วิเคราะห์หน้า 3 : การเมือง ปิดสภา แนวรุกฆาต บิ๊กตู่ ยังเข้มข้น ซับซ้อน

วิเคราะห์หน้า 3 : การเมือง ปิดสภา แนวรุกฆาต บิ๊กตู่ ยังเข้มข้น ซับซ้อน

การเมือง ปิดสภา

แนวรุกฆาต บิ๊กตู่

ยังเข้มข้น ซับซ้อน

คํ่าคืนวันที่ 8 มีนาคม ที่สโมสรราชพฤกษ์ ถนนวิภาวดี กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมงานเลี้ยงกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล

Advertisement

เฉพาะพรรคที่มีรัฐมนตรีร่วม ครม. ประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา

Advertisement

ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่มีรัฐมนตรีไม่ได้รับเชิญ

เนื้อหาสาระสำคัญในการพบปะกัน แม้จะพยายามบอกกล่าวโยงใยไปถึงสถานการณ์สงครามรัสเซียบุกยูเครน แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า ใจความสำคัญของการพบปะครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเสถียรภาพของรัฐบาลที่ย่ำแย่

งานนี้ 3 ป.พยายามผนึกกับพรรคการเมืองขนาดใหญ่ขนาดกลางในรัฐบาล เพื่อยืนหยัดอยู่ต่อจนกว่าจะครบวาระของรัฐบาล

ภาพสะท้อนที่เกิดขึ้น มองเห็นความถดถอยของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เดิมไม่จำเป็นต้องมีงานเลี้ยง เสียงฝ่ายการเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้อยู่ในตำแหน่งนายกฯ ก็พึ่บพั่บ

แต่กาลเวลาผ่านไป สถานการณ์เปลี่ยนแปลง เสียงที่เคยพึ่บพั่บสนับสนุนเริ่มแกว่ง โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐอีกจำนวนหนึ่งเป็นตัวอย่าง

ส.ส.กลุ่มดังกล่าวพร้อมที่จะให้พรรคพลังประชารัฐขับออกจากพรรค แล้วไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย จากนั้นก็ปรากฏข่าวคราวมากมายติดตามมา

เกิดเป็นข่าวสะพัดเรื่องการปรับ ครม. เพื่อให้ ร.อ.ธรรมนัส กลับไปเป็นรัฐมนตรี แต่แล้วก็ได้รับการปฏิเสธ

หรือข่าวกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก หรือยุบสภา เพื่อหานายกรัฐมนตรีคนใหม่

ทุกกระแสข่าวตอกย้ำความต้องการเปลี่ยนแปลง

อย่างไรก็ตาม สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว มองว่า เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนรัฐบาลก็จะครบวาระการดำรงตำแหน่ง จึงตั้งเป้าหมายที่จะอยู่ต่อไปจนถึงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า

เมื่อตั้งเป้าหมายเช่นนี้ ข่าวเกี่ยวกับการแสวงหาเสียงมาเสริมในสภา และการกระชับความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาลก็เห็นเป็นรูปธรรมขึ้น

แต่ความพยายามของฝ่ายที่ต้องการเปลี่ยนแปลงนายกฯ ยังมีอยู่

ความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงนายกฯ มิได้เพิ่งเกิดขึ้นในขณะนี้ หากแต่เกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี

นับตั้งแต่เป็นนายกฯ หลังจากยึดอำนาจก็มีกลุ่มคนออกมาต่อต้าน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า แรงต่อต้านยังน้อย

กระทั่งการเลือกตั้งปี 2562 ผ่านพ้น และ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกฯ อีกครั้ง แรงต่อต้านก็เพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ

น่าสังเกตว่าแรงต่อต้านที่เพิ่มขึ้นนั้น ได้เพิ่มขึ้นทั้งด้านปริมาณ และคุณภาพ

ด้านปริมาณวัดจากความรู้สึกของโพลสำนักต่างๆ ที่สะท้อนออกมาในรูปแบบการประเมินผลการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล

สะท้อนออกมาในรูปแบบความนิยมของนายกฯ รัฐบาล และพรรคการเมือง

ส่วนด้านคุณภาพ คือ กลุ่มคนที่เห็นพ้องว่าควรมีการเปลี่ยนแปลงได้ขยายจากกลุ่มต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ที่มีอยู่ดั้งเดิม ไปสู่กลุ่มก้อนกองเชียร์ที่เคยสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์

กระทั่งกลายเป็นข่าวปฏิวัติรัฐประหารที่ย้อนกลับมาให้ได้ยินอยู่เนืองๆ

ข่าววงในกระจายในหมู่นักการเมืองว่า การดำรงสถานะนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จะยากเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเริ่มมีผู้นำเสนอแนวคิดหลากหลายสูตรเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำรัฐบาล

สูตรการเมืองดังกล่าวต้องตอบโจทย์ที่ไม่ให้พรรคการเมืองซึ่งฝ่ายทหารมองว่าเป็นฝั่งตรงข้ามกลับมามีอำนาจ

แต่ขณะเดียวกัน การปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ บริหารราชการแผ่นดินต่อไปก็อาจเป็นความเสี่ยง

จึงสมควรต้องมีวิธีการใหม่ที่ทำให้ประเทศขับเคลื่อนไปได้

วิธีการนี้อาจจะกระทบต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้

วิธีการดังกล่าวอาจจะกระทบต่อ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล ที่กำลังบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้

ไม่มีใครทราบว่าสูตรใหม่การเมืองไทยจะเป็นไปตามกระแสข่าววงในหรือไม่

ไม่มีใครทราบว่าสูตรใหม่ทางการเมืองจะออกมาเช่นไร

ไม่ว่าในที่สุดแล้ว การเมืองจะใช้สูตรใดในการขับเคลื่อนประเทศ

แต่สัมผัสได้ว่า ทุกสูตรล้วนมีเป้าหมายไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ และเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

การเมืองในขณะนี้แม้จะอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมรัฐสภา แต่ดูเหมือนว่าความเข้มข้นซับซ้อนมิได้ลดน้อยถอยลงเลย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image