ผู้เขียน | สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : นายกฯแร็พเปอร์ : โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
เป็นครั้งแรกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องทำหน้าที่ต่อหน้าสมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะต่อสมาชิกสภาผู้แทนฯ อันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับช่วง 5 ปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซ้ายหันขวาหันทันอกทันใจ
บรรยากาศการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งเปิดฉากเมื่อเช้าวันที่ 25 กรกฎาคม เป็นที่สนใจติดตามจากชาวบ้านอย่างมากมาย ซึ่งก็ไม่ผิดหวังและไม่ผิดคาด
ส.ส.ฝ่ายค้าน ต้อนรับนายกรัฐมนตรีน้องใหม่ของระบอบประชาธิปไตยได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ โดยประท้วงเรื่องข้อบังคับตั้งแต่เริ่มอ่านนโยบายกันเลยทีเดียว
แต่ก็เป็นไปอย่างครื้นเครง ตลกขบขันกันไป ด้วย พล.อ.ประยุทธ์ยอมรับเองว่า เป็นมือใหม่
สลับกับจังหวะที่ตอบโต้กันเครียดๆ ว่าด้วยน้ำเสียงดุดัน ซึ่งโดนประท้วงว่า ส.ส.ไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชา
ขณะเดียวกันการอ่านเอกสารจำนวน 66 หน้า ยาวๆ เกือบ 2 ชั่วโมงของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นที่กล่าวขวัญอย่างกว้างขวาง
นอกจากจะมี ส.ส.ท้วงติงเรื่องอ่านข้าม อ่านไม่ครบแล้ว
ในแวดวงโซเชียลวิจารณ์กันถึง ลีลาอ่านรัวเร็ว ยิ่งกว่าแร็พเปอร์
ศิลปินแร็พดังเจ้าของเพลงประเทศกูมีก็ร่วมแซวด้วยว่า ประยุทธ์พูดแถลงนโยบายเร็วกว่าร้องเพลงแร็พเสียอีก
เลยกลายเป็นฉายาใหม่ ตู่แร็พเปอร์
นอกจากบรรยากาศฮาๆ ผสมเครียดๆ แล้ว ในด้านสาระจากการอภิปรายท้วงติงนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะจากเหล่าขุนพลฝ่ายค้าน 7 พรรค ใครทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติส่วนรวมได้อย่างสมน้ำสมเนื้อขนาดไหน ประชาชนที่เฝ้าฟังเฝ้าดูอยู่คงตัดสินกันได้ไม่ยาก
โดยจุดสำคัญที่ฝ่ายค้านเน้นย้ำก็คือ เป็นนโยบายที่เขียนเอาไว้กว้างๆ ไม่กำหนดเป้าหมาย และช่วงเวลาที่ชัดเจน
อีกทั้งความที่รัฐมนตรีจำนวนไม่น้อยในรัฐบาลใหม่นี้ ยกแผงมาจากยุครัฐบาล คสช. เลยเป็นช่องให้ฝ่ายค้านสามารถอภิปรายย้อนไปถึงผลงานในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาได้
แถมเมื่อกล่าวถึงความเป็นมาของนายกฯเอง ยังสามารถย้อนไปถึงเหตุการณ์รัฐประหาร 2557 ได้อีก
ข้อมูลของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถือว่าจัดหนัก
เมื่ออภิปรายในประเด็นนโยบายด้านความศรัทธาในประชาธิปไตย ด้วยการย้อนถึงเส้นทางของ พล.อ.ประยุทธ์ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และคำพูดในห้องประชุมสโมสรทหารบก ในนาทีประกาศยึดอำนาจ มีคำพูดเตือนนักการเมืองอย่าคิดสู้ เพราะเตรียมการมา 3 ปีกว่าแล้ว
เมื่อนับเวลาตามนั้น ก็หมายถึงตั้งแต่ยิ่งลักษณ์ชนะเลือกตั้งเลยทีเดียว
ก็อาจเป็นปมคำถามที่ต้องนำไปขบคิดกันต่อไป
เช่นเดียวกับคำถามจาก นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่ตั้งคำถามถึงการกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ไม่ครบถ้วน
ก็คงเป็นอีกประเด็นที่ต้องรอดูผลกันต่อไป
แต่ถึงที่สุดแล้ว การแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา จะไม่มีการลงมติใดๆ
ทั้งหมดขึ้นกับประชาชน ที่รับฟังการชำแหละของฝ่ายค้าน เทียบกับการชี้แจงของนายกฯและรัฐบาล รวมทั้งการอภิปรายสนับสนุนของ ส.ส.พรรครัฐบาลรวมทั้ง ส.ว.
จะได้เอามาชั่งน้ำหนักทั้งสองด้าน แล้วเฝ้าจับตาติดตามผลงานรัฐบาลกันต่อไป
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน