ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
---|
หลังจากรอคอยด้วยความระทึกใจมาหลายเพลา
23 มกราคม เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ก็เผยแพร่ประกาศ พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ.2562
ความว่า
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นการเลือกตั้งทั่วไป อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 และมาตรา 268 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้
ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ.2562”
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นการเลือกตั้งทั่วไป
มาตรา 4 ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
ปฏิกิริยาที่ติดตามมา แตกต่างกันไปตามหน้าที่และจริต
โดยวันเดียวกันนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ในช่วงท้ายการประชุม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นข่าวดีของคนที่อยากเลือกตั้ง เพราะมีการประกาศ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งแล้ว เมื่อตอนเวลาประมาณ 10 โมงของวันนี้
สำหรับคนที่อยากเลือกตั้ง คงได้เลือกตั้งสมใจ
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า
จากนี้ไปเป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะประกาศวันเลือกตั้ง วันรับสมัครรับเลือกตั้ง ส่วนรัฐบาลยังคงมีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดิน
รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ ดังนั้น การปฏิบัติหน้าที่และตรวจราชการของนายกรัฐมนตรียังคงเป็นไปตามปกติ
แต่จะต้องทบทวนการประชุม ครม.สัญจรอีกครั้ง ว่าควรจะมีต่อไปหรือไม่
เมื่อถามว่านายกฯได้กำชับ 4 รัฐมนตรีในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่อย่างไรบ้าง
นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีระเบียบและแนวทางปฏิบัติอยู่แล้ว โดยมีข้อกำหนดว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง
เช่น ในเวลาราชการไม่สามารถขึ้นไปแนะนำตัวผู้สมัคร หรือพูดชี้ชวนแนะนำผู้สมัครพรรคใดพรรคหนึ่ง
หลังจากนี้ จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและแนวทางของรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่ออกอากาศทุกเย็นวันศุกร์ เพื่อความเหมาะสม
“ขอย้ำว่ารัฐบาลยังปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการนำเสนอการพูดถึงนโยบาย หรือบางโครงการ
ที่อาจกระทบหรือชี้นำให้กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง”
บ่ายวันเดียวกัน กกต. มีการประชุมเพื่อกำหนดและประกาศวันเลือกตั้ง
โดย นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. จะแถลงข่าวภายในเย็นวันเดียวกัน
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่ากำหนดวันเลือกตั้งจะเป็นวันที่ 24 มีนาคม
เพื่อให้กระบวนการรับรอง ส.ส. ทั้งหมดเสร็จสิ้นภายในวันที่ 9 พฤษภาคม
เพื่อจะได้ไม่เลยกรอบ 150 วันตามรัฐธรรมนูญ
นอกจากนั้น ยังมีรายงานข่าวด้วยว่า มีการหารือกันระหว่าง 4 รัฐมนตรีในคณะรัฐบาล ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐ
ได้แก่ นายอุตตมะ สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกฯ
ว่าจะลาออกจากตำแหน่งเมื่อใด
โดยคาดว่าอย่างเร็วน่าจะเป็นช่วงปลายเดือนมกราคม หรืออย่างช้าที่สุดคือต้นเดือนกุมภาพันธ์
ทั้งเพื่อป้องกันประเด็นข้อกฎหมาย และจะได้มีเวลาในการหาเสียงได้เต็มที่
จากนี้ 24 มีนาคม คือจุดหมายปลายทาง
ทั้งของพรรคการเมือง ของประชาชน
ไม่ว่าจะเป็นคนอยากเลือกตั้ง
หรือผู้อยากมีอำนาจที่ไม่ต้องการเลือกตั้งก็ตาม