แบล๊กเมล์การเมือง! แถลงการณ์ทหารกับอนาคตการเมืองไทย : สุรชาติ บำรุงสุข

เมื่อผู้นำเหล่าทัพออกแถลงการณ์ทางการเมืองในขณะที่ผลการเลือกตั้งที่จะนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลกำลังเป็นปัญหาอยู่นั้น การออกมายืนเรียงแถวแถลงต่อสาธารณชนเช่นนี้ อาจเป็นเรื่องที่ทำให้บทบาททางการเมืองของกองทัพหลังการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่จะต้องจับตามองอีกครั้ง

ทหารกับการเมือง: วังวนที่ไม่จบ!

การออกแถลงการณ์ครั้งนี้เท่ากับเป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่า บทบาทของทหารในการเมืองไทยจะยังคงอยู่ต่อไป และในอีกด้านหนึ่งแถลงการณ์นี้ ทำให้ปัญหาเรื่อง “ทหารกับการเมือง” ยังคงเป็นเรื่องสำคัญในการเมืองไทยที่ฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องคิดอย่างจริงจัง มิเช่นนั้นแล้ว การเมืองไทยจะตกอยู่ใน “วังวนรัฐประหาร” อย่างไม่จบสิ้น

แน่นอนว่า เมื่อผู้นำเหล่าทัพออกมาเรียงหน้าเช่นนี้ ข่าวที่จะแพร่สะพัดทันทีในสังคมไทยก็คงหนีไม่พ้นเรื่องรัฐประหาร จนเป็นดังสูตรในการเมืองไทยที่คาดเดาได้เสมอ… เมื่อใดก็ตามที่ผู้นำทหารไม่พอใจกับสภาวะทางการเมือง เมื่อนั้นข่าวเรื่องรัฐประหารก็จะตามมา การออกมาเช่นนี้จึงกล่าวสรุปอย่างตรงไปตรงมาได้ว่า แถลงการณ์ทหารคือการ “ข่มขู่ทางการเมือง” หรือเป็นการ “แบล๊กเมล์ทางการเมือง” นั่นเอง

Advertisement

ปรากฏการณ์เช่นนี้ย่อมทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลอย่างมากว่า การเมืองไทยในอนาคตจะยังคงหนีไม่พ้นจากบทบาทและอิทธิพลของกองทัพ และขณะเดียวกันก็ทำให้อนาคตของกระบวนการสร้างประชาธิปไตยของไทยมีความยุ่งยากในตัวเอง ตราบเท่าที่กองทัพยังแสดงบทบาทของการเป็น “ผู้แทรกแซง” อย่างไม่มีจุดสิ้นสุดแล้ว การเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยย่อมจะเผชิญกับอุปสรรคอย่างแน่นอน และยังเท่ากับเป็นคำตอบในตัวเองอีกประการด้วยว่า ความหวังของการสร้าง “ทหารอาชีพ” ก็จะมีอุปสรรคไม่แตกต่างกัน

รูปแบบของการแทรกแซงทางการเมือง

ในทางทฤษฎีของวิชาทหารกับการเมืองนั้น การแทรกแซงของกองทัพมิได้มีแต่ในรูปแบบของการรัฐประหารเท่านั้น หากแต่การข่มขู่ทางการเมืองเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการแทรกแซงทางการเมืองของกองทัพ หรือการกระทำเช่นนี้เรียกว่า “political blackmail” ซึ่งมีนัยถึง การใช้อำนาจของกองทัพในลักษณะของการคุกคาม อันจะทำให้กองทัพได้รับผลตอบแทนทางการเมืองอย่างที่ต้องการโดยไม่จำเป็นต้องทำรัฐประหาร

การแสดงออกทางการเมืองในลักษณะของการคุกคามในทางทฤษฎี จึงเป็นประเด็นที่น่ากังวล เพราะไม่เพียงแต่แสดงออกถึงการใช้อำนาจของกองทัพในเวทีการเมืองอย่างเปิดเผยเท่านั้น หากแต่ยังกลายเป็นสัญญาณทางการเมืองอีกว่า รัฐบาลใหม่ในอนาคตจะต้องเป็นรัฐบาลที่กองทัพต้องการ และกองทัพพร้อมที่จะสนับสนุนรัฐบาลนี้ และสัญญาณในอีกทางคือ กองทัพไม่สนับสนุนคู่แข่งขันทางการเมืองอีกฝ่าย

