บทนำ ประจำวันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2562

หลังจากจัดรายการระดมเงินบริจาค ช่วยเหลือน้ำท่วมอุบลราชธานี และจังหวัดภาคอีสาน เมื่อคืนวันที่ 17 ก.ย. ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางเยี่ยมผู้ประสบภัยที่อุบลราชธานี ด้วยเครื่องบินเที่ยวพิเศษ ไปยังท่าอากาศยานทหารที่ จ.อุบลฯ รับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำ การเตรียมแผนฟื้นฟูเยียวยาที่ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยพร้อมมอบถุงยังชีพ 83 ราย จากนั้นไปยังตลาดสดเทศบาล 3 สถานีวัดระดับน้ำ M7 เพื่อลงเรือตรวจเยี่ยมชุมชนริมแม่น้ำมูล มอบถุงยังชีพ การลงพื้นที่ครั้งนี้นายกรัฐมนตรีจะเก็บขยะในแม่น้ำมูลด้วย ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเวลา 17.30 น.

การช่วยเหลือน้ำท่วมภาคอีสาน โดยเฉพาะอุบลฯ ในครั้งนี้ มีประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากในช่วงที่มวลน้ำเข้าท่วมอุบลฯ ปรากฏว่านายกฯเดินทางไป จ.นครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี ดาราภาพยนตร์ชื่อดัง คือ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ซึ่งทำงานในด้านกู้ภัยและสังคมสงเคราะห์ด้วย ได้ไลฟ์สตรีมมิ่งผ่านเฟซบุ๊ก เผยว่าได้ลงพื้นที่น้ำท่วม พบว่าประชาชนเดือดร้อนมาก ประชาชนต้องหยุดงานอาชีพ ไม่มีเงินทองจับจ่ายใช้สอย ตนมอบเงินสดให้ พบว่าประชาชนดีใจมาก ดังนั้น จะนำเงินส่วนตัว 1 ล้านบาท มาแก้ปัญหาให้ประชาชน และขอเปิดรับบริจาค

ที่น่าสนใจ ก็คือ การที่สังคมบริจาคเงินช่วยน้ำท่วมผ่านบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ อย่างล้นหลาม จนยอดเงินทะลุ 100 ล้าน จนถึง 300 ล้านอย่างรวดเร็ว และบิณฑ์ได้เบิกเงินสดไปมอบให้เหยื่อน้ำท่วมบ้านละ 5 พันบาททันที สาเหตุอาจจะมาจากท่าทีของรัฐบาลที่ช้าและให้ความสนใจพื้นที่อุบลราชธานีน้อยเกินไป และให้ความช่วยเหลือแบบเดิมๆ คือข้าวสารอาหารแห้ง สิ่งของยังชีพอื่นๆ ทำให้ประชาชนหันไปบริจาคให้บิณฑ์ ซึ่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว ตรงกับความต้องการของประชาชน ไม่มีการจัดฉากหรือขั้นตอนพิธีรีตองตามแบบราชการมากเกินไป บทเรียนจากกรณีของอุบลฯ รัฐบาลควรสรุปให้ได้ว่า ระบบช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่รัฐบาลกระทำอยู่นั้น แก้ปัญหาให้ประชาชนได้ตรงจุดหรือไม่ ควรจะรับฟังประชาชนให้มากขึ้นหรือไม่ และอุปสรรคในการช่วยเหลือคืออะไร ส่วนหนึ่งเกิดจากระเบียบเบิกจ่ายที่เข้มงวดเกินเหตุของรัฐบาลใช่หรือไม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image