ความเงียบ นิ่งสงบ จาก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ความเงียบ ทรงพลัง

คอลัมน์หน้า 3 : ความเงียบ นิ่งสงบ จาก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ความเงียบ ทรงพลัง

ภายหลังออกมาแถลงและให้สัมภาษณ์ในตอนบ่ายของวันพฤหสบดีที่ 9 กันยายน ณ รัฐสภา เงาร่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็หายไป

ปรากฏอีกครั้งผ่าน “โพสต์” ผ่าน “เฟซบุ๊ก”

แม้ว่าจะมีข่าวลือจำนวนมากมายปรากฏขึ้น แม้ว่าจะมีภาพชาวบ้านจากพะเยารอต้อนรับ การกลับบ้านเกิดอย่างคึกคัก

กระนั้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็หายไปจากวงจร

Advertisement

น่าสนใจก็ตรงที่ความเงียบของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สัมพันธ์กับความเงียบของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ท่ามกลางข่าว “การรุก” ต่อเนื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เป็นการรุกด้วยการเชิญ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เข้าพบ เป็นการรุกด้วยการเชิญ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เข้าพบ

Advertisement

รุกเพื่อจัดการ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

ไม่ว่าการปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ว่าการปลด นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหมือนกับกระทำไปตามอำนาจของนายกรัฐมนตรี

นั่นก็คือ มาตรา 171 ของรัฐธรรมนูญ

แต่เนื่องจากตำแหน่ง “รัฐมนตรี” ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นตำแหน่งที่ได้มาในโควต้าพรรคพลังประชารัฐ

นี่ย่อมเกี่ยวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ไม่ว่าจะมองผ่านภาพแห่งความเป็น “พี่ใหญ่” ของ “กลุ่ม 3 ป.” ไม่ว่าจะมองผ่านภาพแห่งความเป็น “หัวหน้า” พรรคพลังประชารัฐ

จำเป็นต้องให้ความเคารพ จำเป็นต้องให้เกียรติ

เมื่อความเป็นจริงที่ปรากฏเด่นชัดตามลำดับก็คือ มิได้มีการหารือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นการตัดสินใจแล้วแจ้งให้ทราบเท่านั้น

นี่จึงกลายเป็น “ปัจจัย” มากด้วยความละเอียด อ่อนไหว

ไม่ว่า “ความเงียบ” อันมาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่า “ความเงียบ” อันมาจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จึงมากด้วยพลานุภาพ

แต่ข่าว “ลุงป้อม” เครียดจัด

เครียดจัดกระทั่งนอนไม่หลับแว่วตามลมมาจากบ้านป่ารอยต่อ ก็กลายเป็นพาดหัวตัวไม้ของสื่ออย่างพร้อมเพรียงกัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องสะดุ้ง

เมื่อประสานกับข่าว “ปล่อย” ที่หลุดออกมาเป็นลำดับ ตั้งแต่การส่ง นายสันติ พร้อมพัฒน์ เข้าไปเคลื่อนไหวประสาน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน

กดดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกจากตำแหน่ง

ความเครียดก็แผ่ขยายจากบ้านป่ารอยต่อ ไปยังบ้านรับรอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปยังบ้าน นายสันติ พร้อมพัฒน์ โดยอัตโนมัติ

ท่ามกลางความเงียบของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

“อาฟเตอร์ช็อก” จากคำสั่งปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จึงส่งผลสะเทือนไม่เพียงแต่ต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

หากกระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่เว้น

นี่มิได้เป็นสัญญาณแห่งความขัดแย้งและแตกแยกภายในพรรคพลังประชารัฐ หากแต่ยังเป็นสัญญาณสะท้อนถึงอนาคต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

คำถามก็คือ จะยืนระยะไปได้อีกนานเท่าใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image