บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนากับภูมิรัฐศาสตร์ของยุโรป โดย : โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

บอสเนียฯมีพื้นที่ติดทะเลเพียง 20 ตร.กม.

ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาตั้งอยู่บนคาบสมุทรบอลข่านตะวันตก มีพื้นที่ 51,129 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาโดยมีเนื้อที่แคบๆ ประมาณ 20 ตารางกิโลเมตรติดกับทะเลเอเดรียติก เมืองหลวงชื่อซาราเยโว มีประชากร 3.9 ล้านคน ประกอบด้วย 3 เชื้อชาติหลัก ได้แก่บอสเนีย (48.3%) ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม (40%) เซิร์บ (34%) ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ (31%) โครแอต (15.4%) ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก (15%) และอื่นๆ (2.3%) คือประชากรที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ (4%) เดิมเป็นสาธารณรัฐหนึ่งในหกแห่งของประเทศยูโกสลาเวีย

ในประวัติศาสตร์ของมหาสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ระเบิดขึ้นที่กรุงซาราเยโวนี้เอง อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย-ฮังการี รัชทายาทแห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ถูกลอบปลงพระชนม์โดยนักชาตินิยมหัวรุนแรงชาวเซอร์เบีย ที่เมืองซาราเยโวในแคว้นบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา (ขณะนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี) หลังพระองค์และพระชายาสิ้นพระชนม์ก็ทำให้จักรวรดิออสเตรีย-ฮังการี ประกาศสงครามกับราชอาณาจักรเซอร์เบียทันที ถือเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 1

บอสเนียฯแบ่งออกเป็น 2 รัฐ และ 1 เขตปกครอง

ต่อมาใน พ.ศ.2535 ภายหลังจากที่สาธารณรัฐสโลวีเนีย และโครเอเชีย ได้ประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากประเทศยูโกสลาเวีย ทำให้ชาวมุสลิมและชาวโครแอตในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา จึงได้จัดให้มีการลงประชามติเพื่อแยกตัวเป็นเอกราชเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2535 และได้ประกาศเอกราชจากยูโกสลาเวีย เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.2535 ทำให้ชาวเซิร์บซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยไม่พอใจ จึงประกาศตนเป็นพันธมิตรร่วมกับชาวเซิร์บในโครเอเชีย ประกาศตนเป็นอิสระ

ในขณะที่ชาวโครแอตก็ได้ประกาศยึดครองดินแดนส่วนหนึ่งในบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ทำให้เกิดการสู้รบระหว่างกันจนกลายเป็นสงครามกลางเมืองและสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ยืดเยื้อและรุนแรง

Advertisement

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2538 หลังจากรบกันเป็นเวลา 4 ปี ผู้นำของโครเอเชีย เซอร์เบีย กับบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ได้ไปร่วมประชุมที่เมืองเดย์ตัน มลรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้ร่วมลงนามย่อข้อตกลงสันติภาพเมืองเดย์ตัน ซึ่งต่อมาได้ลงนามถาวรที่กรุงปารีส เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2538 ข้อตกลงสันติภาพเมืองเดย์ตันต่อมาใช้เป็นรัฐธรรมนูญของบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา เป็นการรับรองอธิปไตยของบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา โดยแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 2 รัฐ และ 1 เขตปกครองพิเศษ คือ สหพันธ์บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา มีพื้นที่ร้อยละ 51 และสาธารณรัฐเซิร์บ มีพื้นที่ร้อยละ 49 โดยแต่ละรัฐมีรัฐสภาของตนเอง สำหรับรัฐบาลกลางบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา มีคณะประธานาธิบดี 3 คน ต้องมีประธานาธิบดี 1 คน เป็นตัวแทนของชนชาติบอสเนีย ชนชาติโครแอตและชนชาติเซิร์บ โดยผลัดกันดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีกันคนละ 8 เดือน

บอสเนียฯไม่ได้เป็นสมาชิกนาโตเพราะ 3 ประธานาธิบดี

ครับ ! ประเทศที่มีประธานาธิบดีครั้งละ 3 คน และผลัดกันเป็นประธานาธิบดีคนละ 8 เดือน แบบว่าเลือกตั้งกัน 4 ปีครั้ง ในช่วงเวลา 4 ปีต้องเปลี่ยนประธานาธิบดี ถึง 6 ครั้งยังกับเล่นเก้าอี้ดนตรี ดังนั้น การดำเนินนโยบายสาธารณะของประเทศคงวุ่นวายน่าดู

ความจริงในช่วงสงครามกลางเมืองที่โหดร้ายทารุณของบอสเนียฯนั้นสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศสมาชิกองค์การนาโตได้เข้าช่วยระงับสงครามกลางเมืองและช่วยจัดการประชุมที่เมืองเดย์ตัน มลรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อยุติสงครามกลางเมืองและทำสัญญาสันติภาพเพื่อสร้างประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาขึ้นอีกครั้งหนึ่งและกลุ่มประเทศองค์การนาโตก็ปรารถนาที่จะดึงประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนานี้เข้าเป็นสมาชิกถาวรขององค์การนาโตแต่ด้วยระบบประธานาธิบดี 3 คน และผลัดกันเป็นประธานาธิบดีคนละ 8 เดือน ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนในโลกนี้เองที่ยังคาราคาซังกันอยู่ร่วม 20 ปีแล้วและยังไม่มีทีท่าที่จะลงเอยกันได้เลย

แม้ว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาแล้วก็ตาม สถานการณ์ของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงคือคาราคาซังในทุกเรื่องเหมือนเดิม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image