บทนำประจำวันอังคารที่ 26 มีนาคม 2562 : ปัญหาวันเลือกตั้ง

คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. รายงานผลการเลือกตั้ง 24 มี.ค. เบื้องต้นและอย่างไม่เป็นทางการ ระบุตัวเลขผู้มาใช้สิทธิ 65% เศษ จากผู้มีสิทธิ 51.2 ล้านคน ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 80% บัตรเสีย 5% ส่วนผลการนับคะแนน ระบุว่า พรรคเพื่อไทย ได้ ส.ส.นำที่ 135 ที่นั่ง เป็น ส.ส.เขตทั้งหมด รองลงมาคือ พรรคพลังประชารัฐ 117 ที่นั่ง เป็น ส.ส.เขต 98 คน และบัญชีรายชื่อ 19 คน พรรคอนาคตใหม่ ได้ 80 ที่นั่ง ส.ส.เขต 29 คน และบัญชีรายชื่อ 51 คน พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 53 คน ส.ส.เขต 34 คน บัญชีรายชื่อ 19 คน พรรคภูมิใจไทย 51 คน ส.ส.เขต 39 คน บัญชีรายชื่อ 12 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 11 คน ส.ส.เขต 7 คน บัญชีรายชื่อ 4 คน พรรคเสรีรวมไทย ได้ 10 คน เป็นบัญชีรายชื่อทั้งหมด นอกจาก 7 พรรคนี้แล้ว อีก 8 พรรคที่เหลือได้ ส.ส.ต่ำกว่า 10 คน รวมทั้งหมด 29 คน

ในขั้นนี้ ยังต้องรอผลเป็นทางการจาก กกต.เพื่อนำไปสู่การเตรียมเปิดประชุมสภาผู้แทนฯ และประชุมรัฐสภาเพื่อรับรองผู้เป็นนายกรัฐมนตรีจากบัญชีรายชื่อของพรรคต่างๆ อย่างไรก็ตาม ในขั้นตอนการทำงานของ กกต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกิดปัญหาในการทำงานหลายประการ อาทิ บัตรลงคะแนนนอกราชอาณาจักรที่นิวซีแลนด์ 1,500 ใบ ที่ส่งจากนิวซีแลนด์เมื่อ 18 มี.ค. มาถึงประเทศไทยในคืนวันที่ 23 มี.ค. และกระจายไปตามหน่วยภูมิลำเนาของผู้ลงคะแนนไม่ทันจะกลายเป็นบัตรเสีย ซึ่งทำให้เกิดความข้องใจสงสัยว่าทำไมใช้เวลาเดินทางยาวนาน และทำให้ผู้ลงคะแนนเสียโอกาส นอกจากนี้ยังเกิดปัญหาต่างๆ ในการใช้สิทธิลงคะแนน และการรายงานคะแนนล่าช้า จากเดิมที่ กกต.เคยยืนยันความพร้อมและระบุว่าจะรู้ผลภายใน 3 ชั่วโมงหลังจากปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 17.00 น.

ต้องยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนตั้งใจมาใช้สิทธิ เพราะต้องการสื่อสารความคิดความเห็นของตนเองผ่านการเลือกตั้ง และต้องการทราบผลเลือกตั้งโดยเร็ว แต่สุดท้าย กกต.ไม่สามารถทำงานรองรับความคาดหวังได้ จึงกลายเป็นปัญหา และนำไปสู่การตั้งข้อสงสัยต่างๆ ว่าการเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใสหรือไม่ กกต.คงไม่มีหนทางอื่นนอกจากเร่งทำงาน เร่งประกาศผลการเลือกตั้ง ชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ ด้วยข้อมูล และเป็นบทเรียนสำคัญว่า การเลือกตั้งจะต้องเปิดกว้างให้มีบุคคลภายนอกมาสังเกตการณ์ ซึ่งจะช่วยยืนยันความโปร่งใสได้อย่างมีน้ำหนักที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image