| ผู้เขียน | นฤตย์ เสกธีระ |
|---|
การเลือกตั้งผ่านพ้นไปด้วยดี คือ ไม่มีเหตุการณ์ปิดหน่วยหรือขัดขวางมิให้มีการหย่อนบัตรเหมือนอดีต
ผลการเลือกตั้งที่ออกมาก็สูสีกันระหว่างขั้วเอา คสช. กับขั้วไม่เอา คสช.
จากข้อมูลที่ได้รับขณะที่เขียนบทความ พบว่า จำนวน ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยพุ่งไป 135 คน แต่คะแนนเสียงของพรรคพลังประชารัฐมากกว่า
สร้างเป็นเงื่อนไขน่าสงสัยว่า ควรจะให้เครดิตกับจำนวน ส.ส. หรือให้ความสำคัญกับจำนวนคะแนนเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล
ถ้าอ้างความชอบธรรมจากคะแนนที่คนลงเสียงให้ก็ต้องพรรคพลังประชารัฐมีสิทธิ
แต่ถ้าจำนวน ส.ส.ที่มากที่สุด พรรคเพื่อไทยก็มีโอกาส
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาอื่นๆ อีกที่ กกต.น่าจะคลายข้อสงสัย
ประการแรก จำนวนผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่เข้าคิวหย่อนบัตรกันตั้งแต่เช้าจนเย็นนั้น ทำไมผลสุดท้ายจำนวนผู้ไปใช้สิทธิจึงไม่ใช่ 80 เปอร์เซ็นต์เหมือนที่คาดไว้
ทำไมจำนวนผู้มาใช้สิทธิจึงเหลือแค่ 65.9 เปอร์เซ็นต์
ประการที่สอง จำนวนเสียง 1,500 เสียงจากคนไทยในนิวซีแลนด์ที่เกิดเหตุอันมิควร ทำให้ไม่สามารถส่งไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ตามกำหนด
ทำให้บัตรเลือกตั้งเหล่านั้นส่อเค้าว่าจะกลายเป็นบัตรเสีย
เช่นนี้ใครจะรับผิดชอบ ถ้าคะแนนเสียงของประชาชนทุกคนมีค่า
ใครจะชดเชยต่อเสียง 1,500 เสียงที่กาเอาไว้แล้วไม่ได้ใช้
ประการที่สาม ข้อสงสัยเกี่ยวกับระยะเวลาการนับคะแนนที่ทิ้งช่วงเนิ่นนานข้ามวันข้ามคืน
แม้ว่าจะมีผู้ไปใช้สิทธิน้อยกว่าครั้งก่อนๆ แต่การนับคะแนนกลับช้ากว่า
กระทั่งวันเวลาผ่านพ้นวันเลือกตั้งล่วงเข้าไปอีกวันยังนับไม่ครบถ้วนในบางพื้นที่
รวมไปถึงข้อสงสัยที่ปรากฏว่าคะแนนที่นับมีมากกว่าจำนวนผู้มีสิทธิในหน่วยเลือกตั้งนั้น
หรือคะแนนที่ปรากฏในหน่วยไม่ตรงกับคะแนนที่ปรากฏในการประกาศอย่างไม่เป็นทางการ
และเรื่องอื่นๆ ที่เริ่มมีผู้แสดงความสงสัย
เรื่องต่างๆ เหล่านี้ กกต.ในฐานะผู้รับผิดชอบต้องค่อยๆ เคลียร์ให้สังคมเข้าใจ
อะไรผิดก็คือผิด อะไรถูกก็คือถูก อะไรเป็นข้อสงสัยที่ต้องปรึกษาหารือกับหน่วยงานไหนก็ทำให้ชัดแจ้ง
จากวันนี้ไป กกต.มีเวลาอีก 60 วันในการรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.
ส.ส.ระบบเขตต้องผ่านการตรวจสอบและต้องปราศจากข้อร้องเรียน
ส.ส.บัญชีรายชื่อต้องรอคะแนนรวมของพรรค และผ่านการคำนวณ ส.ส.ที่พึงมีทั้งหมด
ระหว่างนี้ กกต.ต้องทำทุกอย่างชัดเจน
และไม่สร้างเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งอื่นๆ อีก
ระมัดระวังทุกอย่างมิให้กลายเป็นการเลือกตั้งโมฆะ ต้องพิจารณาทุกเรื่องราวด้วยใจเป็นธรรม
พิทักษ์รักษาความเชื่อมั่นเอาไว้ให้ได้ อย่าทำให้สถานะ “กรรมการ” กลายเป็น “คู่แข่งขัน” ซึ่งจะนำไปสู่ความเสื่อม
นับจากวันนี้เป็นต้นไป จึงหวังว่า กกต.จะสามารถให้คำตอบทุกอย่างแก่ทุกฝ่าย
หวังว่า กกต.สามารถเคลียร์ข้อสงสัย
และตอกย้ำให้ทุกฝ่ายยอมรับว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และยุติธรรม
ไม่มีการโกง หรือแทรกแซงผลโหวตเหมือนอย่างที่มีข้อครหากัน
นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]
