การแย่งอำนาจทางชนชั้น โดย กลิ่นบงกช

ณ วันที่ 22 พ.ค.2557 มีภาพปรากฏการแย่งอำนาจทางชนชั้นที่ชาวโลกได้เห็นอีกวาระหนึ่ง เพราะประเทศนี้ มีการแย่งอำนาจทางชนชั้นกันมาตลอด ทหารเป็นผู้ทำการแย่ง รักษาอำนาจไว้แก่ตัวเองตลอดเวลา นานๆ จึงจะปล่อยให้มีการเลือกตั้งเสียครั้งหนึ่ง เพื่อไม่ให้คนนินทา

สำหรับในเมืองไทย อำนาจการปกครองบ้านเมือง ไม่เคยมาถึงมือประชาชนจริงจังนัก ยึดอำนาจบ้าง ให้เลือกตั้งบ้าง เป็นเช่นนี้มานาน แถมเมื่อได้อำนาจแล้ว ก็ทำการโจมตีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ทำนองว่า ชั่วช้า เช่น ในการยึดอำนาจครั้งล่าสุดของกลุ่มทหาร มีพฤติกรรมที่ทำให้มองเห็นชัดว่า สร้างความเสียหายให้กับรัฐบาลที่มาจากประชาชน ทำนองให้ชาวบ้านคิดว่ารัฐบาลที่มาจากประชาชน ไม่มีความสามารถที่จะบริหารประเทศได้ จะต้องเป็นรัฐบาลที่มาจากทหารเท่านั้น จึงจะบริหารประเทศได้

ถามว่า ทำไมเขาจึงทำอย่างนั้น ตอบว่า เพราะพวกเขามองเห็นว่า ทุกวันนี้ทั่วโลก ทหารเขาหมดอำนาจทางการเมืองหมดแล้ว ในบางประเทศที่ทหารยังมีอำนาจอยู่ นั่นก็มีอำนาจชนิดที่ประชาชนไม่ได้เชิญมา และประเทศเช่นนั้น ทั่วโลกมองว่า เป็นประเทศอนารยชน เมื่อทหารในเมืองไทยกลัวกลุ่มตนจะไร้อำนาจ จึงพยายามยึดอำนาจและก็วางแผนที่จะยึดอำนาจไว้สำหรับตนถึง 20 ปี

การยึดอำนาจของทหารครั้งล่าสุด ก่อนการยึด ได้สร้างกระบวนการไม่ชอบธรรม! ขณะดูแลบ้านเมืองอยู่ ก็ใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรมนานาประการ! ก่อนการยึดอำนาจ ได้สร้างกระบวนการไม่ชอบธรรมอย่างไร? ตอบว่าเมื่อตนมองเห็นว่า ทั่วโลก กลุ่มของตนหมดอำนาจทางการเมืองไปแล้ว อีกทั้งมองเห็นว่า รัฐบาลที่ประชาชนเลือกตั้งมา คนนิยมมาก ขืนปล่อยไปแบบนี้ กลุ่มตนไร้อำนาจแน่นอน

Advertisement

ดังนั้น ชนชั้นกลุ่มนี้ จึงก่อม็อบ ขัดขวางการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่เรียกว่า เป่านกหวีดบ้าง ชัตดาวน์บ้าง เพื่อให้คนมองเห็นว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่มีประสิทธิภาพ นี่คือกระบวนการไม่ชอบธรรม ในการแย่งอำนาจจากประชาชน เมื่อยึดอำนาจแล้ว ได้ใช้อำนาจอันไม่ชอบธรรมอย่างไร? ตอบว่า หลักธรรมที่พระพุทธเจ้าประทานไว้ให้ผู้ปกครองบ้านเมืองชื่อ จักรวัตติวัตรในข้อที่ หนึ่ง ตรัสว่า ผู้ปกครองบ้านเมืองต้องใช้ธรรมเป็นอำนาจในการปกครองบ้านเมือง

คืออย่างไร? คือ ผู้ปกครองบ้านเมือง ต้องละทิ้งความลำเอียง ยึดความถูกต้อง ยึดกฎหมาย ยึดศีลธรรม เป็นหลักในการบริหารบ้านเมือง แต่นี่เป็นอย่างไร? สร้างกฎหมาย เพื่อให้ได้เปรียบชนชั้นอื่นๆ แม้รัฐธรรมนูญที่ผู้มีอำนาจปัจจุบันประกาศใช้ขณะนี้ ก็พยายามขัดขวางรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน หรือใครจะเถียงว่าไม่จริง!

