สถานีคิดเลขที่ 12 : ‘งบ’การเมือง!

งบประมาณด้านความมั่นคง และงบกลาง ตกเป็นเป้าโจมตี
ส.ส.ฝ่ายค้านเห็นว่ารัฐบาลจัดทำงบไม่สอดคล้องกับการจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนของปัญหาประเทศ      ที่ต้องได้รับการแก้ไข
ในขณะที่เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 4 ตัวติดขัด กลับให้น้ำหนักงบกลางสูงมากเป็นประวัติการณ์ 5.1 แสนล้าน งบความมั่นคงก็เพิ่มสูง ซึ่งนอกจากจัดให้โดยตรงแล้ว ยังแฝงอยู่ในแหล่งต่างๆ อีกด้วย
แต่งบลงทุนกลับต่ำแค่ 6.5 แสนล้านบาท ทั้งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากการลงทุนภาครัฐนั้น จะช่วยกระจายเม็ดเงินอย่างกว้างขวาง ลงลึกถึงฐานราก บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนจากปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องได้
การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ถูกทักท้วง ติติงในประการต่างๆ ทุกปี
การที่จัดทำได้ไม่สมบูรณ์นั้น เป็นเพราะรัฐบาลทุกชุดมีข้อจำกัด ความสามารถการหารายได้
รายรับไม่พอรายจ่าย

ส่วนราชการ หน่วยงาน กระทรวง ก็ยื่นขอในวงเงินสูง เผื่อถูกตัดจัดสรรให้สอดคล้องกับประมาณการรายรับ ที่อาจรวมถึงต้องกู้เพิ่ม จัดงบแบบขาดดุล อย่างที่รัฐบาลปัจจุบันทำ 469,000 ล้านบาท
ทุกกระทรวง โก่งตัวเลข เสนอเว่อร์จนเป็นเรื่องปกติ
กลายเป็นภาระรัฐ ที่ต้องพิจารณาตัดยอด
แต่รัฐบาลก็มิได้มีมาตรฐานในการตัดงบ
ดูคล้ายเกรงอกเกรงใจบางกระทรวง หรือแม้แต่เจ้ากระทรวง
ที่เป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาลทุกชุดคือ การจัดทำงบแบบการเมือง หลายรูปแบบ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงหลักการและเหตุผลการจัดทำงบปี’63 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 6 ด้าน อาทิ ด้านความมั่นคง การสร้างความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ฯลฯ
ดูจากถ้อยแถลง ก็จัดครบทุกด้าน ไม่หลงลืม มองข้ามเรื่องใหญ่ใดๆ
แต่ที่เป็นปัญหา คือไส้ใน วงเงินที่จัดสรรให้แต่ละด้าน
ที่เป็นคำถามมากคืองบด้านมั่นคง งบกลาง

เพื่อไทย พรรคแกนนำฝ่ายค้านในขณะนี้ เมื่อครั้งเป็นรัฐบาล
พรรคประชาธิปัตย์ฝ่ายค้านขณะนั้น ล็อกเป้าอภิปรายการตั้งงบกลางด้วยเช่นกัน แม้ตัวเลขไม่สูงเท่านี้
เนื่องจากไม่เห็นด้วย กับการใช้ง่าย แต่ตรวจสอบยาก
งบกลางเป็นเครื่องมือสำคัญนายกฯ ระบุไว้แต่วงเงิน ไม่ระบุรายละเอียดการใช้จ่าย
นั่นหมายความว่า นำไปใช้อะไรก็ได้ในภาษาการเมือง
งบกลางจึงเป็นงบการเมือง มีไว้ให้นายกฯใช้บริหารจัดการ

Advertisement

การจัดงบด้านความมั่นคงสูง ในยุคที่โลกให้ความสำคัญกับสงครามเศรษฐกิจ การค้า มากกว่าการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ ก็เป็นการจัดงบแบบการเมืองอย่างหนึ่ง
ในยุครัฐบาลเพื่อไทย ก็มีการจัดงบแบบเกรงใจ เอาใจกองทัพ เนื่องจากมีอิทธิพลสูงต่อความมั่นคงทางการเมืองของรัฐบาล
รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์นั้น ไม่ต้องพูดถึง ย่อมต้องให้ความสำคัญอันดับต้นๆ เพราะเติบโตมาจากกองทัพ
แต่มิใช่ว่ากองทัพไม่สำคัญ
กองทัพสำคัญแน่นอน ประเด็นที่มีการพูดถึงคือความพอเหมาะพอดีต่างหาก
งบกลางก็เหมือนกัน ความจำเป็นต้องใช้ ต้องมีเครื่องมือที่คล่องตัวอยู่อย่างแน่นอน แต่ที่เป็นคำถามคือวงเงิน
เหตุใดสูงขนาดนี้

ที่การจัดทำงบเป็นปัญหาทุกปี แท้ที่จริงแล้ว เนื่องจากรัฐบาล มิได้จัดตามลำดับความสำคัญ วาระเร่งด่วนของปัญหาประเทศ
แต่จัดงบแบบการเมือง
งบกลางชัดเจนมากว่าเป็นเรื่องการเมืองอย่างมิต้องสงสัย การใช้จ่ายมีผลได้ผลเสียทางการเมืองสูง งบความมั่นคงนั้นเล่าก็จัดให้เพื่อใช้ในการบริหารจัดการ เพื่อความอยู่รอดมั่นคงของรัฐบาล
ไม่ใช่ในนิยามความหมายที่ยึดโยงประชาชน ความมั่นคงปากท้อง พื้นฐานสำคัญของความมั่นคงของชาติ

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image