เดินตามหลังผู้ใหญ่ ที่ไม่ขี้ก้อนใหญ่ให้เธอเห็น : โดย กล้า สมุทวณิช

วัฒนธรรมไทยเราก็เช่นเดียวกับวัฒนธรรมตะวันออกที่ให้คุณค่าแก่ความอาวุโส ซึ่งไม่ได้หยาบตื้นเพียงแค่หมายถึงการนับถือกันเพียงเพราะเกิดก่อน หากเป็นเพราะประสบการณ์ที่สั่งสมมาต่างหาก ที่ทำให้ผู้มาทีหลังสมควรที่จะเคารพรับฟังและประพฤติตามผู้ที่หายใจอยู่บนโลกนี้มานานกว่า

ค่านิยมเหล่านี้สะท้อนผ่านภาษิตคำพังเพยของไทยที่คุ้นปากคุ้นหู เช่น “เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด” เพราะผู้ใหญ่นั้น “อาบน้ำร้อนมาก่อน”

แต่วัฒนธรรมเช่นนั้นก็ไม่ได้เป็นบทบังคับเอาแต่เพียงเด็กหรือผู้น้อย แต่ก็ยังเรียกร้องเอาแก่ฝ่าย “ผู้ใหญ่” ด้วยเช่นกันว่าจะต้องรักษาศีลมีธรรม ไม่กระทำเรื่องน่าอาย ไม่ “ขี้ก้อนใหญ่ให้เด็กเห็น” เพราะมิเช่นนั้นอาจจะถูก “ถอนหงอก” เอาได้

ภาษิตพังเพยเหล่านี้มิได้ร่วงหล่นพ้นสมัย หากมันนำมาใช้อธิบายสภาวการณ์บางอย่างหลังการเลือกตั้งครั้งแรกภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

Advertisement

จากการเมืองที่เกิดจากการปะทะกันระหว่างคนเมืองกับคนต่างจังหวัด ไปสู่การเมืองสองสี ในความขัดแย้งประเภทหลังที่กินเวลาเกือบ 20 ปีนี้ เริ่มมีการก่อตัวที่เลือนรางของการเมืองเชิงอุดมการณ์ และมาชัดเจนเอาในความขัดแย้งหลังการเลือกตั้งนี้ เมื่อเกิดการปะทะกันระหว่างคนรุ่นหนุ่มสาว และบรรดาผู้ใหญ่ที่เกิดคลอดอยู่รอดมาก่อน

ตรงไปตรงมา คือระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของเผด็จการจารีตนิยมที่หัวขั้วนั้นคือพรรคพลังประชารัฐ และฝ่ายที่ต่อต้านการสืบทอดอำนาจ ที่มีพรรคอนาคตใหม่เป็นธงนำ

แม้การปะทะกันเชิงอุดมการณ์จะมีรูปแบบไม่แตกต่างจากสงครามสีและนกหวีดกับมนุษย์ แต่สิ่งที่ชัดเจนยอมรับกันทั้งสองฝ่าย คือเรื่องนี้เป็นความขัดแย้งเชิงอุดมการณ์มากกว่าผลประโยชน์

Advertisement

สังเกตจากการที่ไม่มีใครป้ายสีสาดโคลนไปว่าอีกฝ่าย “ถูกซื้อ” (ซึ่งเป็นนัยแสดงถึงผลประโยชน์) อีกต่อไปแล้ว แต่เป็นเรื่องที่ฝ่ายหนึ่งก็ว่าคนรุ่นใหม่ถูกลวงหลอกด้วยความไร้ปัญญาและประสบการณ์ ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งก็สวนไปว่าเพราะฝ่ายตรงข้ามนั้นตกหล่มความคิด พยายามยื้อจับแช่แข็งโลกที่ล่มสลายละลายลง

ซึ่งขอย้ำตรงนี้ว่าต่อให้เป็นความขัดแย้งเชิงผลประโยชน์ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร หากแต่สิ่งที่ต้องยอมรับตรงกันคือ ความขัดแย้งเชิงผลประโยชน์นั้นอาจจะยุติได้ไม่ยากเกินไปนักหากสามารถจัดการประโยชน์นั้นต้องตรงกันได้ แต่ความขัดแย้งเชิงอุดมการณ์นั้นจบยากกว่า