นี่คือการแย่งอำนาจของคนถืออาวุธ เป็นฐานอำนาจ ใช่หรือไม่?

Advertisement

เมื่อได้อำนาจแล้ว สร้างอธรรมขึ้นมาในบ้านเมืองอย่างไร? เมื่อได้อำนาจแล้ว ห้ามประชาชนเคลื่อนไหวและพูดเรื่องการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป การห้ามไม่ให้ประชาชนพูดไม่ว่าเรื่องอะไรทั้งสิ้น

นั่นคือรัฐสร้างอธรรมขึ้นในบ้านเมือง อย่างแน่นอน เป็นการทำผิดหลักธรรมของผู้ปกครองบ้านเมืองข้อที่ 3 แห่งหมวดธรรมชื่อ จักรวัตติวัตร

นอกจากนั้น ยังผิดหลักธรรมที่ชื่อ ราชสงเคราะห์ ในข้อที่ว่า ผู้ปกครองบ้านเมืองต้องใช้วาจา ที่เป็นเหมือนบ่วงคล้องใจคน คือพูดออกไปแล้วมีแต่คนรัก แต่นี่พอถูกนินทา ก็พูดคำหยาบ ชนิดที่ผู้นำคนอื่นไม่เคยพูดเลย

อย่างไรก็ตาม ตลอดเวลาที่มีอำนาจอยู่ รัฐบาลนี้ก็ทำประโยชน์เยอะ! แต่นักการเมือง มีแต่ความริษยากัน ไม่เคยพูดชมการทำความดีของรัฐบาลที่ผ่านมาเลย ก็เหมือนรัฐบาลปัจจุบันนี้ ไม่เคยพูดถึงความดีของรัฐบาลเก่า เอาแต่บิดเบือน การกระทำของรัฐบาลปัจจุบัน ที่น่าประทับใจคือ บัตรกดสินค้าของคนยากจน ทุกวันนี้คนยากจนเขามีความสุข เพราะในครัวของเขา มีข้าวสาร กะปิ น้ำปลา ในวงเงินที่รัฐบาลให้ เขาไม่อดตายแล้ว นี่คือผลงานที่จับต้องได้ ใครมาเป็นรัฐบาลควรทำต่อไป

การออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ไม่แน่ใจว่า เป็นชนชั้นไหนในสังคม แต่แน่นอนที่สุดก็คือ ไม่ใช่กลุ่มที่มีอาวุธเป็นฐานอำนาจแน่นอน อาจเป็นไปได้ว่า เป็นกลุ่มชนชั้นรากหญ้า หรืออาจจะมีกลุ่มชนพ่อค้าหรือนายทุนสนับสนุนก็ได้ การแสดงออกดังกล่าวเป็นเครื่องชี้ว่า คุณจะยึดอำนาจรัฐไว้เพียงกลุ่มเดียวไม่ได้แน่ ต้องให้ประชาชนเป็นผู้เลือก

อีกกลุ่มหนึ่งที่ออกตัวแรง คือพรรคอนาคตใหม่ พูดเสียงดังเหมือนกับขัดใจมานานว่า จะฉีกรัฐธรรมนูญ เหมือนที่คนมีอาวุธฉีกมาแล้ว หลายพรรคร่วมมือด้วย นี่น่าจะเป็นกลุ่มพ่อค้านายทุน ที่มีเงินเป็นฐานอำนาจ จึงน่าสงสัยว่า คุณวางอนาคตใหม่ของพรรคเพื่อใคร เพื่อกลุ่มพ่อค้า หรือกลุ่มรากหญ้า ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ก่อนที่ชนชั้นรากหญ้าจะเลือกพรรคนี้ หรือจะสมัครเข้าพรรคนี้ ควรถามผู้บริหารพรรคก่อนว่า ถ้าสมาชิกพรรคที่เป็นชนชั้นรากหญ้า มีความสามารถ เป็นนายกรัฐมนตรีได้ คุณจะถามเขาก่อนไหมว่า คุณมีเงินมาช่วยหาเสียงหรือไม่ ถ้าเขาตอบว่าไม่ถาม ก็ควรสมัครเข้าพรรคนี้

