คอลัมน์หน้า 3 : กระเทือน กระทบ จาก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สู่ทำเนียบ รัฐบาล
จังหวะก้าวของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หลังจากวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม เป็นจังหวะก้าวที่กำลังส่งผลในเชิง “ก้าวกระโดด”
ไม่เพียงแต่เป็น “แบบอย่าง” ให้กับ “นักการเมือง”
ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองในระดับ “ท้องถิ่น” ที่อยู่ในองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่อยู่ในเทศบาล ที่อยู่ในองค์การบริหารส่วนตำบล
หากแม้กระทั่ง “ส.ส.” อันเป็นนักการเมือง “ระดับชาติ”
หากที่สำคัญและมากด้วยความแหลมคมอย่างเป็นพิเศษ แต่ละจังหวะก้าวอันมาจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้กลายเป็น “ปฏิมา”
นำไปสู่ “คำถาม” ก่อให้เกิด “การเปรียบเทียบ”
มิได้เป็นการเปรียบเทียบเพียงกับ “อดีต” ผู้ว่าฯกทม.คนอื่นๆ หากแต่ยังเปรียบเทียบไปยัง นักบริหาร “รัฐกิจ” ที่สูงยิ่งกว่านั้น
กลายเป็นการคาดหวังต่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ โดยอัตโนมัติ
ยิ่งปรากฏอาการผ่านบางคำพูดบางคำพูด ไม่ว่าจะจากภายใน “ทำเนียบรัฐบาล” ไม่ว่าจะจากภายใน “พรรคพลังประชารัฐ”
ยิ่งทำให้แสงแห่งสปอตไลต์ฉายจับ
ฉายจับไปยังบาง “ถ้อยคำ” สะท้อนน้ำเสียงที่หงุดหงิด สะท้อนการอุปมาอุปมัยซึ่งผิดฝาผิดตัวอย่างเด่นชัด
ความหงุดหงิดนั้นฉายชัดถึง “อารมณ์”
แทนที่จะเป็นอารมณ์อันเป็นความยินดีต่อความกระตือรือร้นในการทำงานของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หากแต่ยืนยันความอิจฉา ริษยา
เป็นอาการในแบบ “กระบอกตา” ร้อนผ่าว
จึงช่วยไม่ได้ที่วัตรปฏิบัติบนพื้นฐานแห่งทำงาน ทำงาน ทำงานของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไป
จาก “ผู้ว่าฯกทม.” ไปสู่สถานะแห่ง “นายกรัฐมนตรี”
การเปรียบเทียบอย่างเข้มข้นเริ่มต้นจากการลงมือ “กระทำ” ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แม้จะยังมิได้มีการรับรองจาก กกต.
แต่ในวันแรกก็เริ่ม “เดินสาย” ทำงาน
เป็นการทำงานในแบบของคนติดดิน โดยการทะลวงไปยังปัญหาที่ดำรงอยู่อย่างเป็นจริงในแต่ละพื้นที่ของ กทม.
ไม่ว่าคลองลาดพร้าว ไม่ว่าอุโมงค์ยักษ์ฝั่งธนบุรี
การโอภาปราศรัยกับ “คนกวาดขยะ” กับ “เจ้าหน้าที่โยธา” ซึ่ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เรียกอย่างชัดถ้อยชัดคำว่าเป็น “เพื่อนร่วมงาน”
นี่ย่อมเป็น “มิติ” และ “ฉากทัศน์” ใหม่
จึงเกิดการนำเอาท่วงทำนองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาวางเรียงเคียงขนานกับที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ปฏิบัติโดยอัตโนมัติ
คะแนนและความนิยมยิ่งพุ่งทะยาน
เพียง 4-5 วันหลังจากการลงคะแนนเลือก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กว่า 1.3 ล้านเสียงผลสะเทือนยังกว้างและลึกถึงเพียงนี้
ก่ออาการ “สั่นไหว”
เป็นความสั่นไหวจากภายใน “ทำเนียบรัฐบาล” เป็นความสั่นไหวจากภายใน “พรรคพลังประชารัฐ”
ทุกอย่างล้วนขึ้นกับจังหวะก้าว นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
