การเมือง ปีเสือ ชะตา บิ๊กตู่-รบ. หวาดเสียว

การเมือง ปีเสือ ชะตา บิ๊กตู่-รบ. หวาดเสียว

คอลัมน์หน้า 3 : การเมือง ปีเสือ ชะตา บิ๊กตู่-รบ.หวาดเสียว

กาลเวลาผันผ่าน จากปีวัวสู่ปีเสือ

การเมืองไทยยังคงเข้มข้น เมื่อปลายปี 2564 รัฐบาลผ่านพ้นความเสี่ยงมาได้อย่างหวุดหวิด กระทั่งในปี 2565 นี้ เกิดคำถามว่า รัฐบาลจะแคล้วคลาดอีกหรือไม่

ถ้าหากสามารถเอาตัวรอดไปได้ การเข้าสู่ปี 2566 ก็คือการเข้าสู่เส้นชัยครบเทอม ซึ่งเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หวังให้เป็นเช่นนั้น

แต่สำหรับพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทยแล้วมองแตกต่างไปจากบิ๊กตู่

Advertisement

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทำนายไว้ตั้งแต่ปลายปีก่อนว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะเจอวิบากกรรมหลายด้าน

หนึ่ง รัฐบาลต้องเผชิญหน้ากับเสียงในสภา เพราะตอนท้ายๆ ปีที่แล้ว ปรากฏการณ์ “สภาล่ม” เริ่มมีถี่ขึ้น ซึ่งแสดงถึงประสิทธิภาพการคุมเสียง

ถ้ามีกฎหมายสำคัญเข้าสภาโดยที่ซีกรัฐบาลขัดแย้งกัน โอกาสที่กฎหมายสำคัญจะไม่ผ่านสภา เช่น พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน ย่อมมีสูง

Advertisement

และถ้ากฎหมายไม่ผ่านสภานั่นคือความรับผิดชอบของผู้บริหารประเทศ

สอง วิกฤตต่างๆ ยังคงถาโถมเข้าใส่รัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจากโรคโควิด-19 รวมถึงวิกฤตโรคโควิด-19 ที่กลายพันธุ์เป็น “โอมิครอน” ไปแล้ว

สาม คือ บทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 และมาตรา 264 ว่าด้วยนายกรัฐมนตรีไม่สามารถดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปีได้ และรัฐธรรมปี 2560 ก็เขียนในบทเฉพาะกาล มาตรา 264 ว่า รัฐบาลที่ผ่านมาก่อนที่รัฐธรรมนูญนี้จะบังคับใช้ให้เป็นคณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้

พรรคเพื่อไทยเชื่อว่า เมื่อมีการส่งตีความ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องหมดวาระลงในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ต้องหยุดทำหน้าที่นายกฯ

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวยังคงมีความเห็นต่าง เพราะฝ่ายกฎหมายสภาผู้แทนราษฎรเพิ่งออกมาระบุว่า การนับอายุนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญปี 2560 น่าจะเริ่มต้นหลังการเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งเรื่องนี้ต้องไปสิ้นสุดที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

เป็นอีกปัจจัยเสี่ยงของ พล.อ.ประยุทธ์

สี่ มีคดีเหมืองทองอัคราที่วันที่ 31 มีนาคม ศาลจะมีคำตัดสินชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ

คดีดังกล่าว เหมืองทองอัคราฟ้องราชอาณาจักรไทยที่ พล.อ.ประยุทธ์สั่งปิดเหมือง

ห้า เรื่องสิทธิเสรีภาพ ซึ่งรัฐบาลตกเป็นจำเลยสังคมโลก โดยเฉพาะการปฏิบัติต่อกลุ่มคนเห็นต่าง

ปัญหาต่างๆ ดังกล่าว อาจทำให้รัฐบาลอยู่ครบเทอมลำบากขึ้น

ขณะเดียวกันในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลได้จัดฉายาคณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรี

เป็นการสะท้อนภาพรัฐบาลและรัฐมนตรีในสายตาของสื่อมวลชนที่ทำงานใกล้ชิด

ปรากฏว่ารัฐบาลได้รับฉายา “ยื้อยุทธ์” โดยอธิบายความเพิ่มเติมว่า รัฐบาลยื้อแย่งกันเอง ไม่สนใจประชาชน และการเดินหน้าของประเทศ

มองว่าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม

การยื้อให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ สร้างประโยชน์ให้ตนเองมากกว่า จึงทำทุกอย่างเพื่อยื้อให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อไป

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับฉายา “ชำรุดยุทธ์โทรม”

พร้อมทั้งอธิบายความหมายว่า ตลอดทั้งปี 2564 พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ที่รับบทหนักที่สุดแห่งปี

ถูกมองว่าล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาโควิด-19 การกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริหารราชการ หรือแม้แต่เรื่องทางการเมือง