ที่เป็นอย่างนี้ เพราะอดีตเคยมีมาแล้ว พรรคพ่อค้านายทุน กำลังหาคนเป็นนายกฯ สมาชิกพรรคสนับสนุนคนมีความสามารถ แต่ไม่มีเงิน มีสมาชิกคนหนึ่งเอ่ยปากถามว่า คุณมีเงินหรือไม่! เท่านั้นเองชาวรากหญ้าฝันสลาย

เป็นที่น่ายินดีว่า ขณะนี้มีคนมองการเมืองไทยออกว่า มีพรรคการเมือง 3 กลุ่ม คือ พรรคทหาร พรรคคนรวย ( แถมไปแขวะเขาอีกว่า ทุนสามานย์ คุณมั่นใจหรือว่า พรรคอื่นไม่มีทุนสามานย์ แล้วการที่มีโอกาสนำเงินงบประมาณแผ่นดินไปหาเสียง มันเป็นทุนสามานย์ไม่ได้หรือ) และพรรคที่ 3 คือพรรคคนอยากเลือกตั้ง พรรคทหารนั่นแหละ คือตัวแทนของกลุ่มชนชั้นทหาร ที่มีอาวุธเป็นฐานอำนาจ พรรคคนมีเงินนั่นแหละ คือพรรคของชนชั้นพ่อค้า ที่มีเงินเป็นฐานอำนาจ

ส่วนพรรคของชนชั้นรากหญ้า ซึ่งมีมวลชนเป็นฐานอำนาจ ยังมองไม่เห็นชัดว่ามีหรือไม่ ภาพทางการเมืองที่ปรากฏขณะนี้ มันเป็นเหมือนคำทำนายของสังคมอินเดีย ที่ทำนายไว้ว่า คนทั้ง 4 วรรณะ จะแย่งอำนาจกันตลอดเวลา ชนชั้นข้าราชการพลเรือนและทหารไม่มีอำนาจทางการเมืองแล้ว วรรณะไวศยะหรือวรรณะพ่อค้า ก็เพิ่งหมดอำนาจไปไม่นานมานี้พรรคคองเกรสของเนห์รูหรืออินทิรา นั่นคือพรรคของคนมีเงิน ปัจจุบันนี้ ชนชั้นวรรณะศูทรและจัณฑาล ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศและถูกเหยียดหยามว่าเป็นวรรณะต่ำ ได้อำนาจทางการเมืองแล้ว

ข่าวแจ้งว่า นายกรัฐมนตรีของอินเดีย ชื่อนายทะเรนทรา โมดี เป็นจัณฑาล ซึ่งนับถือศาสนาพุทธ คำทำนายเช่นนี้ คนอินเดียไม่เคยเชื่อว่า คนจัณฑาลหรือคนในวรรณะศูทร จะมาปกครองประเทศได้ และขณะนี้ก็เป็นไปแล้ว และที่เป็นไปได้ก็เพราะคนวรรณะศูทรและจัณฑาล เขาเปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธ เพราะศาสนาพุทธไม่มีการเหยียดหยามกันในเรื่องวรรณะ เมื่อเขารวมตัวกันได้ เพราะเป็นชาวพุทธเหมือนกัน จึงได้ผลทางการเมืองตามมา คำทำนายเช่นนี้ มิใช่เจาะจงเฉพาะอินเดีย แต่เป็นคำทำนายทั่วโลก ทางยุโรปอเมริกาได้เกิดขึ้นมาก่อน ถึงยุโรปและอเมริกา มีการเปลี่ยนแปลงได้ก่อนก็จริง แต่อำนาจทางการเมืองก็ยังอยู่กับวรรณะพ่อค้า