ในปี 2535 ก็มีงานในลักษณะที่อาจเทียบเคียงกันได้ คือ มีการแสดงออกถึงความสนับสนุนของผู้นำเหล่าทัพต่อพลเอกสุจินดา คราประยูร ที่จะต้องลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการทหารบก เพื่อรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศว่า “มีความจำเป็นต้องเสียสัตย์เพื่อชาติ” และมีการจัดพิธีอำลาเพื่อยืนยันถึงความสนับสนุนของกองทัพต่อรัฐบาลใหม่ที่จะเกิดขึ้นอย่างเปิดเผย

การแสดงออกในลักษณะเช่นนี้ในด้านหนึ่งคือการสนับสนุนรัฐบาลที่กองทัพต้องการ และในอีกด้านก็เป็นการใช้อำนาจของกองทัพในรูปแบบของการ “ใช้อิทธิพลทางการเมือง” เข้าแทรกแซงเพื่อให้เกิดผลตอบแทนตามที่ต้องการ ซึ่งก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการแทรกแซงทางการเมืองของกองทัพ

ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว ก็อาจคาดเดาต่อได้ว่า หากรัฐบาลที่ผู้นำทหารต้องการเกิดขึ้น(จะโดยวิธีใดก็แล้วแต่) ผู้นำเหล่าทัพชุดนี้ก็อาจออกมาแสดงความสนับสนุนรัฐบาลนั้น ดังเช่นที่เคยเกิดมาแล้วในปี 2535 แต่คงต้องตระหนักด้วยความใคร่ครวญว่า ด้วยการแสดงบทบาททางการเมืองของผู้นำทหารอย่างเปิดเผยและอย่างเด่นชัดเช่นนี้ สุดท้ายแล้วได้กลายเป็นหนึ่งปัจจัยที่นำไปสู่ “วิกฤตการเมือง 2535”

อนาคตที่ไม่สดใส

หลังจากการออกแถลงการณ์ของผู้นำเหล่าทัพแล้ว หลายฝ่ายเริ่มกลับไปสู่ข้อสรุปง่ายๆว่า ทหารคงไม่ลดบทบาทในการเมืองไทย ในสภาวะเช่นนี้ไม่ว่าทหารในบริบทของผู้นำการรัฐประหารเดิมตลอดรวมถึงผู้นำเหล่าทัพปัจจุบัน หรือทหารในบริบทของสถาบันทหารได้แสดงความจำนงอย่างชัดเจนที่จะดำรงบทบาททางการเมืองต่อไป

ดังนั้นไม่ว่าแถลงการณ์เช่นนี้จะเป็นผลมาจากความปรารถนาที่จะมีรัฐบาลที่กองทัพต้องการ หรือจะเป็นผลมาจากความกลัวว่ารัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งจะผลักดันนโยบาย “ปฏิรูปกองทัพ” อันจะนำไปสู่การที่ทหารจะต้องลดบทบาททางการเมืองลงก็ตาม การแสดงออกเช่นนี้จึงเป็นการบ่งบอกถึงอำนาจทางการเมืองของกองทัพไทยอีกครั้ง และให้คำตอบอย่างชัดเจนอีกด้วยว่า ไม่ว่าการเมืองไทยจะดำเนินไปเช่นไร ทหารยังคงต้องการเป็น “ตัวแสดงหลัก” มากกว่าการยอมรับหลักการประชาธิปไตยที่ต้องเป็น “กลไกแห่งรัฐ”

สภาวะเช่นนี้ทำให้โจทย์ของการปฏิรูปกองทัพไทยมีความยุ่งยากในตัวเองอย่างมากในอนาคต!

เกาะติดข่าวการเมือง กับ Line@มติชนการเมือง

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image