สถานีคิด : เฟซบุ๊กนายกฯ โดย : วรศักดิ์ ประยูรศุข

นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกเสียงฮือฮา ด้วยการเปิดเฟซบุ๊ก เพื่อติดต่อสื่อสารกับประชาชน

ปรับโฉมเป็น “ตู่ดิจิทัล” เพื่อให้เข้ากับยุคที่มุ่งหน้าสู่ 4.0

ข่าวบอกว่า มีประชาชนเข้าไปกดไลค์ ติดตาม และแสดงความเห็นหรือ “เมนต์” ในเฟซบุ๊กของนายกฯกันมาก

ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะระดับนายกฯ ลงทุนมาเปิดเฟซ โพสต์รูป เขียนข้อความ สนทนากับสังคม ถ้าไม่มีคนสนใจ ปล่อยให้เฟซร้างวังเวง ก็จะเป็นข่าวใหญ่ ชวนให้ปวดหัวไปอีกแบบ

Advertisement

ส่วนที่เข้าไปเขียนข้อความดุเดือดสารพัด นั่นเป็นวิถีอย่างหนึ่งของสังคมออนไลน์ ที่มักจะเขียนหรือใส่กันดุเดือด แบบไม่ต้องเกรงใจ

อาจจะใช้บัญชีหรือแอคเคาต์ที่เรียกกันว่า “อวตาร” เป็นอีกตัวตน สำหรับการเสนอความคิดความเห็นที่ต้องปกปิดชื่อจริงนามสกุลจริง

เมื่อนายกฯตัดสินใจไสช้างเข้าสมรภูมิดิจิทัล ยอมเป็นเป้าของเซียนคีย์บอร์ดทั้งหลายแล้ว ก็ควรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

Advertisement

ความคิดความเห็นที่ทะลักทลายเข้ามาสู่นายกฯโดยตรง ถ้านำไปใช้ดีๆ อาจสร้างความแตกต่างได้

ที่ผ่านมา นายกฯก็ดูอยากสัมผัส ต้องการใกล้ชิดประชาชน จึงเกิดการประชุมสัญจรในจังหวัดต่างๆ ขึ้นมา

การเดินทางไปจังหวัดต่างๆ พบปะประชาชน โดยหลักการเป็นเรื่องดีมาก โดยเฉพาะในยุคที่ไม่มีสภา ไม่มี ส.ส. ทำให้ประชาชนเคว้งคว้าง ขาดที่พึ่ง ที่ระบายหรือคนที่เป็นปากเป็นเสียง

เป็นโอกาสที่จะได้รับฟังความทุกข์ ฟังเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจของประชาชน

แต่การประชุมสัญจรของนักการเมือง กับรัฐบาลจากระบบข้าราชการ ต้องยอมรับว่า ต่างกันมาก

ถ้าราชการจัด ก็ชัดเจนว่า เน้นสกรีน เน้นกลั่นกรอง จำกัดโอกาสของประชาชนที่จะเข้าไปบอกกล่าวร้องเรียน และชอบที่จะให้เป็นไปตาม “ขั้นตอน” อย่างให้ไปร้องศูนย์ดำรงธรรม

ที่เดือดร้อนเป็นกลุ่ม จะถือป้ายมาร้องเรียน อาจขัดคำสั่ง คสช. เป็นคดีได้อีก

คนมีหน้าที่บริหารบ้านเมือง จะหลบเลี่ยงเสียงของทุกข์สุขของประชาชนไม่ได้เป็นอันขาด

การใช้โซเชียลมีเดีย จึงช่วยกระชับช่องว่างเหล่านี้เข้ามา

ยิ่งถ้ามีการชี้แจง โต้ตอบ แสดงถึงความเอาใจใส่ห่วงใยประชาชน ก็จะยิ่งดี ตอบเองไม่ได้ ใช้ทีมงานก็ยังดี

อย่างไรก็ตาม โซเชียลมีเดียก็มิได้ครอบคลุมกลุ่มประชาชนทั้งหมด เพราะยังมีคนอีกมาก ที่ไม่ได้ใช้ช่องทางเหล่านี้

เป็นการบ้านที่นายกฯและคณะต้องไปขบคิดว่า จะให้ประชาชนเข้าถึงได้มากกว่านี้ได้อย่างไร

และต้องให้โอกาสประชาชนได้เข้าถึงนักการเมืองคนอื่นๆ ไปพร้อมๆ กันด้วย

ก็หวังว่า นายกฯคงจะรับฟังเสียงประชาชนไปตลอดรอดฝั่ง

โดยไม่มีการปิดหนี แบบที่ฝ่ายค้านดักคอไว้

วรศักดิ์ ประยูรศุข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image