| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
|---|
การทะยานข้าม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นมาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ดำเนินไปอย่างมี “กระแส” และมี “พลวัต”
เป็นพลวัตบนฐานแห่ง “พันธมิตร”
เป็นกระแสอันเชื่อมร้อยทั้งบนรากฐานแห่ง “อดีต” จากพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย
และ “ปัจจุบัน” แห่งความเป็น “คนรุนใหม่”
แรกที่ “นิด้าโพล” สำรวจในเดือนมกราคม คะแนนอาจได้ 12.53 เป็นรอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แต่เมื่อถึงเดือนมิถุนายน ก็ไป “โลด”
นั่นก็คือ ทะยานจาก 12.53 เป็น 25.28 ทิ้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้โศกศัลย์รันทดอยู่ที่ 11.68
การมาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จึงทรงความหมาย
ความหมายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มิได้อยู่ที่ความเป็น “ชินวัตร” อันเป็นดีเอ็นเอเดียวกันกับ นายทักษิณ ชินวัตร ประการเดียว
หากที่สำคัญ คือ ยืนอยู่กับ “เพื่อไทย”
ไม่ว่าจะมองผ่านกระบวนการของ “พรรค” ไม่ว่าจะมองผ่านกระบวนการของ “ครอบครัว” อันเป็นจังหวะก้าวในทางยุทธวิธี
จังหวะก้าวนี้มิได้มา “เดี่ยว”
ตรงกันข้าม มาอย่างเป็นระบบมาอย่างเป็น “แพคเกจ” สัมผัสได้จากการแต่งตั้ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็น “ผู้อำนวยการ”
นั่นหมายถึงมือที่แตะไปยัง “คนเสื้อแดง”
เมื่อประสานผลงานในแบบ “ไทยรักไทย” เข้ากับการต่อสู้อันเข้มข้นคึกคักของ “คนเสื้อแดง” ก็ปรากฏเป็นพลัง
พลังนี้รุกคืบอย่างเป็น “กระบวนการ”
คําว่า “กระบวนการ” ในที่นี้ด้านหลักย่อมเป็นคุณูปการของ “ไทยรักไทย” ขณะเดียวกัน เมื่อผ่านมาแล้ว 2 รัฐประหาร
ก็ปรากฏ “พันธมิตร” แห่ง “แนวร่วม” ขึ้น
เพราะว่าผลสะเทือนจาก “รัฐประหาร” จากเมื่อเดือนกันยายน 2549 ต่อเนื่องมาถึงเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ทำให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไม่ได้เดินคนเดียว
ตรงกันข้าม ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ก็มีพรรคอนาคตใหม่ซึ่งกลายมาเป็นพรรคก้าวไกลในปัจจุบัน
เดือนพฤษภาคม 2565 ก็ปรากฏ “ชัชชาติ”
กระแสจากกว่า 1.3 ล้านคะแนน และกัมมันตะแห่ง “ทำงาน ทำงาน ทำงาน” ได้ทะลวงตรงไปยัง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ก่อให้เกิดผลดีแก่การดำรงอยู่ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
การมาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จึงเป็นการมาอย่างเป็นแพคเกจ ทั้งกระแสจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และการดำรงอยู่ของพรรคก้าวไกล
ชื่อของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จึงมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
เมื่อประสานทั้งบทบาทของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เข้ากับการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของพรรคก้าวไกล
ทั้งหมดนี้ตีคู่ไปกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อย่างทรงพลัง