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะยังอยู่ในตำแหน่งได้ แต่ก็ทรุดโทรม เสื่อมสภาพไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือจิตใจ

เมื่อเหลียวไปรับฟังฉายารัฐสภา ที่สื่อมวลชนประจำรัฐสภาตั้งให้

พบว่าปีนี้ สภาได้รับฉายา “สภาอับปาง”

อธิบายเพิ่มเติมว่า ในรอบปี 2564 ประสบปัญหาสภาล่ม

ปัญหาสภาล่มไม่ใช่เรื่องปกติ แต่สภาชุดนี้กลับทำให้เห็นอยู่บ่อยครั้งจนกลายเป็นความซ้ำซาก ไม่คิดอุดรูรั่วของเรือเพื่อป้องกันปัญหา

ส.ส.ฝั่งรัฐบาลไม่ตระหนักถึงหน้าที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน มัวแต่จ้องจะเล่นเกมการเมือง ฉะนั้น การที่สภาอับปางบ่อยจึงสะท้อน ส.ส.ทั้งสองฝ่าย

จากภาพสะท้อนที่ออกมา ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งรัฐบาล ทั้งรัฐสภา กำลังอยู่ในขาลง

เหลียวไปดูคำทำนายตามหลักโหราศาสตร์กันบ้าง

บุศรินทร์ ปัทมาคม นักโหราศาสตร์ชื่อดัง ผ่าดวงเมือง ปีเสือ 2565 ให้ฟังเป็นลำดับ

สรุปได้ความว่า ปี 2565 ภาพรวมประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ “หนักไม่แพ้ปีวัว”

ปีเสือมีดาวที่จะต้องย้ายคือดาวพฤหัส จะทำให้จังหวะชีวิตของดวงเมืองเป็นช่วงขาลง

“ทั้งนี้ ดาวพฤหัสย้ายเข้ามาในเรือนวินาศ คือ เรือนชะตาที่เสีย ดาวพฤหัสเป็นดาวสำคัญ ถ้าดาวพฤหัสจรมาเข้าเรือนวินาศ 8 เมษายน 2565 ดวงเมืองตกไปอีกชั้นหนึ่ง”

นอกจากนี้ “ราหูเป็นอีกตัวสำคัญที่จะพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจ กับโอกาสที่จะปฏิวัติรัฐประหารต่อเนื่องกันไป เศรษฐกิจมาตั้งแต่ปี 2563 วันที่ 10 กันยายน 2563 และจะอยู่ยาวมาถึง 20 มีนาคม 2565

ทำให้เชื่อมั่นว่า แนวโน้มน่าจะเกิดการปฏิวัติรัฐประหารอีก

โอกาสน่าจะเกิดรัฐประหารมาก เดือนที่ดาวอาทิตย์ตกที่เสีย ประมาณ 16 กันยายน-16 ตุลาคม และ 17 พฤศจิกายน-16 ธันวาคม และอีกช่วง 14 มีนาคม ถึง 13 เมษายน

ส่วนสถานการณ์บ้านเมืองปี 2565 “ประชาชนจะมีความรู้สึกค่อนข้างเบื่อหน่าย หรือไม่ค่อยเชื่อถือในความที่จะเป็นนักบริหาร นักจัดการของรัฐบาลชุดนี้แล้ว ก็จะลดศรัทธา ลดความเชื่อถือ ไปเรื่อยๆ

และในที่สุด ก็จะไปสุดยอดเอาเมื่อราหูทับลัคดวงเมือง วันที่ 30 มีนาคม ปี 2565

ส่วนการเลือกตั้ง “มีแนวโน้มว่าจะไม่มี”

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ หลังวันเกิดวันที่ 21 เดือนมีนาคม ไปจนถึง 8 เมษายน 2565 น่าจะป่วย เสถียรภาพรัฐบาลไม่ดี ขณะที่ม็อบน่าจะมีมากขึ้น รุนแรงขึ้น

นั่นเป็นคำทำนายตามตำราโหราศาสตร์

ส่วนความจริงที่ต้องเผชิญหน้าในปี 2565 คือ ปัญหาโรคระบาด และปัญหาเศรษฐกิจ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องแก้ไข รวมไปถึงปัญหาการเมืองที่มีข้อขัดแย้งมากขึ้นเรื่อยๆ

ยิ่งใกล้วันครบวาระรัฐบาล ยิ่งมีความขัดแย้งกันมากขึ้น

ดูเหมือนว่าปี 2565 สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาลแล้ว น่าจะเป็นปีเสือดุ

กลางเดือนมกราคม กลุ่มผู้ชุมนุมก็นัดหมายกันอีกแล้ว

ปีนี้จึงเป็นปีแห่งความไม่แน่นอนที่อะไรๆ ก็พร้อมจะเกิดขึ้น

เรียกได้ว่าต้องลุ้นกันตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image