คอลัมน์หน้า 3 : แนวทาง ซื่อใส ของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แปรเป็น อาวุธ

หากประเมินจากท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสานกับท่าที นายสุชาติ ชมกลิ่น และ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์

สถานการณ์ “ชัชชาติ” ก็ “น่ากลัว”

เพียงเห็นรายละเอียด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วางมือและแต่ละนิ้วของตนเหนือมือและแต่ละนิ้วของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แล้ว

ก็ต้องขนพอง สยองเกล้า

จึงไม่แปลกที่ ด้านหนึ่ง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ จะยอมรับในความอ่อนด้อยในกระบวนการ “พีอาร์” ของรัฐบาล

ขณะที่ด้านหนึ่ง นายสุชาติ ชมกลิ่น ก็ชู “ผลงาน” เลิศลอย

ทั้งหมดล้วนยอมรับต่อ “ผลสะเทือน” อันเนื่องแต่กระบวนการ “ทำงาน ทำงาน ทำงาน” ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ โดยแท้

ปมเงื่อนอยู่ที่อะไรคือ “ความคิด”ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

ต้องยอมรับว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีลักษณะ 2 ด้านดำรงอยู่ นั่นก็คือ มีทั้งด้านที่นำเสนอสิ่งใหม่ และในด้านที่เสนอด้วยกระบวนการแบบเก่า

สิ่งใหม่เห็นได้จากการยืนหยัดใน “หลักการ” ใหม่ของตน

ไม่ว่าจะในเรื่องของ “ความโปร่งใส” ไม่ว่าจะในเรื่อง “ประโยชน์” ของประชาชน ไม่ว่าจะในเรื่องของ “ทำงาน ทำงาน ทำงาน”

ขณะที่ยังรักษา “ปฏิสัมพันธ์” แบบ “เก่า” อยู่

นั่นก็คือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ไม่ปะทะโดยตรง แต่อาศัยความนุ่มนวล ความมีสัมมาคารวะมาเป็นเครื่องมือ

เข้าหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยความนอบน้อม

เข้าหาและเจรจากับ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อย่างให้เกียรติ ประชุมร่วมกับ การไฟฟ้า กสทช. ตำรวจ อย่างให้เกียรติกันและกัน

ประนีประนอม แต่ไม่สยบยอม

ไม่ว่าจะในเรื่องรถไฟฟ้า “สายสีเขียว” ไม่ว่าจะในเรื่อง “โรงงานขยะ” ไม่ว่าจะในเรื่อง “เพื่อนร่วมงาน”
ระดับล่าง

แนวทางคือ 1 ต่อสู้ 1 ร่วมมือ

ถามว่าทำไม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จึงให้ความสนใจต่อพนักงาน “ระดับล่าง” อย่างเป็นพิเศษ

ถามว่าทำไมจึง “เดือดร้อน” กับ “ทุกข์” ของประชาชนอย่างเกาะติด

คำตอบก็คือ นี่คือเป้าหมาย นี่คือมวลชนที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จำเป็นต้องเกาะเกี่ยวและอาศัยเป็นกำลังในการต่อสู้

จึงต้องมีโครงการ “กินข้าวกับชัชชาติ”

จึงต้องใช้ 2 ขา หรือ 2 ตีนเป็นกระบวนการสำคัญในการบริหารสร้างฐาน ขยายความเข้าใจผ่านการไลฟ์อย่างขยันขันแข็ง

นี่คือผนังทองแดง กำแพงเหล็กในทางการเมือง

ถามว่ากระบวนการ “ทำงาน ทำงาน ทำงาน” ดำเนินไปอย่างมีวาระแอบแฝง ซ่อนเร้นในทางการเมืองหรือไม่

มี แต่มิใช่อย่างที่หลายคนคิด

นั่นก็คือ มิใช่เพื่อดิสเครดิต หรือ “ด้อยค่า” อีกฝ่าย หากแต่ดำเนินไปเพราะเห็นว่าเป็นพันธมิตรในแนวร่วมที่ต้องพึ่งพา

จำเป็นต้องมี “มวลชน” มาแวดล้อมและช่วยเหลือ

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่