บทนำ : ปลดล็อกชุดนร. ประจำวันศุกร์ที่ 11 มกราคม 2562

โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน อนุญาตให้นักเรียนสวมชุดไปรเวตมาเรียนได้ทุกวันอังคาร เริ่มจากวันที่ 8 มกราคม เป็นวันแรก นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเผยว่า บรรยากาศวันแรกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ส่วนผู้ปกครองและศิษย์เก่า เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลายคนเมื่อได้ข้อมูลอย่างรอบด้านก็มีความเข้าใจมากขึ้น การแต่งชุดไปรเวตมาเรียนทุกวันอังคารเป็นงานวิจัยของโรงเรียน ไม่มีการบังคับ เป้าหมาย เพื่ออยากให้โรงเรียนเป็นสถานที่แห่งความสุขของนักเรียน เชื่อว่าแค่หนึ่งวันของนักเรียน จะสร้างความสุขให้เด็ก มีความคิดสร้างสรรค์ และต้องการสะท้อนว่า ความแตกต่างของแต่ละคนสามารถอยู่ด้วยกันได้ หากพบว่าการแต่งชุดไปรเวตมาเรียนแล้วทำให้ผลการเรียนแย่ลง หรือได้รับผลกระทบต่อการเรียนหนังสือก็จะยกเลิกทันที

ผอ.โรงเรียนเผยว่า ผลักดันเรื่องนี้มา 10 ปี จุดเริ่มต้นเกิดจากตัวเองไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกาเห็นงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการแต่งกายและความสุขในการเรียน กลับมาจึงเสนอเรื่องนี้ ได้มีการพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ผ่านกระบวนการกลั่นกรองจนตกผลึก และเริ่มโครงการวิจัย ทั้งนี้ ปัจจุบันเราสอนเด็กไม่ใช่เฉพาะเรื่องสติปัญญาเท่านั้น แต่ยังต้องสร้างความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ซึ่งจะต้องมีทั้งความรู้และบุคลิกภาพที่ดี มีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ โดยขณะนี้ทางโรงเรียนยังเหลือเวลาทดลองช่วงเทอมนี้อีก ประมาณ 6 สัปดาห์ซึ่งถือว่าไม่มาก แต่หากเราพบว่าเด็กสามารถเรียนได้อย่างมีความสุข จะเริ่มการทดลองในสเต็ปต่อไป

แม้จะมีเสียงคัดค้านจากศิษย์เก่าบางส่วน แต่แวดวงการศึกษาชื่นชมเรื่องนี้ อาทิ นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยชี้ว่า สังคมไทยมีวิธีคิดแบบอนุรักษนิยม เห็นว่านักเรียนมีระเบียบวินัย ต้องใส่เครื่องแบบนักเรียน อยู่ในกรอบและต้องตัดผมสั้น การที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนเปิดโอกาสดังกล่าว ถือว่าเป็นการปลดล็อก นั่นคือมุมมองจากนักวิชาการที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม ภาระสำคัญของโรงเรียน คือต้องทำความเข้าใจในเรื่องวินัยกับผู้ปกครอง และนักเรียน ให้เห็นว่าอิสรภาพ และวินัยเป็นเรื่องที่เกื้อกูลกันและไปด้วยกันได้ ซึ่งตัวชี้วัดมีทั้งผลการเรียน และความคิดสร้างสรรค์ที่จะเกิดในเด็ก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image