| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
|---|
คอลัมน์หน้า 3 : เส้นทาง การเมือง ของ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เพื่อประยุทธ์ ไปต่อ
การเกิดขึ้นของ 1 พรรครวมแผ่นดิน และ 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ ก่อผลสะเทือนในทางการเมืองอย่างแน่นอน
เหมือนเป้าจะเป็น “เพื่อไทย” และ “ก้าวไกล”
เด่นชัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของ “ยุทธวิธี” ในการสกัดมิให้เกิดลักษณะ “แลนด์สไลด์” ในทางการเมืองจากพรรคเพื่อไทย
และจำกัดกรอบการเติบโตของพรรคก้าวไกล
กระนั้น การเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น 1 พรรครวมแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็น 1 พรรครวมพลังสร้างชาติ มีแรงสะเทือนต่อพันธมิตรในแนวร่วมเดียวกัน
นั่นคือแนวร่วมที่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ “ไปต่อ”
เนื่องจากพื้นฐานการสร้างพรรคการเมืองเหล่านี้แนบแน่นอยู่กับจิตวิญญาณแห่งพรรคตระกูล “รวม”
จึงเดินตามรอยของ “รวมพลังประชาชาติไทย”
ถามว่าเมื่อแรกก่อตั้งและกระบวนการสร้างพรรครวมพลังประชาชาติไทยส่งผลสะเทือนไปยังพรรคการเมืองใด
ตอบได้เลยว่าต่อ “ประชาธิปัตย์”
เนื่องจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ คืออดีตเลขาธิการพรรค และเคยก่อปฏิบัติการใหญ่จากการเคลื่อนไหวผ่าน “กปปส.”
จึงดูดดึงคนของ “กปปส.” เข้ามาจำนวนมาก
ขณะที่พรรครวมแผ่นดินมี พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นหัวหน้าพรรค และรากฐานเดิมคือประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ
ผลสะเทือนจาก 2 พรรคตระกูล “รวม” จึงเด่นชัด
พรรครวมแผ่นดินมีต่อพรรคพลังประชารัฐ พรรคเศรษฐกิจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติมีต่อพรรคประชาธิปัตย์
และอาจรวมถึงพรรครวมพลังประชาชาติไทย
ขอให้ศึกษาการขยับและการรวมตัวของบรรดานักการเมืองซึ่งเคยเป็น “อดีต” พรรคประชาธิปัตย์มาเป็นตัวอย่าง
ถามว่า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ดำเนินไปอย่างไร
บาทก้าวแรกเมื่อออกจากพรรคประชาธิปัตย์ คือ การไปพักเท้าอยู่กับพรรครวมพลังประชาชาติไทย
แล้วจึงแยกมาเป็น “ไทยภักดี”
เส้นทางของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เมื่อออกจากพรรคประชาธิปัตย์ก็มาเป็นที่ปรึกษา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จากนั้นเป็นที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
จากนั้นก็ลาออกจากที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลาออกจากสมาชิกภาพพรรคพลังประชารัฐ
แล้วจึงมาขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติ
จึงอนุมานผลสะเทือนจากพรรครวมแผ่นดิน พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ล่วงหน้าเลย
เป็นผลสะเทือนต่อ 1 พรรคพลังประชารัฐ 1 พรรคเศรษฐกิจไทย และ 1 ต่อพรรคประชาธิปัตย์ และ 1 พรรครวมพลังประชาชาติไทย
ทุกอย่างเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ “ไปต่อ”
