ร่องรอย การเมือง : เนื่องแต่ รัฐธรรมนูญ 60 : กับ พลังประชารัฐ

หากรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 เปิดช่องให้พรรคไทยรักไทยแจ้งเกิดในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2544 รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ก็เปิดช่องให้พรรคอนาคตใหม่แจ้งเกิดในการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562

ต้องขอบคุณ “คสช.”

ต้องขอบคุณคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญอันมาโดยอำนาจ คสช. และอยู่ในการกำกับของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์

หากไม่มี คสช. หากไม่มี กรธ. พรรคอนาคตใหม่คงไม่มีโอกาส

Advertisement

คำถามก็คือ เป้าหมายแท้จริงในการยกร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ตามธงอันดำรงอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ต้องการเช่นนี้หรือ

ตอบได้เลยว่า ไม่ใช่

เป้าหมายแท้จริงของ คสช. และของ กรธ. คือ พรรคการเมืองขนาดใหญ่ เน้นอย่างเฉพาะเจาะจงก็คือต้องการบดขยี้พรรคเพื่อไทย

แล้วเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่

ถ้าเริ่มต้นจากสมมุติฐานที่พรรคพลังประชารัฐนำมาอ้างอิงอยู่เหมือนนกแก้วนกขุนทองที่ว่าได้คะแนนป๊อปปูลาร์โหวตมา 8.4 ล้านคะแนนทั่วประเทศก็เหมือนจะบรรลุเป้าหมาย

กระนั้น เมื่อดูชะตากรรมของพรรคประชาธิปัตย์ก็น่าสงสัย

ถามว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นเป้าหมายของ คสช.ด้วยหรือไม่ เทียบกับสายตาที่มองระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย

เด่นชัดว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่น่าจะเป็นเป้า

กระนั้น เมื่อดูจากผลการเลือกตั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เพียงแต่จะพ่ายแพ้ต่อพรรคเพื่อไทย หากยังพ่ายแพ้ต่อพรรคอนาคตใหม่ด้วย

ตรงนี้แหละเจ็บปวด

กระนั้น ที่เจ็บปวดรวดร้าวมากยิ่งกว่าก็คือ ภายหลังการเลือกตั้งสภาพที่พรรคประชาธิปัตย์ประสบคือ ความขัดแย้งแตกแยกและอาจนำไปสู่การแยกตัว

ไม่ว่าจะเป็น นายชวน หลีกภัย ไม่ว่าจะเป็น นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ล้วนต้องเหนื่อย

ตามความเชื่อโดยทั่วไปมองเห็นว่ารัฐธรรมนูญคือเครื่องมือในการรับใช้เป้าประสงค์ของผู้ยกร่าง ไม่ว่า คสช.ไม่ว่า กรธ.ล้วนคิดอย่างนี้

แต่เมื่อถามว่าเป็นไปอย่างที่คิดหรือไม่ ก็อาจจะงงๆ

อาการทุลักทุเลที่ กกต.กำลังประสบคือคำตอบ 1 ความหงุดหงิดกระทั่งงุ่นง่านอันสำแดงผ่านพรรคพลังประชารัฐคือ คำตอบ 1

ทั้งที่เคยเชื่อ “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”

ตรงกันข้าม ในเมื่อจำนวน ส.ส.อันดับ 1 ยังเป็นของพรรคเพื่อไทย ในเมื่อคนของพรรคอนาคตใหม่สามารถทะยานไปยังตัวเลข 70 และอาจเป็น 80

นี่คือสิ่งที่ คสช. และ กรธ.ไม่ได้คาดคิดมาก่อน

ตรงกันข้าม แม้ว่าจะมี 250 ส.ว.อยู่ในมือ แต่แนวโน้มและความเป็นไปได้ในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากต้องแลกมาด้วยเดิมพันที่เป็นชื่อเสียงและเกียรติภูมิย่อมต้องเหน็ดเหนื่อย

เพราะเป็นของ คสช. เป็นของ กรธ. และเป็นของ กกต.

ในความเป็นจริง รัฐธรรมนูญมีชีวิตไปตามเส้นทางของมันเอง ไม่มีใครจะสามารถกำกับและบงการมันให้เป็นไปตามความต้องการ

แม้จะโลดโผนด้วย “อภินิหาร” ก็ตาม

ที่คิดว่าจะใช้รัฐธรรมนูญในการทำลายล้างนอกจากมิอาจทำลายล้างหากแต่ยังเกิดสิ่งใหม่ ปรากฏการณ์ใหม่ตามมา

เรื่องนี้พรรคพลังประชารัฐรู้ดี เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์รู้ดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image