| ผู้เขียน | สุพัด ทีปะลา |
|---|
สภาพการจราจรที่หนาแน่นบนท้องถนนที่มุ่งหน้าสู่ภาค อีสาน ภาคใต้ เป็นภาพที่เห็นกันอยู่ทุกปีในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์
ประชาชนหลั่งไหลเดินทางออกจากกรุงเทพฯกลับภูมิลำเนา ไปเฉลิมฉลองสงกรานต์กับครอบครัว
คาดการณ์จะมีคนเดินทางหลายล้านคน เฉพาะตัวเลขการเดินทางด้วยรถโดยสาร บขส. ช่วงสงกรานต์ปี 2562 กระทรวงคมนาคมคาดว่าจะทะลุ 2 ล้านคน มากกว่าช่วงสงกรานต์ปี 2561 ประมาณ 5-10%
ส่วนการเดินทางด้วยเครื่องบิน ที่สนามบินดอนเมือง ประมาณการณ์ภาพรวม 7 วัน วันที่ 11-17 เม.ย. จะมี ผู้โดยสารมาใช้บริการกว่า 9 แสนคน หรือเฉลี่ยวันละ 1.3 แสนคน หรือเพิ่มขึ้น 18% มีเที่ยวบิน 5,800 เที่ยวบิน
การกลับไปฉลองสงกรานต์กับครอบครัวอย่างมีความสุขในวันปีใหม่ไทยเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน
เช่นเดียวกับการสูญเสียจากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลแห่งความสุข เทศกาลแห่งความรื่นเริง ก็เกิดขึ้นทุกปี แม้จะมีมาตรการออกมามายจากทางภาครัฐ
ตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุ และเสียชีวิต 2 วันแรก ของเทศกาลสงกรานต์ 11-12 เมษายน 2562 ของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2562 พบว่าเกิดอุบัติเหตุ 969 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 105 ราย ผู้บาดเจ็บ 1,001 ราย
สาเหตุมากจาก ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 35.13 ขับรถเร็ว ร้อยละ 29.94 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 78.71
ทั้งนี้แม้ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาจะมีการรณรงค์ดื่มไม่ขับ การออกกฎหมายมาควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ การเสียชีวิต ในช่วงเทศกาลต่างๆ
แต่ตัวเลขการดื่มแล้วขับยังมีอยู่ทุกช่วงเทศกาล อาจจะลดลง หรือเพิ่มขึ้นในแต่ละปี
จากข้อมูลของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สธ. พบว่า ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555-2559 มีอัตราการบาดเจ็บ เสียชีวิต จากการจราจรทางถนนที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเป็นผู้ดื่ม 44,590 คน คิดเป็นร้อยละ 32.5 จากจำนวนผู้ประสบอุบัติเหตุ 137,385 คน โดยพบการบาดเจ็บ เสียชีวิตสูงสุดในวันที่ 13 เมษายน โดยเป็นกลุ่มอายุ 15-19 ปีมากที่สุด
ก่อนหน้านี้ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข มีมติให้ วันที่ 13 เมษายน เป็นวันงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2562
แต่น่าเสียดายนโยบายนี้ไม่สามารถใช้ได้ทันสงกรานต์นี้หลังจากคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ยังไม่ได้ประชุมพิจารณา
จึงต้องรอรัฐบาลใหม่ว่าจะเอาด้วยกับนโยบายนี้หรือไม่ เพราะบางกลุ่มยังห่วงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ มากกว่าการสูญเสีย
สงกรานต์ปีนี้ รัฐบาลไม่ได้มีมาตรการอะไรที่แตกต่างจากปีที่ผ่านมา ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้
จะมีก็เพียงการออกมาเน้นย้ำใช้ยาแรง กรณีเมาแล้วขับทำให้เกิดอุบัติจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จะมีความผิดฐานเจตนาฆ่าผู้อื่น
แม้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ก็เป็นการเน้นย้ำเอาจริงเอาจังในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น
นอกจากมาตรการทั้งหมดทั้งปวงที่ออกมาเพื่อลดการสูญเสียในช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว
ตัวผู้ขับขี่เองก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม เมาไม่ขับเช่นเดียวกัน