ปรากฏการณ์ “พานไหว้ครู” ล้อการเมืองที่ปรากฏขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว เป็นอีกหนึ่งสีสันของการปะทะกันของสองค่านิยมและสองอุดมการณ์นี้

“พานไหว้ครู” สื่อความคิดเห็นที่เกิดขึ้นแทบทุกภาคของประเทศโดยมิได้นัดหมาย แต่ทั้งหมดนั้นมีสารที่สื่อไปตรงกันหมด คือการล้อเลียนการสืบทอดอำนาจของผู้ทำรัฐประหารและกลไกฉ้อฉลเพื่อการนั้น ความไม่น่าเชื่อถือของบรรดาองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่มีบทบาทในทางการเมือง รวมถึงการแสดงความชื่นชมหรือรังชังนักการเมืองที่เป็นตัวแทนของสองฝั่งฝ่ายอย่างแจ้งชัด

แจ้งชัดจนฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองสะดุ้งเฮือกเหมือนเข็มแทง ต้องแล่นไปตรวจสอบกันถึงที่ เป็นที่ครหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารว่างมากถึงขนาดมาส่องหาตรวจตราเอากับพานไหว้ครู หรือนัยว่าผู้มีอำนาจในบ้านเมืองกลัวแม้แต่พานไหว้ครูแล้วหรือ

ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าผู้มีอาวุธและกองกำลังในมือนั้นหวาดกลัวเอาแก่พานไหว้ครูจริงๆ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นการเอาชนะเผด็จการก็คงง่ายดี ช่วยกันทำพานไหว้ครูกันคนละพุ่มไปวางไว้หน้าทำเนียบรัฐบาลหรือค่ายป้อม พวกเขาก็คงหัวใจวายตายไปเอง

เขาไม่ได้กลัวพานไหว้ครูเหมือนเราไม่ได้กลัวมดแมลง ที่เราย้ายที่หนีหรือบี้มันทิ้งเวลาเจอยุงเจอมด ก็เพราะเรารู้สึกว่ามันกำลังรบกวนเรา แต่ไม่ใช่เพราะเรากลัวพวกมัน

กระนั้นก็ใช่ว่าเรื่องนี้จะเสียเปล่าหรือไร้น้ำหนักเอาเสียเลย ก็เหมือนเรื่องมดหรือยุงอีกเหมือนกันที่เราไม่ได้กลัว เราบี้หรือตบมันได้ แต่ถ้าเจอมดแดงทั้งรังหรือยุงสักฝูง มนุษย์ผู้ทรงอำนาจก็ไม่ได้รู้สึกปลอดภัยนัก

เด็กนักเรียนและพานไหว้ครูนั้นก็ไปรบกวนผู้มีอำนาจที่รู้แก่ใจว่าตนได้อำนาจมาอย่างไรในระดับเดียวกับมดคันไฟที่ตกลงไปในพวงร่องของสงวน แม้เพียงตัวน้อยสองสามตัวก็ปวดแสบปวดร้อนนั่งไม่ติดได้

เพราะพานไหว้ครูเหล่านั้นแสดงให้เห็นชัดเจนว่า เด็กๆ รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมือง และผู้มีอำนาจได้แสดงอิทธิฤทธิ์อะไรไว้ให้พวกเขาดู

และยิ่งกว่านั้น คือความ “ชัดเจน” ว่าความนิยมของเด็ก วัยรุ่น และคนรุ่นหนุ่มสาวที่มีต่อพรรคอนาคตใหม่และธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (หรืออาจจะรวมปิยบุตร และช่อ พรรณิการ์ด้วย) นั้นไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคล ความหล่อสวยรวยฉลาด อย่างที่หลายคนในฝ่ายนั้นอาจจะคิดปรามาสเพื่อปลอบใจตัวเอง

แต่มันแสดงให้เห็นว่าที่เด็กๆ เขาเทใจไปฝั่งนั้น เป็นเพราะเขาเห็นความฉ้อฉลของอีกฝ่ายหนึ่งและศรัทธาในแนวคิดและอุดมการณ์ของฝ่ายนี้ หรือแม้แต่เพียงสนับสนุนเพราะมั่นใจว่าพรรคการเมืองและคนที่เขาเลือกสนับสนุนจะไปปิดสวิตช์หรือจัดการพวกฉ้อฉลเหล่านั้น รวมถึงการสร้าง “อนาคต” อย่างที่เขาต้องการ

พานที่จี้ใจดำที่สุด คือพานไหว้ครูที่เป็นรูปตราชูหรือตาชั่งเอียง แสดงฝ่ายที่มีจำนวนเพียง 250 นั้นกลับมีน้ำหนักกว่าเสียงของประชาชนนับล้านๆ

ที่พวกเขาอยู่กันไม่เป็นสุขเพราะสิ่งที่เขาเคยคิดว่าต้องทำอย่างไรก็ได้เพื่อกำจัดภัยคุกคามสีส้มและชายหนุ่มผมเกรียนสวมเสื้อเชิ้ตขาวคนนั้นออกไปแล้วทุกอย่างจะ “จบ” นั้น เรื่องจะไม่เป็นเช่นที่เขาคาดหวัง เพราะเยาวชนของชาติ ผู้ที่มีและกำลังจะมีสิทธิเลือกตั้งต่อไปในอนาคตได้เห็นความฉ้อฉลของพวกเขาจนหมดไส้แล้ว และกำลังเย้ยหยันให้พวกเขาเป็นตัวตลก

ต่อให้กำจัดธนาธร ยุบพรรคอนาคตใหม่ ส่งปิยบุตรไปนอกประเทศ จับช่อมาเผาแม่มด เด็กๆ ที่รู้เช่นเห็นชาติและเข้าใจอย่างที่พวกเขาเข้าใจอยู่ในทุกวันนี้ก็พร้อมที่จะเลือกและสนับสนุนใครก็ตามที่จะมาเป็นปฏิปักษ์ต่อการดำรงคงอำนาจ ที่จะมาเป็นธนาธรหมายเลขสอง สาม สี่ ที่ไม่มีวันตาย

ขนาดว่างัดเอาอาวุธร้ายแรงที่เคยใช้ได้ผลในการสร้างความเกลียดชังแต่ดึกดำบรรพ์มาป้ายใส่ ก็ปรากฏว่ามีเด็กๆ ทำพานไหว้ครูเพื่อสนับสนุนให้กำลังใจธนาธรและช่อ เป็นสัญญาณปฏิเสธว่าข้อกล่าวหาโบราณนั้นพ้นสมัยไร้น้ำหนักไปแล้ว

แล้วจะไม่ให้พวกเขาสะดุ้งเฮือกจนบรรดาคนข้าม้าใช้ต้องเต้นตามจนเสียกิริยาได้อย่างไร

ความพยายามตอบโต้ของพวกเขาว่าพวกเด็กๆ นั้นไม่ได้รู้เรื่องอะไร แค่ถูกเป่าหูหรือล้างสมองมา หรือที่พวกปฏิบัติการจิตวิทยาพยายามป้ายชี้ให้เห็นว่าเด็กๆ ก็ไม่ได้มีความรู้ทางการเมืองการปกครองอะไรหรอก ส.ส.มีกี่คนตุลาการมีกี่ท่านก็ยังตอบไม่ได้เลย

แต่เรื่องที่เด็กๆ เขารับรู้นั้นไม่ใช่ความรู้ท่องจำที่ไม่ต้องอาศัยสติปัญญาแบบนกแก้วนกขุนทองอะไรพวกนั้น

สิ่งที่เขารับรู้ คืออย่างเดียวที่คนทั่วไปได้รับรู้และสัมผัสได้ จากเดิมพันทุกอย่างที่ผู้อยากสืบทอดอำนาจเทวางลงบนโต๊ะแบบไม่ต้องเหนียม เริ่มจากกลไกอำพรางในกระบวนการประชามติให้คนยอมรับให้รัฐสภาสรรหานายกฯ โดยไม่บอกให้ชัดว่ารัฐสภานั้นรวมถึงวุฒิสภา และวุฒิสภา 250 คน มาจากการแต่งตั้งของบุคคลที่ประสงค์จะเป็นนายกรัฐมนตรี

ขนาดได้เปรียบออกอย่างนั้น แต่กระบวนการแต่งตั้งสรรหาผู้มาดำรงตำแหน่งวุฒิสภากลับไม่ชัดเจน กระทำกันอย่างงุบงิบปิดลับ ด้วยกระบวนการใดไม่ปรากฏ แต่ใช้งบประมาณเกือบเท่าที่ตูนบอดี้สแลมหาได้จากการวิ่งเหนือจรดใต้ ได้เงินไปสร้างไปซื้ออุปกรณ์การแพทย์ได้ถึง 11 โรงพยาบาล

ทั้งเมื่อเปิดรายชื่อกรรมการสรรหาออกมา ก็ปรากฏว่าเกือบทั้งหมดของรายชื่อคือผู้ที่ได้รับเลือกเป็น ส.ว.เองนั่นแหละ หรือไม่ก็ญาติพี่น้อง แถมในบรรดากรรมการนั้นก็ยังมีคีย์แมนของพรรคการเมืองของฝ่ายรัฐบาลที่ประสงค์จะกลับมามีอำนาจด้วย – ไม่เกรงใจกันถึงขนาดนี้

ภาพที่ ส.ว.ที่กล่าวได้ว่า “ทุกคน” ขานชื่อเป็นฝักถั่วเลือกบุคคลที่เลือกพวกเขาเข้ามา อาจจะมีเว้นแต่คนหนึ่งที่งดออกเสียงเพราะยังพอจะมีมารยาทและความละอายอยู่บ้าง (แต่เราก็คาดหมายได้ไม่ยากว่าถ้าเขาเลือกได้เขาจะเลือกใคร) คือภาพที่เด็กๆ ได้เห็น

ภาพที่ผู้สมัครเป็นนายกฯที่อาสาจะมาหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจแพ้ยับเยินในการออกเสียงโดยรัฐสภา แต่แพ้อย่างฉิวเฉียดด้วยคะแนนจากผู้แทนราษฎร ซึ่งมีที่มาก่อนหน้าว่าเสียงที่ควรสนับสนุนเขาจำนวนหนึ่งที่หายไปนั้นเกิดจากวิธีคิดคำนวณที่นั่งอันพิสดารที่เล่นกลกันนานกว่าจะยอมเปิดเผย โดยองค์กรอิสระผู้รับผิดชอบผู้ไม่มีเครื่องคิดเลขใช้ที่ออกมาเล่นตลกรายวันนั่นก็ด้วย คือภาพที่เด็กๆ ได้เห็น

ไม่นับภาพขององค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบความสุจริตทุจริตของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกมายอมรับเหตุผลแบบซื่อตาใสเรื่องนาฬิกายืมเพื่อนมาและเพื่อนตายแล้ว ก็คือภาพที่เด็กๆ เขาได้เห็น

และยังไม่ได้รวมภาพของกระบวนการดำเนินการตรวจสอบดำเนินคดีด้วยกระบวนการและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันระหว่างสองกรณีของสองฝ่ายสองฝั่ง แบบที่ชัดแจ้งแค่เอาปฏิทินมากางดูหรือเปิดสองกรณีเปรียบเทียบสาระสำคัญกัน ก็เป็นภาพที่พวกเขาได้เห็นแล้ว และกำลังจะได้เห็นต่อไป

ดังที่มีใครสักคนกล่าวไว้ว่า กระบวนการต่างๆ ที่ปรากฏให้เห็นนับแต่ปิดหีบเลือกตั้ง หากใครยังมองว่านี่คือความเป็นธรรมหรือทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการที่ชอบแล้ว ถ้าไม่โง่เซอะมิรู้เหนือรู้ใต้ ก็คงจะเป็นคนที่มีส่วนในการฉ้อฉลหรือเอาใจช่วยในการเล่นเล่ห์กลโกงนั้น

เรื่องนี้เอาเข้าจริงๆ มันไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างขั้วความคิดหรืออุดมการณ์เสรีนิยมกับอนุรักษนิยมด้วยซ้ำ เพราะพวก “อนุรักษนิยม” นั้นเขาจะไม่เล่นกลฉ้อฉลเพื่อเอาเปรียบอีกฝ่าย เพราะสิ่งที่ชาวอนุรักษนิยมเขายึดถือคือสัจจะและจริยธรรม พวกเขาจะไม่ทำอะไรที่หน้าไม่อายไร้เกียรติ

เด็กเขาไม่ได้มีปัญหากับการเดินตามหลังผู้ใหญ่ แต่เขาแค่ชูนิ้วกลางใส่คนขี้โกงอย่างสิ้นเคารพหมดศรัทธา

ก็เพราะพวกท่านนั่นแหละไปขี้ก้อนใหญ่ให้เขาเห็นเอง ปล่อยปฏิกูลออกมาเหม็นหึ่งกลางศาลาร้านตลาดแบบไม่รู้จักอับอาย แถมยังเดินจากไปแบบไม่ยอมล้างก้นอีกต่างหาก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image