการบริหารจัดการ เพื่อให้ประชาชนดำเนินชีวิตได้ตามปกติ “NEW NORMAL” มีกลไกราชการเป็นหัวใจหลัก
และสาม บูรณาการให้ทุกฝ่ายปรับตัวไปพร้อมๆ กัน อย่างเข้าอกเข้าใจกัน เอื้อเฟื้อต่อกัน ไม่ชี้โทษกัน โดย “ผู้นำต้องเป็นตัวอย่างที่ดี” ในการไม่ชี้โทษคนอื่น เอาแต่ปกป้องตัวเอง
การเลือกสร้าง “NEW NORMAL” แบบไหนขึ้นอยู่กับลักษณะของผู้นำ
ในสถานการณ์ที่ความผิดพลาดหย่อนยานที่ก่อให้เกิดการระบาดครั้งใหม่ ล้วนมีรูปธรรมชัดเจนว่ากลไกราชการเป็นต้นเหตุ โดยมีผลประโยชน์จากธุรกิจเถื่อนใต้ดินเป็นปัจจัยเปิดช่องโหว่ให้กับมาตรการควบคุมต่างๆ
การบริหารจัดการด้วยวิธีออกประกาศ ใช้อำนาจบังคับควบคุมประชาชนนั้นเป็นเรื่องที่ทำง่ายแต่ผลที่ตามมาคือความไม่ปกติของวิถีชีวิตที่จะสะเทือนต่อการทำมาหากิน และส่งผลต่อเนื่องเศรษฐกิจในภาพรวม
ซึ่งต่างกับวิธีการบริหารที่ดีที่สุดคือเข้มงวดกับการทำงานของราชการ เพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติ อันเป็นทางที่จะทำให้กลไกเศรษฐกิจขับเคลื่อนระบบได้ต่อ
การออกคำสั่งบังคับประชาชนย่อมเป็นการจัดการที่ง่าย เพราะหากไม่ได้ผลก็ปกป้องตัวเองด้วยแค่โทษประชาชนว่าไม่มีจิตสำนึกที่จะให้ความร่วมมือ
ขณะที่การบริหารจัดการให้กลไกราชการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีข้ออ้างให้ปกป้องตัวเองได้ แต่การพิสูจน์ให้เห็นความสามารถในการบริหารทำได้ง่ายกว่า
เลือก “NEW NORMAL” แบบไหน ย่อมสะท้อนความเชื่อถือ เชื่อมั่นในฝีมือในตัว “ผู้นำ”