เพราะฉะนั้น การเลือกตั้งของชาวยุโรป จึงถูกผลักดันด้วยอำนาจเงิน

สําหรับเมืองไทยการปกครองบ้านเมืองยังถูกผลักดันด้วยอาวุธ ขณะนี้จึงเห็นภาพการยื้อแย่งอำนาจกันอย่างเข้มข้น การที่คนในพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวว่า ไม่อยากเห็นพรรคการเมืองทั้ง 2 รูปแบบอีกแล้ว ก็คือไม่อยากเห็นพรรคทหารที่ถูกบงการมา และไม่อยากเห็นพรรคคนรวยที่มีคนรวยสั่งการลงมา พูดแบบนี้เหมือนบอกใบ้ว่า พรรคของเขาเป็นพรรคของชนชั้นรากหญ้า ที่รวมตัวกันได้แล้ว กำลังจะขออำนาจจากประชาชนเพื่อดูแลประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่ขณะเดียวกันชาวบ้านเขามองว่าพรรคนี้สนับสนุนพรรคทหาร ท่านจะแก้ตัวอย่างไร!

แถมขณะนี้ คสช.กำลังวางแผนใช้งบประมาณถึง 4 แสนล้าน เพื่อชนชั้นรากหญ้า จังหวะก้าวตรงนี้คนเขามองออก การพูดเพื่อความชอบธรรมของตนว่า ถ้าไม่กระจายงบประมาณคนจนอ่วมแน่ เขาก็อ่วมมานานแล้วนี่ ทำไมจึงมาให้ตอนจะเลือกตั้ง แต่เอาเถอะ! พระพุทธเจ้าประทานหลักธรรมไว้ในข้อที่ 5 แห่งจักรวัตติวัตรว่า จงสงเคราะห์คนจนด้วยทรัพย์ เราจึงไม่ว่ากันล่ะ! ชนทุกชั้นทุกสังคมต้องพยายามรักษาอำนาจของชนชั้นของตนไว้เสมอ

การปกครองบ้านเมือง พระบรมครูมิได้จำกัดชนชั้นใดชนชั้นหนึ่งว่ามีสิทธิในการปกครองบ้านเมือง เพียงแต่วางหลักธรรมว่าเมื่อได้อำนาจแล้วต้องใช้ธรรมคือความถูกต้องในการดูแลบ้านเมือง เพื่อให้เห็นว่าพระพุทธพจน์ดังกล่าวมีอยู่จริง จึงขอยกพระดำรัสที่ตรัสไว้ในพระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับหลวง เล่ม 11 หน้า 147 มาสรุปบทความ ว่า พระราชาองค์เก่า จะสละราชสมบัติ ออกผนวชเป็นฤๅษี จึงสั่งสอนพระราชโอรส ในการปกครองบ้านเมืองว่า “ลูกเอ๋ย ! เมื่อเจ้าจะปกครองบ้านเมือง เจ้าจงอาศัยธรรม! เคารพธรรม! นับถือธรรม! บูชาธรรม! ยำเกรงธรรม! มีธรรมเป็นธงชัย! มีธรรมเป็นยอด! มีธรรมเป็นใหญ่! ในการปกครอง
บ้านเมือง”

ตรัสย้ำคำว่า ธรรมคือความถูกต้อง ถึง 8 คำ

สำหรับผู้ที่ไม่มีพระไตรปิฎกอ่าน ขอให้ไปซื้อ ตำรารหัส phi 4203 ซึ่งมีจำหน่ายที่ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยรามคำแหง ในตำราเล่มนั้น ถ่ายทอดหลักการปกครองของพระพุทธเจ้าไว้ทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ มิใช่โฆษณาหนังสือ แต่เป็นการโฆษณาหลักธรรมในการปกครองแผ่นดินของพระพุทธเจ้า โดยแท้แล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image