| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน |
| เผยแพร่ |
ขบวนการหรือกลุ่มองค์กรทางการเมืองนั้น มักจะมีเรื่องราวของคนในขบวนการที่เปลี่ยนจุดยืน เปลี่ยนแนวคิด สลับขั้วสลับข้างเกิดขึ้นเสมอๆ อันเป็นไปตามหลักธรรมชาติของมนุษย์ ดังที่เรามักได้ยินได้ฟังกันบ่อยๆ ที่ว่า เวลาเปลี่ยน…คนเปลี่ยน
จึงเป็นเรื่องปกติ ที่ในแต่ละขบวนการ จะมีทั้งคนที่มั่นคงไม่แปรเปลี่ยน กับคนที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ตามเหตุผล ตามความจำเป็น ตามสภาพแวดล้อมของแต่ละคน
ขบวนการฝ่ายซ้าย มายุคปัจจุบัน จากซ้ายกลายเป็นขวา กระทั่งเป็นขวาจัด ยิ่งกว่าฝ่ายขวาสมัยต่อสู้กันเสียอีก ก็มีให้เห็นเป็นเรื่องปกติ
โดยมีทั้งเปลี่ยนแปลงจุดยืน เพราะมีจุดหักเหทางความคิดความเชื่อ ไปจนถึงเปลี่ยนไปด้วยสภาพแวดล้อมแห่งผลประโยชน์
นี่จึงทำให้เกิดมุมมองต่อปัญหาเหล่านี้ว่า ต้องยึดถือใน “ระบบ” มากกว่ายึดถือ “ตัวบุคคล”
ดังนั้นข่าวเรื่อง นปช.ในภาคอีสาน ถูกพรรคพลังดูด ดำเนินการดูดอย่างหนัก จนได้แกนนำไปอยู่ด้วยแล้วหลายรายนั้น เป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้อย่างมาก
อาจจะด้วยมีมุมมองต่อการเมืองแบบใหม่ หรืออาจจะด้วย “ปัจจัย” ที่พรรคพลังดูดเอามาใช้เป็นทีเด็ด ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่าย ไปจนถึงด้านคดี
อีกทั้งที่ต้องเน้นดูดเสื้อแดงอีสาน ก็เป็นที่รู้กันว่าเพราะเป็นฐานมวลชนใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ถ้าดูดจนอ่อนยวบได้ ก็จะทำให้พรรคเพื่อไทยลดจำนวน ส.ส.ในสภาสมัยหน้าลงไปได้มาก
พอจะคาดคะเนได้ว่า คงมีแกนนำเสื้อแดงจำนวนหนึ่งที่ยอมย้ายค่ายย้ายขั้ว
เพียงแต่พอถึงเวลาเปิดคูหากาบัตรจริงๆ ยังไม่มีใครรู้ว่าประชาชนชาวอีสาน จะเลือกตามความคิดจุดยืน หรือจะเลือกตามตัวบุคคล
จะเลือกตามกระแสต่อต้านเผด็จการ หรือจะเลือกตามอดีต ส.ส.ที่เคยเลือกเอาไว้
อีกประเด็นที่เชื่อว่า เป็นสิ่งโน้มน้าวเหล่าอดีต ส.ส.ให้ยอมโดนดูด ก็คือ กรณีนายกฯหลังการเลือกตั้งนั้น มีหวยล็อกเอาไว้เรียบร้อยแล้ว มีพรรควุฒิสภา 250 เสียง ที่โหวตนายกฯคนนั้นแน่ๆ
ด้วยกฎกติกาที่วางเอาไว้ ทำให้แกนนำรัฐบาล คสช.ต้องเป็นรัฐบาลต่อไปอีกในสมัยหน้า แถมยาวนานหลายสมัยด้วย
ที่สำคัญคือ ยากที่พรรคเพื่อไทยจะกลับมาเป็นรัฐบาลได้อีกง่ายๆ
ประเด็นนี้ ย่อมมีส่วนโน้มน้าวจิตใจ แกนนำเสื้อแดงและอดีต ส.ส.เพื่อไทยในอีสานที่เป็นเป้าหมาย อย่างได้ผลไม่น้อย
ยกเว้นแต่คนที่ยึดในอุดมการณ์นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ไม่ขอเข้าสู่อำนาจในฐานะพรรคการเมืองฝ่ายทหาร คสช. ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการก่อรัฐประหารล้มรัฐบาลเลือกตั้ง
ถ้าเชื่อในหลักนี้ก็คงไม่เปลี่ยนพรรค หรือพลิกจุดยืนความคิดไปไหน
แถมยังมีเรื่องราว 99 ศพ ที่ยังไม่มีความเป็นธรรม ซึ่งมองข้ามไม่ได้ ญาติมิตรของคนที่ตาย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอีสานและภาคเหนือ คงไม่มีใครลืมเรื่องนี้ได้ง่ายๆ
แล้วอย่าลืมว่า กรณีรัฐบาล คสช.อยู่ในอำนาจยาวนานเกินไป ก็เริ่มเข้าสู่กฎธรรมชาติที่ว่า มีขึ้นย่อมต้องมีลง
ตอนนี้เห็นกันทั่วว่าเป็นช่วงขาลงแน่ๆ แค่ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้าน ย่อมมีผลต่อคะแนนนิยมชัดเจนเป็นวิทยาศาสตร์
แค่มีคลิปพลทหารเลี้ยงไก่แค่คลิปเดียว ก็ปั่นป่วนกันไปทั้งกองทัพ อันบอกได้เลยว่า นี่แหละสภาพช่วงขาลง
ที่คิดว่าจะอยู่ในอำนาจต่อไปยาวนานหลังเลือกตั้ง มันจะแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งจริงหรือ
โอกาสที่จะต้องกลับบ้านไปเลี้ยงไก่เร็วกว่ากำหนดก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
