ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
---|
คอลัมน์หน้า 3 : ยุทธการ การเมือง งัดพลัง ‘พลังประชารัฐ’ ชี้ชัด การเมืองไทย
แม้จะตระเตรียมและวางแผนการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 พรรคเพื่อไทยไว้อย่างเป็นระบบเพื่อจุดประกายและสร้างความโดดเด่น
ให้เหนือกว่า “ก้าวไกล” ให้เหนือกว่า “เส้นทางไทย”
ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสีให้เป็น “แดงเดือด” อย่างเข้มข้น ช่วงชิงจุดเด่นจาก “แดงทั้งแผ่นดิน” มาไว้ในมือ
ปล่อยคำว่า “พรุ่งนี้” ออกไปอย่างกว้างขวาง
ไม่ว่าจะเป็นการใช้ “สื่อ” อันมากด้วยการเคลื่อนไหวอย่างตุ๊กตุ๊กเหมือนกับเมื่อวันเกิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
แต่เมื่อปะเข้ากับความร้อนแรงใน “พลังประชารัฐ”
กระแสและความสนใจในทางการเมืองก็พุ่งเข้าหาปมอันเกิดขึ้นของพรรคพลังประชารัฐขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
แม้กระทั่งคนของ “เพื่อไทย” เองก็ต้อง “ล้างตา” ติดตาม
การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐในวันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคมนั้นเองทำให้ความคึกคักของพรรคเพื่อไทยลดลง
แสงแห่งสปอตไลต์ฉายตรงไปยัง “พลังประชารัฐ”
แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะแก้เกมถึงขนาดปล่อยชื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ให้มาอยู่ในสถานะแห่ง “ว่าที่” หัวหน้าพรรค
ประสานเข้ากับการร่วมประชุมของ “อุ๊งอิ๊ง”
แต่การอยู่และการไปของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กลับเร้าความสนใจมากกว่า
เชื่อว่าแม้แต่คนจาก “ดูไบ” ก็ติดตามเรื่องนี้
เนื่องจากชะตากรรมในทางการเมืองในตำแหน่งเลขาธิการพรรคของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะส่งผลสะเทือนอย่างลึกซึ้งต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ไม่ว่าจะยัง “อยู่” ไม่ว่าจะถูก “ขับ” ออกไป
คล้ายกับว่าปัญหา “ภายใน” พรรคพลังประชารัฐจะเป็นการปะทะระหว่าง 6 รัฐมนตรีที่นำโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้สัมพันธ์กับยุทธการ “ปลด” เมื่อวันที่ 8 กันยายน และสัมพันธ์กับการหารือที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม
นี่คือความต่อเนื่องจากยุทธการ 8 กันยายน
เป็นกระบวนการทางการเมืองที่เริ่มโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรับลูกต่อโดย 6 รัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ
บังเอิญที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมา “ขวาง”
การศึกจึงถูกขยายและบานปลายกระทั่งเป็นการปะทะระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อยู่ตรงกลาง
ยุทธการจากวันที่ 8 กันยายน ต่อเนื่องมายังยุทธการวันที่ 25 ตุลาคม จึงกลายเป็น “การตลาด” ทางการเมืองอันมากด้วยความเข้มข้น
กระหึ่มด้วยความสนใจเป็นอย่างสูง
เพราะมิได้เป็นเพียงการชี้ถึงอนาคตของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หากแต่ยังเป็นการชี้ถึงอนาคตของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ไม่ว่า “เพื่อไทย” ไม่ว่า “ก้าวไกล” ย่อมเฝ้ามอง