ผู้เขียน | สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : วิธีพิสูจน์ความจริง : สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ มีมติไม่รับวินิจฉัยคำร้องกรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกรัฐมนตรี ผลที่ตามมา เกิดการตีความมติดังกล่าวไปในหลายทิศทาง ขณะที่ในแง่ของพรรคฝ่ายค้านมองว่า เมื่อไม่มีการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เท่ากับเปิดทางให้สภาได้ทำหน้าที่เรื่องนี้อย่างเต็มที่
การอภิปรายในวันที่ 18 กันยายนนี้ ทางพรรคฝ่ายค้านก็คงได้เดินเครื่องอย่างเต็มสูบ อีกทั้งก่อนหน้านี้ ฝ่ายรัฐบาลได้หยิบยกประเด็นการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญขึ้นมา เพื่อใช้เบรกฝ่ายค้านโดยตลอด
ทำนองว่าเรื่องอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ดังนั้นจะอภิปรายอะไรก็ให้ระวังด้วย จะละเมิดศาลเอาได้
แต่พอศาลรัฐธรรมนูญมีมติว่าไม่พิจารณาเรื่องนี้แล้ว ทางฝ่ายค้านก็ถือว่าทางโล่งสะดวก
เช่นนี้แล้ว แนวโน้มของการอภิปรายในวันที่ 18 กันยายน คงจะยิ่งดุเดือดเลือดพล่าน
ฝ่ายรัฐบาลก็คงไม่ยอมเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้ทำอะไรถนัดถนี่มากนัก
คงจะมีอีกหลายมาตรการที่งัดออกมาสกัดกันอย่างอลหม่านอีกแน่ๆ
แต่ต้องไม่ลืมว่า การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในเรื่องนี้ คือการอาศัยช่องทางของสภา
มีแต่ต้องสนับสนุนให้ดำเนินการ ด้วยเป็นกลไกตามระบอบประชาธิปไตย ที่จะช่วยให้การเมืองอันร้อนระอุไม่ลุกลามบานปลายออกไปสู่เวทีอื่นใด
อีกเรื่องที่กำลังเป็นของร้อนสำหรับรัฐบาลอีกเช่นกัน
กรณีสื่อในออสเตรเลียเปิดประเด็นเรื่องคดีความของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีคนสำคัญ ระดับที่เปรียบตัวเองว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่รัฐบาล
ฝ่ายค้านหยิบประเด็นนี้มาตั้งกระทู้ถามในสภา ซึ่งมีการอภิปรายซักถามและโต้ตอบกันอย่างดุเดือด
ประเด็นหลักก็คือ ร.อ.ธรรมนัสยืนยันว่า ข้อมูลในข่าวของสื่อออสเตรเลียนั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ตนเองแค่ติดร่างแหไปด้วย ไม่ใช่ตัวการของการขนยาเสพติดดังกล่าว ไม่เคยยอมรับสารภาพ และไม่เคยถูกศาลออสเตรเลียตัดสินว่ากระทำผิดในคดียาเสพติดดังกล่าว ไม่เคยติดคุกติดตะรางยาวนาน 4 ปีอะไรเหล่านั้น
เท่ากับว่า 2 ฝ่ายพูดกันคนละเรื่อง ตรงกันข้ามกันเลยทีเดียว
แต่ฝ่ายค้านก็ยืนยันจะต้องพิสูจน์ความจริงให้ได้ ด้วยการทำเรื่องในนามของสภาไทย ไปยื่นขอคำพิพากษาจากศาลออสเตรเลีย มาพิสูจน์กันให้กระจ่าง
จะได้หรือไม่ และคำพิพากษาจริงๆ เป็นเช่นไร น่าติดตามมากๆ
แต่ระหว่างนี้ มีบางคนเตรียมเสนอหนทางพิสูจน์ที่ง่ายและรวดเร็วอยู่
โดยถ้าดูจากอากัปกิริยาของ ร.อ.ธรรมนัส ก็ดูจะมั่นอกมั่นใจมากกับข้อมูลของตนเองที่ชี้แจงตอบโต้ไป
แถม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ก็ออกมาการันตีว่า ฟังที่ชี้แจงแล้วมีน้ำหนักเชื่อถือได้
เท่ากับว่าฝ่ายรัฐมนตรีที่ถูกโจมตีและแกนนำรัฐบาล พากันประกาศก้องว่า ไม่เคยมีพฤติการณ์ไปร่วมขบวนการยาเสพติดแน่นอน
ได้ยินมาว่า เดี๋ยวคงจะมีคนพร้อมจ่ายเงินตีตั๋วเครื่องบินให้เดินทางข้ามประเทศ โดยมีเงื่อนไขแค่ให้ขอวีซ่าผ่านให้ได้เท่านั้น
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน