บทนำมติชน : คืบหน้ากรณี‘บิลลี่’

คดีนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ผู้นำกะเหรี่ยงแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หายตัวไปเมื่อ 5 ปีก่อน มีความคืบหน้ามากขึ้นอีก โดยเมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อนุมัติหมายจับ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้ต้องหาที่ 1, นายบุญแทน บุษราคำ ผู้ต้องหาที่ 2 และนายธนเสฏฐ์ หรือนายไพฑูรย์ แช่มเทศ ผู้ต้องหาที่ 3 ในข้อหาต่างๆ อาทิ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฯลฯ, ร่วมกันอำพรางคดี ฯลฯ และออกหมายจับ นายกฤษณะพงษ์ จิตต์เทศ ผู้ต้องหาที่ 4 ซึ่งไม่ใช่ข้าราชการ ในข้อหาสนับสนุน กระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฯลฯ

ต่อมาวันที่ 12 พ.ย. นายชัยวัฒน์ และพวก 4 ราย เดินทางเข้ามอบตัว เจ้าหน้าที่นำตัวส่งศาลฯ เพื่อฝากขังและยื่นคัดค้านการประกันตัว พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอเผยว่าคดีนี้สอบพยานบุคคลไปแล้วกว่า 100 ปาก พยานต่างๆ รวมทั้งสำนวนคดีจาก ป.ป.ท. พบว่านายชัยวัฒน์จับนายบิลลี่ไป แต่ไม่มีหลักฐานในการปล่อยตัวและนายบิลลี่หายไป นอกจากนี้ นายชัยวัฒน์มีข้อพิพาทกับกลุ่มกะเหรี่ยง เป็นคู่กรณีขัดแย้งกันมาตลอด มีข้อมูลจากศาลปกครองที่มีคำสั่งให้ชดใช้บ้านที่เสียหายจากการถูกเผาของชาวกะเหรี่ยง ประเด็นการสอบสวนจะเน้นการเชื่อมโยงหลักฐานที่มีทั้งหมด แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ดีเอสไอยังเข้าค้นไร่ชัยราชพฤกษ์ ต.สองพี่น้อง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งเชื่อว่าเป็นของนายชัยวัฒน์ โดยมีนายไพโรจน์ ลิ้มลิขิตอักษร พี่ชายนายชัยวัฒน์ เป็นผู้นำเข้าตรวจค้น

หลังจากนี้คดีจะเข้าสู่การพิจารณาของศาล เพื่อคลี่คลายปริศนาการหายตัวที่โด่งดังที่สุดเรื่องหนึ่งในสังคมไทยและแพร่กระจายสู่นานาชาติด้วย กรณีนี้ถือเป็นเหตุทำให้การผลักดันแก่งกระจานเป็นมรดกโลกต้องสะดุดลง ประเด็นของปัญหาคือ การใช้อำนาจของรัฐ กระทำต่อประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ แล้วกลายเป็นกรณีค้างคา ไม่มีการให้ความเป็นธรรม การร้องเรียนของครอบครัวเหยื่อ ใช้เวลา 5 ปี กว่าคดีจะเดินทางมาถึงจุดนี้อีกครั้ง การแสดงพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงต่างๆ ตามกระบวนการของศาล จะทำให้กรณีนี้ยุติลงด้วยความเข้าใจของทุกฝ่าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image