| ผู้เขียน | โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ |
|---|
อัญมณี (Gemstone) คือวัตถุธรรมชาติสวยงามที่นำมาใช้เป็นเครื่องประดับ เนื่องจากอัญมณีเป็นสิ่งที่หายาก มีความสวยงาม มีความคงทนและพกพาติดตัวได้สะดวก โดยปกติแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ เพชรและพลอย ซึ่งหมายถึง อัญมณีทุกชนิดยกเว้นเพชร หากผ่านการตกแต่งหรือเจียระไนแล้ว เรียกว่า อัญมณี นอกจากนี้ ยังมีอัญมณีที่ได้จากสิ่งมีชีวิตที่ได้แก่ ไข่มุก และปะการังและอำพัน
ไข่มุกเป็นอัญมณีเพียงไม่กี่อย่างที่กำเนิดจากสิ่งมีชีวิต ไข่มุกธรรมชาติเกิดจากหอยมุกในขณะที่กินอาหารแล้วมีกรวดทรายปะปนเข้าไป จึงต้องปล่อยเมือกซึ่งมีส่วนประกอบของแคลเซียมคาร์บอเนตออกมาเคลือบสิ่งแปลกปลอมเพื่อลดการระคายเคืองแก่เนื้อหอย จนเป็นไข่มุกที่แข็ง แวววาว ยิ่งชั้นมุกมีความหนามากไข่มุกก็จะมีความแวววาวมาก มีสีขาว เงินยวง ชมพูและสีทอง ไม่กลม มักบิดเบี้ยวขึ้นอยู่กับวัสดุที่เล็ดลอดเข้าไปในตัวหอยมุกว่ามีลักษณะเดิมเป็นอย่างไร ไข่มุกธรรมชาติเป็นของหายากและเป็นเครื่องประดับที่แพงมาก ไข่มุกสามารถนำมาทำเป็นเครื่องประดับหรือนำมาบดในการใช้เป็นเครื่องสำอาง ถือว่าไข่มุกเป็นอัญมณีแห่งสายน้ำ
ไข่มุกแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ไข่มุกธรรมชาติ และไข่มุกเลี้ยง ซึ่งสามารถเลี้ยงได้ทั้งในน้ำเค็มและน้ำจืด ในกรณีของไข่มุกเลี้ยงน้ำเค็ม สิ่งที่ทำให้เกิดความระคายเคืองในหอยมุกคือลูกปัดกลมๆ ที่ทำจากเปลือกหอย ส่วนไข่มุกเลี้ยงน้ำจืดนั้นจะใช้เนื้อเยื่อจากหอยมุกเองใส่เข้าไปแทนลูกปัดเพราะหอยมุกน้ำจืดตัวเล็กกว่าหอยมุกน้ำเค็ม จึงทำให้ไข่มุกเลี้ยงน้ำจืดมีรูปร่างไม่กลมเท่าที่ควรจนถึงบิดเบี้ยวเล็กน้อย ไข่มุกเบี้ยวเรียกว่าบาโรก (Baroque)
โดยปกติไข่มุกจะมีสีขาวเหลือบสีรุ้งเล็กน้อยจนถึงขาวนวล แต่ก็มีสีอื่นๆ อีกเช่น ชมพู เงิน ครีม ทอง เหลือง เทา และดำ เป็นต้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับชนิดของหอยมุก น้ำ และสภาวะแวดล้อมในบริเวณที่หอยมุกอยู่อาศัยคุณสมบัติของไข่มุกทางอัญมณี ไข่มุกมีความแข็งประมาณ 2.5-3.5 เนื้ออ่อนกว่าแก้วแต่บดให้แตกเป็นผงค่อนข้างยากเนื่องจากมุกมีการจับตัวที่แน่นมาก ไข่มุกมีค่าดัชนีหักเหประมาณ 1.53-1.69 ความวาวเป็นความวาวในตัวเองเรียกว่า “วาวแบบมุก”
เนื่องจากไข่มุกเป็นอัญมณีเกิดจากสิ่งที่มีชีวิตจึงไม่ควรให้โดนกรด น้ำหอม สบู่ ครีมทาผิว หรือสเปรย์ใส่ผม เพราะอาจทำให้สีของมุกเปลี่ยนไป สำหรับในประเทศไทยเราก็มีฟาร์มเลี้ยงหอยมุกในจังหวัดภูเก็ต พังงา ระนอง สุราษฎร์ธานี และกาญจนบุรี
ครับ ! มีชาวประมงชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งอาศัยอยู่ในเกาะปาลาวันของประเทศฟิลิปปินส์ (ประเทศฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่เป็นหมู่เกาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ประกอบด้วยเกาะ 7,641 เกาะ ส่วนเกาะปาลาวันนั้นทอดยาวจากเกาะมินโดโรทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือสู่เกาะบอร์เนียวทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และคั่นกลางระหว่างทะเลจีนใต้กับทะเลซูลู) ไปเจอหอยมุกขนาดยักษ์ระหว่างออกไปหาปลา เนื่องจากโยนสมอเรือไปเกี่ยวติดเข้าจึงจัดการนำหอยมุกยักษ์ขึ้นมาทำการแงะหอยมุกจนเจอไข่มุกขนาดใหญ่น้ำหนัก 34 กิโลกรัม หรือประมาณ 170,000 กะรัต นับว่าเป็นไข่มุกขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยเขาได้นำไข่มุกยักษ์นี้มาไว้ใต้เตียงนอนเพื่อเป็นเครื่องรางนำโชคเท่านั้นในบ้านร่วม 10 ปีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าไข่มุกนี้จะมีราคาถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 3.4 พันล้านบาท
จนกระทั่งบ้านของเขาถูกไฟไหม้และต้องย้ายบ้าน เขาได้นำเอาไข่มุกนี้ไปฝากไว้กับเจ้าหน้าที่หญิงที่ทำงานการท่องเที่ยวท้องถิ่นในเมืองเปอร์โต ปรินเซสก้า จึงเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมาเพราะเมื่อนำไปตรวจสอบ แล้วพบว่ามันเป็นไข่มุกขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีการค้นพบมา และใหญ่กว่าไข่มุกที่ใหญ่ที่สุดที่เคยถูกพบมาถึง 5 เท่าเลยทีเดียวกล่าวคือไข่มุกยักษ์นี้มีขนาดความยาวที่ 2.2 ฟุต กว้าง 1 ฟุต และหนัก 34 กิโลกรัม โดยหากเทียบกับราคาของไข่มุกขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ค้นพบก่อนหน้านี้ คือ “ไข่มุกแห่งเล่าจื๊อ” ที่มีน้ำหนัก 6.4 กิโลกรัม มีราคาถึง 35 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่ง “ไข่มุกแห่งเล่าจื๊อ” นี้ถูกพบที่เกาะปาลาวัน ในฟิลิปปินส์เช่นเดียวกัน
