| ผู้เขียน | โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ |
|---|
ผู้เขียนได้รู้จักธุรกิจออนไลน์ในเมืองไทยราว 10 กว่าปีที่ผ่านมานี้เองจากการที่ผู้เขียนขอตั้งกติกาในชั้นเรียนที่ผู้เขียนสอนอยู่ คือไม่ให้ลูกศิษย์ใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างการเรียนที่ผู้เขียนสอนอยู่ วันหนึ่งระหว่างทำการสอนอยู่ได้สังเกตเห็นนิสิตหญิงคนหนึ่งง่วนอยู่กับการส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถืออยู่ ผู้เขียนจึงขอยึดโทรศัพท์มือถือของเธอชั่วคราว ครั้นหมดคาบการเรียนแล้วผู้เขียนได้ความกระจ่างว่านิสิตหญิงคนนั้นทำธุรกิจออนไลน์อยู่แบบว่าเธอไปซื้อกิ๊บติดผมและเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ จากสำเพ็งแล้วเอามาขายต่อทางออนไลน์ ซึ่งได้กำไรดีมากแทบจะพอเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างที่เธอเรียนหนังสืออยู่โดยไม่ต้องรบกวนผู้ปกครองมากนัก
หลังจากนั้นผู้เขียนก็มีโอกาสได้รู้จักกับบุคคลหลายคนที่ยึดการค้าออนไลน์เป็นอาชีพและมีรายได้เป็นกอบเป็นกำแบบว่ามีรายได้สูงกว่าผู้เขียนผู้เป็นข้าราชการมาร่วม 40 ปีมากเลยทีเดียว ซึ่งนับว่าเป็นอาชีพใหม่ที่เพิ่งเกิดมีขึ้นเมื่อมีเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเมื่อไม่นานมานี้เอง
เมื่อเร็วๆ นี้ผู้เขียนได้อ่านข่าวการจัดลำดับของนิตยสารฟอร์บส์ว่า นางสาวไคลีย์ เจนเนอร์ อายุ 21 ปี ได้ก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีพันล้านที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สามารถเอาชนะเหนือนายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กที่เคยทำสถิติไว้ตอนอายุ 23 ปี
ครับ ! มหาเศรษฐีพันล้านในที่นี้คือผู้มีทรัพย์สินตั้งแต่หนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป หรือคิดเป็นเงินบาทไทยก็ราว 31,731,000,000 บาท แถมนิตยสารฟอร์บส์ยังยกย่องนางสาวไคลีย์ เจนเนอร์ ว่าเป็นผู้สร้างความมั่งคั่งขึ้นมาด้วยตัวเองหรือว่าตามสำนวนไทยของเราก็ว่า สร้างตัวจนเป็นมหาเศรษฐีพันล้านขึ้นด้วยลำแข้งของเธอเอง หรือรวยขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอเองแท้ๆ ด้วยการเริ่มต้นจากการขายลิปสติกของเธอทางออนไลน์และขยายไปขายเครื่องสำอางต่างๆ ด้วย ทำให้บริษัทของเธอมีกำไรรวมกว่า 900 ล้านดอลลาร์ และเมื่อรวมกับรายได้เดิมของบริษัทในช่วงปีแรกๆ และทรัพย์สินเดิมจากการโชว์ตัวของไคลีย์ จึงทำให้เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้านได้อย่างสบาย ซึ่งเป็นผลมาจากโซเชียลมีเดีย ซึ่งเธอใช้เป็นช่องทางในการเปิดตัวสินค้าใหม่ และแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์ของเธอในแบบต่างๆ อย่างมืออาชีพ
อีทีนี้ก็เกิดปัญหาถกเถียงกันยกใหญ่ว่าไคลีย์ เจนเนอร์เป็นคนมีพื้นเพรวยอยู่แล้ว แถมยังมีทุนทางสังคมอย่างมหาศาลเพราะดังมาก เป็นที่รู้จักของคนในสังคมอเมริกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งเป็นคนดังนี่เป็นทุนอันมหาศาลนะครับ ไม่ต้องลำบากในการทำการตลาด ซึ่งไคลีย์ เจนเนอร์ดังมาจากครอบครัวของเธอที่สำคัญที่สุดก็คือคุณแม่ของเธอนั่นเองผู้เป็นคุณแม่ทั้ง 2 ครอบครัวเลย คือครอบครัวคาร์เดเชียนและครอบครัวเจนเนอร์ กล่าวคือคุณแม่คริส เจนเนอร์ ปัจจุบันอายุ 60 ปี แต่งงานครั้งแรกกับนายโรเบิร์ต คาร์เดเชียน ทนายความผู้ว่าความให้นักฟุตบอลอเมริกันชื่อ โอ.เจ. ซิมป์สันให้หลุดจากคดีฆาตกรรมฉาวโฉ่ได้ โดยการแต่งงานครั้งแรกนี้คริสมีบุตรกับคาร์เดเชียน 4 คน เป็นผู้หญิง 3 คน ชาย 1 คน คือคอร์ทนี, คิม, โคลอี้ และร๊อบ ซึ่งคิม คาร์เดเชียนดังระเบิดเลยและไคลีย์ก็ได้ร่วมแสดงรายการทีวีกับครอบครัวคาร์เดเชียนจึงทำให้เธอดังไปด้วย
ต่อมาคุณแม่คริสก็ได้แต่งงานกับพ่อหม้ายลูกติดชื่อบรูซ เจนเนอร์ นักทศกรีฑาเหรียญทองโอลิมปิก มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน คือเคลดัน นางแบบของวิกตอเรียส์ซีเคร็ตกับไคลีย์นั่นเอง ต่อมาบรูซ เจนเนอร์ได้ผ่าตัดแปลงเพศเป็นผู้หญิงใช้ชื่อว่าเคทลิน เป็นงั้นไป
ตกลงก็ยังเถียงกันอยู่ว่าไคลีย์ เจนเนอร์เป็นเศรษฐีพันล้านที่สร้างตัวเองหรือเปล่า? ซึ่งฝรั่งเขาชอบเถียงก็เถียงกันไปยังไม่จบหรอกครับ แต่สำหรับผู้เขียนแล้วต้องยอมรับว่าคุณไคลีย์ เจนเนอร์เธอเก่งจริงๆ ครับที่สามารถสร้างประโยชน์และความสำเร็จจากภูมิหลังของครอบครัวที่แสนจะยุ่งเหยิงวุ่นวายได้เป็นอย่างดี
