| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
|---|
คอลัมน์หน้า 3 : เงื่อนไข โอกาส ของ อัศวิน ขวัญเมือง การเมือง ‘ใหม่’
ไม่ว่า “นิด้า โพล” ไม่ว่า “มติชน ทีวีโพล” ล้วนสะท้อนแนวโน้มคะแนนของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ทะยานขึ้นอยู่อันดับ 1 นำโด่ง
ตามมาห่างๆ โดย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร
ขณะที่คะแนนของ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ที่เริ่มถดถอย ก็ทำท่าว่าจะถูกแซงขึ้นมาโดย น.ต.ศิธา ทิวารี ไทยสร้างไทย
กระนั้น มุมของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็สะท้อนจุดต่าง
ความจัดเจนจากการลงชิงตำแหน่ง “ผู้ว่าฯกทม.” มาแล้วถึง 2 ครั้งและด้วยปริมาณคะแนนไม่ต่ำกว่า 300,000
กลับให้ความเชื่อมั่นไปยัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง
ไม่ว่าในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม ผลการเลือกตั้งเพื่อชิงชัยในตำแหน่ง “ผู้ว่าฯกทม.” จะออกมาอย่างไร
แต่บทสรุปของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็ไม่ควรเพิกเฉย
ต้องยอมรับว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ สะสมความจัดเจนในทางการเมืองมาอย่างน้อยก็จาก 2 พื้นฐานที่สำคัญเป็นอย่างมาก
1 ความจัดเจนจาก “มวลชน”
ขณะเดียวกัน 1 ความจัดเจนจากที่เคยผาดโผนอยู่ในยุทธจักรของ “กรุงเทพมหานคร” มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน
ทั้ง “บนดิน” ทั้ง “ใต้ดิน”
เมื่อเห็นการเรียงแถวเข้ามาหนุนเสริมทีมของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.ชาญชัย เสสะเวช
รวมถึงการเข้ามาของ นายถาวร เสนเนียม
ไม่จำเป็นต้องเป็น นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็ต้องมองแต่ละลีลาของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ด้วยความคาดหมายเป็นอย่างสูง
ทั้งนี้ แทบมิได้มองผ่านมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แตะเข้ามา
ความจัดเจนทางการเมืองของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มีอยู่แน่นอน ความจัดเจนทางการเมืองของ นายถาวร เสนเนียม มีอยู่แน่นอน
ขณะที่บารมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ก็โอ่อ่าอลังการ
กระนั้น ก็ไม่อาจมองข้าม “ปัจจัย” ในทางการเมืองอันเป็นผลสะเทือนจากการเลือกตั้งอย่าง เป็นการทั่วไปเมื่อเดือนมีนาคม 2562 อย่างเด็ดขาด
โดยเฉพาะการมาของ “อนาคตใหม่”
การมาของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประสานกับการมาของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้ก่อให้เกิด “ภูมิทัศน์” ทางการเมืองใหม่ตามมา
รวมถึงจังหวะก้าว “ก้าวหน้า” และ “ก้าวไกล”
คะแนนของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อาจโดดเด่น อำนาจลึกล้ำของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อาจฝังลึกใน บช.น.และ กทม.
แต่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ก็เป็นปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม
การเลือกตั้งอย่างเป็นการทั่วไปเมื่อเดือนมีนาคม 2562 คะแนนกว่า 8 แสนของพรรคอนาคตใหม่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด
เป็น 8 แสนภายหลัง “ชัตดาวน์”
พลานุภาพของมวลมหาประชาชน กปปส.เมื่อประสานเข้ากับการสะสมอำนาจของรัฐประหารอาจโอ่อ่าอลังการยิ่ง
แต่ก็ไม่ควรมองข้าม “พลังใหม่” ที่กำลังเติบใหญ่
