การเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน พร้อมกับ นายอนุชา นาคาศัย เพื่อพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่งผลสะเทือน
ไม่เพียงทำให้ “คอบอล” ร้องเฮ
เพราะเป็นการเดินทางพร้อมกับคำแถลงที่ว่า สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ของกรมประชาสัมพันธ์ จะเป็นแม่ข่ายถ่ายทอดสด “ยูโร”
นี่เป็นอานิสงส์จาก นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ
เมื่อเห็นนามสกุล “จึงรุ่งเรืองกิจ” หลายคนอาจงันชะงักไปชั่วครู่ แต่มองผ่านใบหน้า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และแววตา นายอนุชา นาคาศัย
ก็ต้องร้อง “ฮ้อ” โดยพร้อมเพรียงกัน
เพราะนามของ นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ สัมพันธ์กับนามของ นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ และสัมพันธ์กับนามของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
ทั้งหมดล้วนสัมพันธ์กับ “กลุ่มสามมิตร”
ไม่ว่าจะมองผ่าน “ยูโร” ไม่ว่าจะมองผ่านกระบวนการแห่ง “ฟุตบอล” ไม่ว่าจะมองผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะมองผ่านพรรคพลังประชารัฐ
แม้จะเป็นเรื่องของ “กีฬา” แต่ก็สัมพันธ์กับ “การเมือง”
อาจเป็นเรื่องที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายอนุชา นาคาศัย นำรายละเอียดไปหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แต่มีหรือที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะไม่ได้รับรู้ก่อน
นี่คือจังหวะก้าวทางการเมืองอย่างชนิด “เหนือเมฆ” อันมาจาก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายอนุชา นาคาศัย
ที่ได้ นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ มาหนุนเสริม
หากแต่ทำให้ “มูลค่า” ทางการเมืองของ “กลุ่มสามมิตร” ซึ่งตกเป็นฝ่ายรอง ถูกรุกอย่างต่อเนื่องแปรเปลี่ยนมาเป็นฝ่าย “รุก” โดยพลัน
ส่งผลถึงตำแหน่ง “เลขาธิการพรรค” โดยอัตโนมัติ
ถามว่าหลังการเดินทางเข้าพบและหารือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายอนุชา
นาคาศัย ที่ทำเนียบรัฐบาลผลเป็นอย่างไร
ข่าวจาก “กลุ่มสามมิตร” ก็คึกคัก
ที่เคยเชื่อมั่นกันว่า การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 พรรคพลังประชารัฐที่จังหวัดขอนแก่นในวันที่ 18 มิถุนายน อาจมีการปรับเปลี่ยน
ตำแหน่งเลขาธิการพรรคของ นายอนุชา นาคาศัย
ก็เริ่มมิได้เป็นไปตามความคาดหมาย หากแต่มีแนวโน้มว่าตำแหน่งเลขาธิการพรรคยังคงเป็นของ นายอนุชา นาคาศัย ไม่แปรเปลี่ยน
ถามว่าทางด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะทำอย่างไร
จะยังรอคอยและปล่อยให้โอกาสอันงดงามและเหมาะสมหลุดลอยไปโดยมิอาจรุกไล่เข้าไปยึดครองพื้นที่ทางการเมืองกระนั้นหรือ
นี่เป็น “คำถาม” ที่ยังไม่มี “คำตอบ”
ไม่ว่าในที่สุดแล้ว ตำแหน่งเลขาธิการพรรคจะเป็นของ นายอนุชา นาคาศัย หรือต้องปล่อยให้ไปอยู่ในความยึดครองของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
แต่ทั้งหมดนี้คือ การต่อสู้
เป็นการต่อสู้ภายในพรรคพลังประชารัฐ เป็นการต่อสู้ระหว่าง “กลุ่มสามมิตร” กับกลุ่มที่ถูกเรียกขานว่า
“4 ช.” และนับวันจะยิ่งทวีความร้อนแรง
เพื่อชิง “บทบาท” ภายใน “พลังประชารัฐ”
