ข้อมูลใหม่ที่เพียงพอต่อการอิมพีชเมนต์ประธานาธิบดีทรัมป์ : โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

บทความนี้ต้องอธิบายศัพท์เทคนิคทางด้านกฎหมายมหาชน 2 คำก่อนเข้าเรื่องคือ “อิมพีชเมนต์ (Impeachment)” กับ “การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม (Obstruction of justice)” เพื่อความเข้าใจเสียก่อน ดังนี้คือ

1) อิมพีชเมนต์ คือกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่ง ประกอบด้วย 2 ขั้นตอนหลัก คือ เมื่อทางรัฐสภาของสหรัฐอเมริกา (ประกอบด้วย สภาผู้แทนราฎรซึ่งมีสมาชิก 435 คน และวุฒิสภามีสมาชิก 100 คน) เชื่อว่าประธานาธิบดีนั้นกระทำผิดจริง ซึ่งเป็นความผิดในการเข้าข่ายการกบฏ, ติดสินบน, อาชญากรรมร้ายแรง หรือความผิดทางอาญาอื่นๆ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะเริ่มต้นการฟ้องร้องประธานาธิบดีด้วยการพิจารณาจากหลักฐานแล้วพบว่ามีความผิดจริง ทางสภาผู้แทนราษฎรจะทำการร่างหนังสือถอดถอนเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อทำการโหวตรอบแรก โดยใช้เสียงส่วนมากตัดสิน

หากผลการโหวตสมาชิกสภาลงคะแนนเสียงให้ประธานาธิบดีต้องถูกถอดถอน กระบวนการพิจารณาจะเริ่มต้นขึ้น โดยฝ่ายสภาผู้แทนราษฎรจะทำหน้าที่เป็นโจทก์ฟ้องร้องประธานาธิบดีจากหลักฐานที่มีอยู่ต่อวุฒิสภาที่มีประธานศาลฎีกาสหรัฐเป็นประธาน (เป็นกรณีพิเศษ) ด้านประธานาธิบดีสามารถใช้ทนายสู้คดีได้ จากนั้นทางสมาชิกวุฒิสภาเมื่อพิจารณาจากหลักฐานทั้งหมดและข้อโต้แย้งแล้วก็จะทำการโหวตรอบที่ 2 ว่าประธานาธิบดีมีความผิดตามที่ฟ้องหรือไม่

หากเสียงโหวตมากกว่า 2 ใน 3 ลงมติว่าประธานาธิบดีมีความผิดจริงตามที่ฟ้องแล้วประธานาธิบดีก็จะถูกถอดถอน (ไล่ออกจากตำแหน่ง) โดยไม่มีการยื่นอุทธรณ์แต่อย่างใด

Advertisement

2)การขัดขวางกระบวนการยุติธรรมในสหรัฐอเมริกาหมายถึงการแทรกแซงขัดขวางของบุคคลในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการหรือหน่วยงานของรัฐที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมของประเทศทั้งปวง พูดภาษาธรรมดาก็คือการเข้าไปแทรกแซงขัดขวางเพื่อที่จะเบี้ยวกระบวนการยุติธรรมนั่นเอง ซึ่งในสหรัฐอเมริกาถือว่าการโกหกต่อรัฐสภาเป็นการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม

ครับ ! อีทีนี้ก็เข้าเรื่องคือสำนักข่าวบัซฟีด (BuzzFeed) ซึ่งเป็นสำนักข่าวออนไลน์ที่ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2549 ตีพิมพ์ข่าวสืบสวนมีชื่อเสียงเป็นที่เชื่อถือของคนทั่วไปเนื่องจากมีผู้สื่อข่าวชั้นรางวัลพูลิตเซอร์ (เป็นรางวัลของสหรัฐอเมริกา ตั้งขึ้นเพื่อมอบแก่ผู้ได้รับเกียรติสูงสุดระดับชาติในวงการสิ่งพิมพ์ การบรรลุความสำเร็จทางวรรณกรรม และการประพันธ์เพลง บริหารจัดการโดยมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนครนิวยอร์ก)

หลายคนที่ชำนาญการหาข่าวแบบสืบสวนมาเปิดโปงเป็นข่าวใหญ่ได้อยู่เนืองๆ ได้ตีพิมพ์ข่าวใหญ่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคมที่ผ่านมานี้ ว่าเจ้าหน้าที่ของสหรัฐ ผู้ทำหน้าที่สอบสวนนายไมเคิล โคเฮน ทนายประจำตัวของโดนัลด์ ทรัมป์ 2 คนที่ทำการสอบสวนให้กับคณะสืบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐ ได้ยืนยันว่ามีการพบหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรของนายโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งการให้ทนายประจำตัวของเขา นายไมเคิล โคเฮน ให้การโกหกต่อรัฐสภา ซึ่งถือว่าเป็นการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมอันเป็นความผิดทางอาญา

Advertisement

นายไมเคิล โคเฮน ได้ถูกลงโทษให้จำคุกไปแล้ว แต่เมื่อนายไมเคิล โคเฮน ได้ซัดทอดว่าเขาได้รับคำสั่งมาจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้โกหกเรื่องการที่นายทรัมป์ต้องการที่จะลงทุนสร้างโรงแรมทรัมป์ ทาวเวอร์ ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ซึ่งนายไมเคิล โคเฮน ทำหน้าที่เป็นผู้เจรจากับเจ้าหน้าที่รัฐบาลของรัสเซีย ที่ทรัมป์เองก็ประกาศหลายครั้งว่าเขาไม่รู้เรื่องนี้ (ซึ่งไม่น่าเชื่อ) แต่เมื่อมีการยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่าทรัมป์รู้เรื่องการติดต่อโดยตลอด แถมยังสั่งให้โคเฮนโกหกต่อรัฐสภาอีกด้วย แล้วทำให้เกิดขบวนการที่จะถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่ง (อิมพีชเมนต์) จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งสมาชิกพรรคเดโมแครตมีเสียงข้างมากอยู่แล้วทันที

แต่ในวันรุ่งขึ้นทางคณะสืบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ว่า ข่าวของสำนักข่าวบัซฟีดไม่ถูกต้อง (are not accurate) แต่มิได้ยืนยันว่าข่าวของสำนักข่าวบัซฟีดผิดหรือเป็นเท็จแต่อย่างไร ทางรัฐสภาจึงจะต้องสอบสวนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทางสภาผู้แทนราษฎรได้เรียกตัวไมเคิล โคเฮน มาให้ปากคำในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ซึ่งเราจะได้เห็นกันว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่จะถูกอิมพีชเมนต์หรือไม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image