ผู้เขียน | โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ |
---|
รัฐสภาสหรัฐแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Congress) เป็นสภานิติบัญญัติสูงสุดของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นระบบสภาคู่อันประกอบด้วย วุฒิสภา (Senate) และสภาผู้แทนราษฎร (House of Representatives) สมาชิกของทั้งสองสภาได้รับเลือกจากประชาชนโดยตรง
รัฐธรรมนูญสหรัฐให้อำนาจในการออกกฎหมายแก่รัฐสภาทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจเท่ากันในกระบวนการออกกฎหมาย กฎหมายทุกฉบับที่นำมาปฏิบัติได้ต้องได้รับการอนุมัติจากทั้งสองสภา แต่รัฐธรรมนูญให้อำนาจพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์บางอย่างแก่ทั้งสองสภา เช่น วุฒิสภามีอำนาจในการอนุมัติสนธิสัญญา และการแต่งตั้งตำแหน่งของหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลที่เสนอโดยประธานาธิบดี แต่กฎหมายเกี่ยวกับการหารายได้เพิ่มเป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรที่จะเสนอ นอกจากนั้นสภาผู้แทนราษฎรก็ยังมีอำนาจฟ้องขับเจ้าหน้าที่ชั้นสูงออกจากตำแหน่ง (impeachment) ขณะที่วุฒิสภามีอำนาจในการพิจารณาฟ้องดังกล่าว
ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาซึ่งมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐทั้งหมด 435 คน โดยมีเกณฑ์ในการเลือกตั้งจากจำนวนประชากรของแต่ละเขตที่แบ่งตามจำนวนประชากร จำนวนของผู้แทนราษฎรของแต่ละมลรัฐจึงขึ้นอยู่กับจำนวนประชากร มลรัฐแคลิฟอร์เนียที่มีประชากรมากที่สุด มีผู้แทนราษฎรทั้งหมด 53 คน แต่มีถึง 7 มลรัฐที่มีผู้แทนราษฎรเพียงคนเดียวเนื่องจากมีประชากรน้อย
สภาผู้แทนราษฎรสมัยปัจจุบันมีสมาชิกทั้งสิ้น 435 คน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่ละคนมีตำแหน่งสองปี ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาจากการเลือกตั้งของสมาชิกของพรรคการเมืองที่เสียงข้างมากในสภาปัจจุบัน นางแนนซี่ เพโลซี่ ผู้แทนราษฎรจากมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา คนที่ 54 ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2562 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่สตรีสหรัฐสามารถกลับมาเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 2 ได้
ในลำดับการสืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดีกรณีที่ประธานาธิบดีตายหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาจัดเป็นลำดับที่ 2 หลังจากรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว
สำหรับสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่เพิ่งเปิดสมัยประชุมเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2562 มีอายุ 2 ปี มีสมาชิกพรรคเดโมแครต 235 คน เป็นเสียงข้างมาก และมีสมาชิกพรรครีพับลิกัน 199 คนเป็นเสียงข้างน้อย และสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐสมัยปัจจุบันมีสมาชิกผู้เป็นสตรีมากที่สุดในประวัติศาสตร์ คือมีสตรีเป็นผู้แทนราษฎรถึง 102 คน
คิดเป็นร้อยละ 23.4% ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐทั้งหมด นอกจากนี้ยังมี 5 สตรีที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ คือ
1) น.ส.อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เทซ ผู้สมัครสตรีจากครอบครัวของชาวเปอร์โตริโก พรรคเดโมแครต สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้หญิงอายุน้อยที่สุดที่ได้รับเลือกเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ทำลายสถิติที่นางเอลิซ
สเตฟานิก ส.ส.พรรครีพับลิกันเคยทำไว้เมื่อ พ.ศ.2557 ที่ได้รับเลือกตั้งขณะมีอายุ 30 ปี
2) ประชาชนของมลรัฐมินนิโซตาได้เลือกนางอิลฮาน โอมาร์ วัย 36 ปี อดีตผู้ลี้ภัยที่หลบหนีสงครามกลางเมืองในโซมาเลีย ผู้เป็นสตรีชาวมุสลิมสังกัดพรรคเดโมแครต เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ทั้งๆ ที่โอมาร์เพิ่งอพยพมาอยู่สหรัฐอเมริกาเมื่อ พ.ศ.2538 จากค่ายผู้ลี้ภัยในเคนยาเมื่อครอบครัวของเธอต้องหนีภัยสงครามกลางเมืองมาจากประเทศโซมาเลีย แต่ภายใน 23 ปี เธอก็ได้กลายเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายโซมาเลียคนแรกที่ได้นั่งอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ นอกจากนี้โอมาร์ยังจะเป็นสมาชิกรัฐสภาสหรัฐคนแรกที่สวมชุดมุสลิม ฮิญาบ หรือชุดคลุมศีรษะของสตรีมุสลิม ทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอีกด้วย
3) นางราชิดา ตลาอิบ เป็นลูกคนโตในจำนวนพี่น้อง 14 คน เกิดในครอบครัวของผู้อพยพชาวปาเลสไตน์ เกิดในเมืองดีทรอยต์ มลรัฐมิชิแกน เมื่อ พ.ศ.2551 ตลาอิบอายุได้ 32 ปี เธอเป็นสตรีมุสลิมคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติของมลรัฐมิชิแกน เมื่อ พ.ศ.2561 ตลาอิบอายุได้ 42 ปี ก็ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ราชิดา ตลาอิบ แต่งชุดประจำชาติปาเลสไตน์ไปวันเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐครั้งแรกในวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมานี้ด้วย
4) น.ส.แชริซ เดวิดส์ ผู้แทนราษฎรสหรัฐจากมลรัฐแคนซัส พรรคเดโมแครต เธอเป็นชาวอินเดียนแดงเผ่าโฮชั้ง ที่มีต้นกำเนิดมาจากรัฐวิสคอนซิน นอกจากนี้เธอยังประกาศตัวเป็นชาว LGBT อย่างเปิดเผยอีกด้วย
5) นางเด็บ ฮาแลนด์ ผู้แทนราษฎรสหรัฐจากมลรัฐนิวเม็กซิโก พรรคเดโมแครต เธอเป็นชาวอินเดียนแดงเผ่าลากูนา พับโบล มีต้นกำเนิดในรัฐนิวเม็กซิโก
ความจริงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่เป็นมุสลิมและเป็นอินเดียนแดงก็เคยมีมาก่อนแล้ว แต่เนื่องจากครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สตรีมุสลิม และสตรีอินเดียนแดงได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