รุกรับการเมือง กรณี 4 รัฐมนตรี ควบพลังประชารัฐ

หากเคารพในความรู้ ความสามารถ ของคนระดับ นายอุตตม สาวนายน ประสานกับระดับ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล

การตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งใน “พลังประชารัฐ”

ไม่ว่าจะมองผ่านคนที่อยู่ “เบื้องหลัง” ไม่ว่าจะมองผ่านคนที่อยู่ “เบื้องหน้า” ไม่ว่าจะมองในฐานะเป็น “นักการทหาร” ไม่ว่าจะมองในฐานะ “นักการตลาด”

นี่ย่อมเป็นปฏิบัติการ “รุก” อย่างเด่นชัด

Advertisement

เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมไปเป็นหัวหน้าพรรค เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปเป็นรองหัวหน้าพรรค เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไปเป็นเลขาธิการพรรค เมื่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไปเป็นโฆษกพรรค

นับว่าโอ่อ่า อลังการ อย่างสูงสุด

ไม่ว่าจะเทียบกับพรรคอนาคตใหม่ ไม่ว่าจะเทียบกับพรรคประชาชาติ ไม่ว่าจะเทียบกับพรรคเพื่อธรรม

กระนั้น หากถือว่าปฏิบัติการเมื่อวันที่ 29 กันยายน เป็นการรุกอย่างใหญ่หลวงในทางการทหาร ในทางการเมืองและในทางการตลาด

เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาก็เกิด “คำถาม”

เป็นคำถามต่อตำแหน่งหัวหน้าพรรคกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นคำถามต่อตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นตำแหน่งเลขาธิการพรรคกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นตำแหน่งโฆษกพรรคกับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

มิได้อยู่ที่ว่าจะจัดแบ่งสันปันส่วนอย่างไร

ตำแหน่งรัฐมนตรีจะเริ่มจาก 08.00-16.00 น. นอกเหนือจากนั้นเป็นตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐอย่างนั้นหรือ

อย่างไหนเป็นด้านหลัก อย่างไหนเป็นด้านรอง

ระหว่างตำแหน่งในพรรคกับตำแหน่งรัฐมนตรีใน ครม. ไม่ถือว่าทับซ้อนหรอกหรือ

แม้จะได้รับการการันตีอย่างเข้มแข็ง ไม่ว่าจะมาจาก นายวิษณุ เครืองาม ไม่ว่าจะมาจาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ว่าสามารถทำได้

เหตุผล เพราะไม่มีกฎหมายห้าม

แต่ความเห็น “แย้ง” ไม่ว่าจะมาจากอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะมาจากพรรคเพื่อไทย

เป็นความเห็นในเรื่อง “ธรรมาภิบาล”

เป็นความเห็นในเรื่องกฎกติกา มารยาทเป็นความเห็นในเรื่องของจริยธรรม เป็นความเห็นในเรื่องของมโนธรรมสำนึก

ยิ่งทำให้เกิดความละเอียดอ่อนเป็นอย่างสูง

ในเมื่อไม่ว่าจะมองจากทางด้านของ คสช. ที่มาพร้อมกับรัฐประหาร ในเมื่อไม่ว่าจะมองจากทางด้านของรัฐมนตรี และไม่ว่าด้านใด

คำถามก็คือ จะทำแบบนี้หรือ

การตกอยู่ในลักษณะ “ตั้งรับ” ของ 4 รัฐมนตรีแห่งพรรคพลังประชารัฐ จึงเป็นการตั้งรับในเรื่องของคุณธรรม และหากปล่อยยาวไปเรื่อยๆ จะก่อผลสะเทือน

เป็นผลสะเทือนถึง 1 คสช. 1 ครม.

ในที่สุดก็จะต้องไปกองรวมอยู่ ณ เบื้องหน้า ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างยากจะปฏิเสธได้

ที่คิดว่า “รุก” ก็กลายเป็น “รับ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image